เชนผู้ผลิต และจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ของโลก “IKEA” ที่ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 415 แห่งใน 49 ประเทศทั่วโลก ได้ปรับโมเดลธุรกิจครั้งใหญ่ จากเดิมที่ผลิต และจำหน่ายแก่ผู้บริโภคในรูปแบบ “Flat-pack” หรือแพ็คเกจจิ้งแบบแบนบรรจุชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ ที่ทำให้การบริหารพื้นที่คลังสินค้า และการขนส่งมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันลูกค้าสามารถนำกลับไปประกอบเองได้สะดวก
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Retailer ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีเดนรายนี้ จากเดิมเป็นโมเดลค้าปลีกอย่างเดียว แต่ขณะนี้กำลังเริ่มทดลองโมเดลธุรกิจใหม่ นั่นคือ การเปิดให้บริการ “เช่าเฟอร์นิเจอร์” แบบลิสซิ่ง (การเช่าแบบลิสซิ่ง (Leasing) มีลักษณะคล้ายกับสัญญาเช่าซื้อ คือ ผู้เช่าต้องชำระเงินิค่าเช่าเป็นงวด ๆ ตามจํานวนเงินและเวลาที่กำหนดในสัญญาเช่า ต่างกันตรงที่เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่า ผู้เช่าสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อ ต่อสัญญาเช่า หรือส่งคืนทรัพย์ให้กับผู้เช่า)
บริการให้เช่าเฟอร์นิเจอร์ครั้งแรก จะเริ่มทดลองที่ IKEA สวิสเซอร์แลนด์ภายในเดือนนี้ โดยจะให้เช่าแบบลิสซิ่งเฟอร์นิเจอร์หลายประเภท นำร่องเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร (B2B) และคาดหวังว่าจะขยายบริการนี้ไปยังตลาดผู้บริโภคทั่วไป (B2C) ซึ่งโมเดลให้เช่า จะทำให้ IKEA ต้องปรับเปลี่ยนการสมัครสมาชิกให้มีรูปแบบแตกต่างกัน
“เราทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อให้ลูกค้าเช่าเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA และเมื่อระยะเวลาเช่าสิ้นสุดลง ลูกค้าสามารถส่งคืนมาที่เราได้ หากสนใจเช่าเฟอร์นิเจอร์อื่นเพิ่มเติม ก็ทำสัญญาเช่าต่อได้ เพราะแทนที่ลูกค้าจะทิ้งเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้แล้ว เราให้บริการรูปแบบเช่า เมื่อลูกค้าเอามาคืน เราเอามา Refurbish เฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น” Torbjorn Loof ผู้บริหาร Inter IKEA ให้สัมภาษณ์ Financial Times
บริการใหม่ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จากเดิมตั้งสาขาขนาดใหญ่นอกเมือง และให้ลูกค้าเดินทางไปซื้อสินค้าด้วยตัวเอง แต่เมื่อไม่นานได้ยักษ์ธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์รายนี้ ได้เปิดสาขารูปแบบใหม่ ขนาดเล็กลง ตั้งใจกลางเมือง เพื่อเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น อีกทั้งเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อสร้างความสะดวกให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ อีกทั้งบริการให้เช่า ทำให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายขึ้น
ที่สำคัญเป็นการต่อจิ๊กซอว์เป้าหมายปี 2030 สินค้าทุกชิ้นที่วางจำหน่าย ต้องทำมาจากวัสดุทดแทน หรือรีไซเคิล และในกระบวนการผลิต ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 70% ต่อหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งตอบรับเทรนด์ “Circular Economy” คือ ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และลดของเสียที่เกิดการผลิต การบริโภค และการใช้ กลับเข้าสู่กระบวนการที่สามารถนำกลับมาสร้างคุณค่าได้อีก เพื่อลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากการบริโภค-ใช้สิ่งของต่างๆ และทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งภายใต้นิยามของ Circular Economy ประกอบด้วยหลายแนวทาง เช่น Reuse, Refurbishing, Recycling และ Upcycling เพื่อใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
Torbjorn Loof กล่าวเพิ่มเติมว่า “บริการให้เช่าแบบลิสซิ่ง จะเริ่มให้บริการในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เช่น โต๊ะ – เก้าอี้ทำงานสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร ( B2B) ซึ่งจะเป็นลูกค้ากลุ่มแรกที่เราทดลองโมเดลธุรกิจใหม่นี้”
นอกจากนี้ใน Daily Mail รายงานว่า IKEA หวังจากขยายบริการให้เช่าแบบลิสซิ่ง ไปยังกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป (B2C)
“เป็นเรื่องที่น่าสนใจถ้าผู้บริโภคพูดว่า การให้เช่าเฟอร์นิเจอร์จะทำให้ฉันสามารถเปลี่ยน และปรับห้องครัวให้ดูทันสมัยขึ้นได้” Torbjorn Loof กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา “IKEA” ได้เริ่มดำเนินธุรกิจบนแนวคิด “Circular Economy” มาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ได้ให้บริการรับซื้อคืนเฟอร์นิเจอร์ เช่น IKEA ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำชิ้นส่วนไปรีไซเคิล และเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทดสอบโปรแกรมรับซื้อคืนแล้วที่ฟินแลนด์ โดยสมาชิกบัตร IKAM Family ในฟินแลนด์ จะได้รับบัตรกำนัลสำหรับการนำเฟอร์นิเจอร์เก่ามาเปลี่ยน จากนั้น IKEA นำเฟอร์นิเจอร์ที่รับซื้อคืน ไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลท้องถิ่น เพื่อทำให้เกิดประโยชน์การใช้สูงสุด
Source : Financial Times
Source : Dailymail
Source : Apartmenttherapy