Huawei ถือเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนตัวอย่างจากประเทศจีน ที่สามารถทลายกำแพงทัศนคติ “มือถือจีนแดง” ของผู้บริโภคทั่วโลกได้สำเร็จ โดยใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีตีตื้นแบรนด์สมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่จากฝั่งสหรัฐฯและฝั่งเกาหลีใต้ จนขึ้นแท่นติดอันดับ Top 3 แบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก และมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในประเทศจีน กลายเป็นม้ามืดที่หลายคนเฝ้าจับตา
ฝันใกล้เป็นจริง!! Huawei ขึ้นแท่นเบอร์ 2 ของโลก
ครั้งหนึ่ง Huawei เคยประกาศตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1 ผู้นำสมาร์ทโฟนระดับโลกภายในปี 2020 ซึ่งดูเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในการแซงเจ้าตลาดอื่นๆ แต่ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา IDC (International Data Corporation) เผยข้อมูลเกี่ยวกับมือถือทั่วโลก Huawei ขยับขึ้นเป็นแบรนด์อันดับที่ 2 ของโลก ได้สร้างความฮือฮาในต่างประเทศและประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยสามารถสร้างยอดขายทั่วโลก 54.2 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 15.8% ขณะที่ประเทศจีนเจ้าถิ่น สามารถช่วงชิงเบอร์ 1 ในตลาดออนไลน์ รับส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 40%
สมาร์ทโฟนผสานพลัง AI
เมื่อต้นปี Huawei ตอกย้ำการเป็นผู้นำของสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพอีกครั้ง ซึ่งหัวเว่ยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ HUAWEI P20 Series สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีกล้องหลัง 3 ตัว (Triple-Camera) ที่ถูกพัฒนาร่วมกับ Leica โดยใช้เทคโนโลยี Master AI ช่วยประมวลผลให้ภาพที่ออกมาสวยยิ่งขึ้น ได้รับคะแนนของ DxOMark ถึง 109 คะแนน ถือเป็นคะแนนที่สูงที่สุดซึ่งยังไม่มีใครสามารถล้มแชมป์ได้จนถึงตอนนี้ และใช้ระบบกันสั่น HUAWEI AI Image Stabilization ทำให้ถ่ายรูปได้อย่างมือโปรแม้ในตอนกลางคืน และยังใช้ AI เสริมประสบการณ์ให้ผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น จนได้รับการยกย่องจาก สมาคมภาพและเสียงแห่งยุโรป (EISA) ประกาศให้ HUAWEI P20 Pro ได้รับรางวัลสมาร์ทโฟนยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวได้ 5 เดือนแรก มียอดขายสูงถึง 10 ล้านเครื่อง และล่าสุดหัวเว่ยได้เปิดตัว HUAWEI Mate 20 Series สมาร์ทโฟนที่เป็นที่สุดของนวัตกรรม ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอีกครั้ง
เบื้องหลังความสำเร็จ ก้าวอย่างยั่งยืน
สมาร์ทโฟนจากประเทศจีน เดิมทียังไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทย เพราะถือเป็นแบรนด์ที่ใหม่สำหรับไทย แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเมื่อ Huawei เปิดตัว Series P9 ที่กล้องถูกพัฒนาร่วมกับ Leica บุกตลาดระดับพรีเมี่ยมเต็มตัว จนได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากแบรนด์เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างตรงจุด ควบคู่ไปกับการพัฒนาบริการหลังการขาย จึงกลายเป็นแบรนด์ที่มี loyalty อย่างเหนียวแน่นในเวลาต่อมา
นอกจากการสร้างแบรนด์แล้ว ช่องทางการขายก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ Huawei ใช้กลยุทธ์ omni-channel โดยการจับมือกับผู้นำตลาดด้านอีคอมเมิร์ซ เพื่อตอบโจทย์คนทุกรุ่นให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่บริการในช่วงก่อนการตัดสินใจซื้อ ให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน จนจบกระบวนการ
การทำกลยุทธ์ทั้งหมดทั้งมวลของ Huawei ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดีขึ้น จนปัจจุบัน Huawei กลายเป็นแบรนด์สินค้าที่สร้างความเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อมือถือจีนไปตลอดกาล
นวัตกรรมล้ำสมัย จุดแข็งสำคัญของหัวเว่ย
หัวเว่ยให้ความสำคัญกับงานวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมอย่างมาก มีการจัดตั้งศูนย์วิจัยถึง 15 แห่ง และศูนย์นวัตกรรม 36 แห่งทั่วโลก ทุ่มงบสูงกว่า 45,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ติด 1 ใน 5 บริษัทที่ใช้งบสำหรับทำวิจัยและพัฒนามากที่สุด จึงไม่แปลกที่แบรนด์จะมีสิ่งประดิษฐ์ล้ำหน้าของตนเองหลายชิ้น จดสิทธิบัตรทั่วโลกไว้กว่า 62,000 สิทธิบัตร
โซลูชั่นที่ดีสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ อาทิ โซลูชั่นแพลตฟอร์ม Fusion Server V5, Cloud Campus และ UPS Fusion Power5000-S โดยโซลูชั่นเหล่านี้ ถือเป็นตัวช่วยสำหรับองค์กรต่าง ที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการดำเนินงานร่วมถึงโครงสร้างพื้นฐาน ในการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังพัฒนาบริการดาต้าเซ็นเตอร์สู่บริการคลาวด์ มีการปรับเปลี่ยนจากเส้นใยแก้วนำแสงไปสู่คลาวด์ไฟเบอร์ และเปลี่ยนจากการเป็นผู้ให้บริการเข้าถึงแบบ IAP สู่ผู้ให้บริการจัดการแบบ MSP ในส่วนนี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการเสริมศักยภาพการทำงานของระบบให้แข็งแกร่ง เพื่อยกระดับการเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในระดับประเทศทั่วทั้งภูมิภาค