ในที่สุด “โครงการ ICS” (ไอซีเอส) มิกซ์ยูส ไลฟ์สไตล์ ทาวน์ แห่งใหม่ฝั่งธนบุรี ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง “บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด – บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด – บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด” ได้ฤกษ์ soft opening ในวันที่ 11 มกราคม 2566 รับการเปิดเมือง และการกลับมาของตลาดท่องเที่ยวไทย
โครงการ ICS วาง Market Positioning ให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ ทำให้เติมเต็มความครบวงจรของการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสในย่านฝั่งธนฯ ของ 3 พันธมิตรธุรกิจดังกล่าว จากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัว ICONSIAM (ไอคอนสยาม) ในปี 2018 วางตำแหน่งเป็น Global Destination และเน้นเจาะตลาดบน – กลางเป็นหลัก ดังนั้นการเกิดโครงการ ICS จะจิ๊กซอว์สำคัญทำให้ ทั้ง 2 โครงการคือ ICONSIAM และ ICS สามารถเจาะตลาดผู้บริโภค ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติทุกกลุ่ม ด้วยแบรนด์สินค้าและบริการตั้งแต่ระดับ Luxury – Premium – Premium Mass – Mass
โดยหนึ่งในไฮไลท์ที่น่าสนใจของโครงการ ICS คือ การเปิดตัวซูเปอร์มาร์เก็ตโมเดลใหม่ของโลตัส (Lotus’s) ภายใต้ sub-brand ใหม่คือ “Lotus’s PRIVÉ” วางคอนเซ็ปต์เป็น “SMART Premium Supermarket”
รู้จักโครงการ ICS มิกซ์ยูสใหม่ย่านฝั่งธนฯ “รีเทล – ออฟฟิศทาวเวอร์ – โรงแรม”
“ICS” (ไอซีเอส) เป็นศูนย์รวมธุรกิจการค้าและบริการที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ มูลค่าการลงทุน 4,000 ล้านบาท ออกแบบเป็นอาคารสูง 29 ชั้น บนพื้นที่ 5-1-94 ไร่ ริมถนนเจริญนคร มีพื้นที่บริการรวม 70,000 ตารางเมตร
ทำเลที่ตั้งเชื่อมเส้นทาง Customer Journey ต่อตรงมาจาก ICONSIAM โดยมีรถไฟฟ้าสายสีทองสถานีเจริญนครเป็นจุดเชื่อมต่อ และยังเชื่อมต่อกับ ICONSIAM ที่ด้านหลังติดโค้งน้ำเจ้าพระยาซึ่งรองรับการหมุนเวียนของทราฟฟิกจากท่าเรือสาธารณะ
ภายในประกอบด้วยธุรกิจ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ พื้นที่สำหรับดำเนินธุรกิจค้าปลีก, พื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่า และธุรกิจบริการโรงแรม
1. ธุรกิจรีเทล ออกแบบเป็นอาคาร Low Rise ความสูง 8 ชั้น เป็นศูนย์รวมสรรพสินค้าหลากหลายตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้มาใช้บริการ ภายใต้แนวคิด Always A Good Day “ความสุขของทุกวันที่ ICS” จับมือกับพันธมิตรคู่ค้ารายใหญ่ เช่น
– “โลตัส” (Lotus’s) ได้พัฒนาซูเปอร์มาร์เก็ตโมเดลและคอนเซ็ปต์ใหม่ ในชื่อ “Lotus’s PRIVÉ” เป็น Smart Premium Supermarket
– “โรงพยาบาลศิริราช” เปิดศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต ภายใต้ชื่อ “SIRIRAJ H Solutions”
รวมทั้งพันธมิตรคู่ค้าชั้นนำอีกกว่า 200 แบรนด์ อาทิ สินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อบ้านและการอยู่อาศัย, สินค้าไอที, บริการด้านการเงิน, แบรนด์แฟชั่น, ธุรกิจบริการด้านความงามและเครื่องสำอางระดับแถวหน้า รวมไปถึงร้านค้าที่ให้บริการด้านต่างๆ ที่รองรับการใช้ชีวิตประจำวัน และร้านอาหารแบรนด์ดังกว่า 80 แบรนด์ รวมถึงร้านอาหารชั้นนำจากต่างประเทศ ที่เลือกมาเปิดให้บริการที่ ICS เป็นสาขาแรก
แต่ละชั้นประกอบด้วย
- ชั้น 5 Innovative Health and Lifestyle Center (Wellness Center / Playground)
- ชั้น 4 ร้านอาหารและเครื่องดื่ม แหล่งรวมครอบครัวและผองเพื่อน(Food & Beverage, Family and Friend Gathering)
- ชั้น 3 สินค้าไลฟ์สไตล์ ตกแต่งบ้าน ร้านอาหาร (Lifestyle, Home Living, Restaurant)
- ชั้น 2 สินค้าไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า บริการทางการเงิน (IT & Electronic Appliances, Financial Services)
- ชั้น 1 สินค้าไลฟ์สไตล์และเสริมความงาม (Lifestyle & Beauty Services)
- ชั้น MF แฟชั่นไลฟ์สไตล์ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม (Lifestyle Fashion / Cosmetic & Beauty)
- ชั้น GF แกร็บ แอนด์ โก เทคโฮม (Grab & Go / Take Home)
- ชั้น BF Lotus’s PRIVÉ ซูเปอร์มาร์เก็ตแบรนด์ใหม่ของโลตัส ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “Smart Premium Supermarket”
2. ไอซีเอส ออฟฟิศทาวเวอร์ (ICS Office Tower) พื้นที่สำนักงานให้เช่า ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 6 – 8 พัฒนาภายใต้แนวคิดที่ต้องการส่งเสริมการทำธุรกิจของผู้ประกอบการทั้งในกลุ่มที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งกิจการและกลุ่มที่ต้องการขยายกิจการ ซึ่งจะทำให้มีผู้มาใช้บริการระหว่างสัปดาห์เป็นจำนวนมาก
3. โรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ กรุงเทพ ไอซีเอส เจริญนคร ( Hilton Garden Inn Bangkok ICS Charoen Nakhon) ภายใต้การบริหารงานโดยโรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ เชนโรงแรมชั้นนำชื่อดังจากต่างประเทศ ที่มีแผนเปิดให้บริการในกรุงเทพฯ เป็นแห่งแรก รูปแบบเป็นอาคารสูง 19 ชั้น บนพื้นที่ 17,000 ตารางเมตร โดดเด่นด้านการออกแบบตกแต่งภายใน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปวัฒนธรรมของชุมชนย่านฝั่งธนบุรี ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับความต้องการของทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลก รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจ MICE
โครงการ ICS คาดว่าจะมีการหมุนเวียนของผู้เข้ามาใช้บริการ ไม่ต่ำกว่า 40,000 คนต่อวัน ทั้งกลุ่มลูกค้าหลัก พนักงานออฟฟิศ เจ้าของธุรกิจ และประชาชนทั่วไป
โลตัส ปั้นโมเดลใหม่ “Lotus’s PRIVÉ” คอนเซ็ปต์ใหม่ “SMART Premium Supermarket”
หนึ่งในแม่เหล็กสำคัญของโครงการ Mixed-use Development คือ “ซูเปอร์มาร์เก็ต” เพราะจะเติมเต็มความต้องการของนักช้อป และดึง traffic คนเข้ามาใช้บริการภายในโครงการ
สำหรับบริการซูเปอร์มาร์เก็ตในโครงการ ICS ได้จับมือกับ “โลตัส” (Lotus’s) ซึ่งได้พัฒนาโมเดลใหม่ล่าสุด ภายใต้ชื่อ “Lotus’s PRIVÉ” ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “Smart Premium Supermarket” บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร
ปัจจุบัน “โลตัส” ปักธงการเป็น “New SMART Retail” ที่ให้บริการแบบไร้รอยต่อผ่าน ทั้งสาขาหลากหลายรูปแบบและช่องทางออนไลน์ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายและทุกพื้นที่
ความร่วมมือกับโครงการ ICS เปิด “Lotus’s PRIVÉ” ล่าสุดนี้ ทางโลตัสเชื่อว่าจะยกระดับการให้บริการนักช้อป พร้อมรองรับ Modern Urban Lifestyle ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัยในระดับพรีเมียม ด้วยสินค้าพรีเมียมจากทั้งในไทย และจากต่างประเทศในราคาที่คุ้มค่า เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย เช่น
– อาหารสด และวัตถุดิบเกรดพรีเมียมนำเข้าตรงจากต่างประเทศ
– สินค้าท้องถิ่น
– สินค้าอุปโภคบริโภคจากแบรนด์ดัง ทั้งไทยและต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ยังให้บริการด้วยแนวคิด SMART Life Solutions โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายสอดรับชีวิตทันสมัย ทำให้การซื้อและชำระเงินง่ายขึ้น ด้วยบริการไร้เงินสด (Cashless) ผ่าน Wallet และ Application รวมไปถึงการชำระสินค้าได้ด้วยตัวเองผ่านตู้คีออสรับชำระสินค้าแบบสมาร์ท
ทั้งนี้ปัจจุบัน “โลตัส” (Lotus’s) มีร้านค้าปลีก 2,597 แห่งทั่วประเทศไทย ประกอบด้วยร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต 224 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 202 แห่ง และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต 2,171 แห่ง (ข้อมูล ณ 30 มิถุนายน 2565) ให้บริการภายใต้ 3 แบรนด์คือ Lotus’s, Lotus’s go fresh และล่าสุด Lotus’s PRIVÉ เปิดสาขาแรกที่โครงการ ICS
พลัง Synergy “ICONSIAM – ICS” ครองตลาดมิกซ์ยูสย่านฝั่งธนฯ ดึงคนไทย – นักท่องเที่ยวทั่วโลก
การเปิดโครงการ ICS จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของกลุ่มพันธมิตรร่วมทุน 3 ยักษ์ใหญ่ ทั้ง “บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด – บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด – บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด” ที่ร่วมกันพัฒนา ICONSIAM กันมาก่อนหน้านั้น ในการเติมเต็มความครบวงจร และเสริมความแข็งแกร่งระหว่างโครงการ ICONSIAM และ ICS ในการเจาะตลาดครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทุกไลฟ์สไตล์
เพราะด้วยพลัง Magnet ของแบรนด์สินค้าและบริการของทั้ง 2 โครงการ ที่มีตั้งแต่ระดับ Luxury – Premium – Premium Mass ไปจนถึง Mass จะดึงดูดทั้งผู้บริโภคไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ในย่านฝั่งธนฯ และจากโซนอื่นให้มาเยือน รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
เหตุผลสำคัญที่ 3 กลุ่มทุนจับมือสร้างโคงรการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ 2 โครงการในทำเล “ย่านฝั่งธนบุรี” นั่นเพราะเป็นย่านที่มีการขยายตัวสูง ทั้งที่อยู่อาศัย, ระบบคมนาคม และความหนาแน่นของประชากร ประกอบกับเป็นย่านที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่เหล็กสำคัญของการท่องเที่ยวไทยในการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ
– เป็นทำเลที่มีระบบการคมนาคมขนส่งสมบูรณ์ครบทั้งรถ ราง เรือ (รถยนต์ รถไฟฟ้า และเรือโดยสาร) โดยด้านหน้าติดถนนเจริญนคร เดินทางสะดวกได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารสาธารณะ หรือรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีเจริญนคร ซึ่งเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าสายอื่นๆ
– ย่านฝั่งธนฯ มีการขยายตัวของโครงการที่พักอาศัยมากที่สุดย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ โดยภายใน 2 – 3 ปีจากนี้ คาดว่าจะมีที่พักอาศัยคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 50 โครงการหรือราว 25,000 ยูนิต
– รายล้อมไปด้วยโรงแรม 5 ดาว อย่างมิลเลนเนียมฮิลตัน เพนนินซูลา โอเรียนเต็ล แชงกรีลา ซึ่งในอนาคตจะมีกลุ่มธุรกิจโรงแรมชั้นนำที่เตรียมขยายบริการมายังทำเลย่านนี้อีก 2 – 3 โครงการ
– นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้มีแผนงานการย้ายศูนย์ราชการขนาดใหญ่มายังย่านคลองสาน จะทำให้มีข้าราชการและผู้คนใช้ชีวิตอยู่ในทำเลย่านนี้เพิ่มขึ้น