นับวัน “ความเป็นเมือง” (Urbanization) จะยิ่งขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก จากปี 1960 สัดส่วนประชากรอาศัยในเขตเมืองอยู่ที่ 34% ของประชากรทั่วโลก เพิ่มขึ้นเป็น 56% ในปี 2020 และ “United Nations” (UN) ยังคาดการณ์ว่าภายในปี 2050 สัดส่วนประชากรที่อาศัยในเมืองจะเพิ่มขึ้นเป็น 68% ของจำนวนประชากรทั่วโลก โดยเกือบ 90% ของการเพิ่มขึ้นนี้ เกิดขึ้นในเอเชีย และแอฟริกา
เมื่อความเป็นเมืองเพิ่มมากขึ้น และสังคมเมืองมีความหนาแน่นสูง สิ่งที่ตามมาคือ พื้นที่การอยู่อาศัยจะยิ่งเล็กลง ในขณะที่ความต้องการพื้นฐานของผู้คนยังคงเหมือนเดิม ทุกคนต้องการที่อยู่อาศัย เพื่อหลับนอน พักผ่อน ทำอาหาร รับประทานอาหาร เพื่อความบันเทิง และมากไปกว่านั้น ทุกวันนี้บ้านได้กลายเป็นสถานที่ทำงานไปแล้ว
ผลสำรวจของ “IKEA” (อิเกีย) ระบุว่าผู้คนต้องการโซลูชั่นในการอยู่อาศัยที่ช่วยให้สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่น สามารถใช้ห้อง หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ 1 ตัว สำหรับการทำกิจกรรมที่หลากหลายแตกต่างกัน เพื่อช่วยให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่ใช้สอยที่มีอย่างจำกัด ขณะเดียวกัน แม้ต้องอยู่อาศัยในพื้นที่ขนาดเล็ก แต่ผู้คนก็ยังต้องการให้ที่อยู่อาศัยนั้น สะท้อนไลฟ์สไตล์ของตัวเองด้วยเช่นกัน
เพื่อตอบโจทย์ Urbanization ขยายตัว และแนวโน้มที่อยู่อาศัยมีขนาดเล็กลง “IKEA” ได้ศึกษาและพัฒนาโซลูชันแก้ pain point ของการอยู่อาศัยในพื้นที่ขนาดเล็ก หนึ่งในโปรเจคคือ “เฟอร์นิเจอร์รูปแบบ Multifunction” ที่ผู้ใช้งานปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับการใช้งานต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
โดยโจทย์ของการพัฒนาโซลูชันเพื่อการอยู่อาศัยในพื้นที่ขนาดเล็ก ต้องช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยร่วมกัน ขณะเดียวกันยังทำให้ผู้อยู่อาศัยได้มีพื้นที่ส่วนตัว
สำรวจการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ – ประชากรหนาแน่น กับที่อยู่อาศัยขนาด 15 ตารางเมตร
Yasushi Kusume หัวหน้าทีมสำรวจและผู้จัดการฝ่ายพัฒนานวัตกรรม IKEA เล่าว่า ตนเองได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ญี่ปุ่น และได้เช่าอพาร์ทเม้นท์ในระหว่างที่พักอาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งเป็นห้อง Standard ของอพาร์ทเม้นท์ในโตเกียว ตั้งอยู่ในทำเลเดินทางสะดวก ขนาดพื้นที่ 20 – 25 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยในระยะยาวในเมืองใหญ่ที่ประชากรหนาแน่นเมืองหนึ่งของโลก
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมสำรวจ และผู้จัดการฝ่ายพัฒนานวัตกรรม IKEA Yasushi พร้อมด้วยทีมงาน ได้สำรวจและศึกษาเพิ่มเติมถึงการใช้ชีวิตในพื้นที่ขนาดเล็กในเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนหนาแน่น โดยลงพื้นที่พูดคุยกับคนที่อาศัยในเมืองใหญ่ ทั้งนิวยอร์ค, ลอนดอน, โตเกียว ซึ่งอาศัยในพื้นที่ขนาดเล็ก ทั้งอยู่แบบครอบครัว และอยู่คนเดียว พบว่าพื้นที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15 – 75 ตารางเมตร และบางคนก็อยู่ในพื้นที่เล็กกว่านั้น
“ผู้คนจำนวนมากอาศัยในเมืองที่มีความหนาแน่นสูง และจากรายงานของเราแสดงให้เห็นว่าขนาดพื้นที่ของการอยู่อาศัยที่บ้านต่อคนโดยเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 24 ตารางเมตร และถ้าเป็นในเมืองใหญ่อยู่ที่ 15 ตารางเมตร”

อย่างในนิวยอร์ค บางคนมีอพาร์ทเม้นต์เพื่อนอนเท่านั้น ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น ครัว และห้องน้ำ เต็มไปด้วยของ เวลาจะอาบน้ำ พวกเขาจะไปอาบที่ยิม และถ้าจะกินอาหาร ก็จะไปที่ร้านอาหาร หรือถ้านัดพบเพื่อน ก็จะไปที่อื่น
ในขณะที่ลอนดอน ผู้คนอยากมีบ้านที่สามารถปรับเปลี่ยนได้มากขึ้น และง่ายต่อการจัดเก็บในการย้ายบ้าน ส่วนในโตเกียว มีการหยิบยกแนวคิด Danshari (การละทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต) เป็นแนวคิดที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้สงบ ปลอดโปร่ง และบ้านไม่รกแล้ว ยังทำให้การอยู่อาศัยโฟกัสอยู่กับสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตจริงๆ
“สิ่งหนึ่งที่เราค่อนข้างประหลาดใจคือ หลายคนต้องการให้แขกมาเยี่ยมที่บ้าน แม้จะมีพื้นที่เล็กก็ตาม เพื่อทานอาหารเย็นร่วมกัน หรือแชร์งานอดิเรกร่วมกัน เราจึงต้องมองหาวิธีการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมจากความส่วนตัว สู่พื้นที่ทางสังคมในรูปแบบที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเป็นเจ้าภาพงานที่ดีได้ แม้ในพื้นที่จำกัด”
พัฒนาเฟอร์นิเตอร์ต้นแบบ “เตียง-โต๊ะปรับเปลี่ยนและพับเก็บได้”
หนึ่งในโปรเจคการพัฒนาโซลูชันเพื่อการอยู่อาศัยในพื้นที่ขนาดเล็ก คือ การออกแบบเฟอร์นิเจอร์รูปแบบ Multifunction สามารถปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ได้ตามกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น เปลี่ยน living space ให้เป็นห้องนอน หรือเปลี่ยนห้องนอน ให้เป็นพื้นที่ทำงาน หรือเรียนหนังสือ
เฟอร์นิเจอร์ต้นแบบ Multifunction ของ IKEA ประกอบด้วย “เตียง” และ “โต๊ะทำงาน” ออกแบบผสานเข้าด้วยกัน พร้อมพื้นที่เก็บของใต้โต๊ะ, ที่เก็บของข้างเตียง และพื้นที่วางของด้านบน กับด้านข้างของเฟอร์นิเจอร์ชุดนี้ โดยผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนได้สะดวก ง่าย และรวดเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับพื้นที่ และการใช้งาน ทั้งสำหรับทำงาน เรียน และนอนพักผ่อน


“ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกอาศัยในเมือง ด้วยพื้นที่จำกัด เราต้องการโซลูชั่นที่ชาญฉลาดมากขึ้นในการปรับเปลี่ยนเข้ากับการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิต
โปรเจคนี้ เราสำรวจและศึกษาโซลูชันเฟอร์นิเจอร์ Multifunction ที่ได้แรงบันดาลใจจากความท้าทายในการทำพื้นที่ขนาดเล็ก ให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย และสนุกกับการอยู่อาศัย เราหวังว่าโซลูชันนวัตกรรมจะมีส่วนช่วยอย่างมากต่อชีวิตประจำวันของผู้คนในพื้นที่ขนาดเล็ก” Mauricio Affonso หัวหน้าฝ่ายพัฒนานวัตกรรม IKEA สวีเดน กล่าวเพิ่มเติม
ปัจจุบันโปรเจคนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโปรดักต์ โดยบางโซลูชันมีแผนจะเริ่มต้นวางจำหน่ายในปี 2023 ใน 2 ตลาดคือ โปแลนด์ และฮ่องกง โดยจะขายในสเกลเล็กๆ ก่อน หากได้การตอบรับจากตลาดที่ทดลองนำร่องเป็นอย่างดี ทาง “IKEA” จะศึกษาความเป็นไปได้ในการวางจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันเพื่อการอยู่อาศัยในพื้นที่ขนาดเล็กไปทั่วโลก



Source: IKEA