ในช่วงที่ตลาดสมาร์ทโฟนแข่งขันกันดุเดือด ทั้งรุ่นราคาต่ำกว่าหมื่น หมื่นกลางจนถึงหมื่นปลาย ก็ต้องบอกว่าสงครามไม่ได้มีอยู่แค่เพียงราคาระดับนั้น เพราะว่ารุ่นใหญ่ไฮเอนด์ราคาเกิน 20,000 บาท ก็เป็นตลาดใหญ่ที่แบรนด์ดังหมายปองและสู้ศึกสุดใจเช่นกัน
HUAWEI ก็เป็นอีกแบรนด์ที่โดดลงตลาดไฮเอนด์ โดยในวันนี้จะเป็นวันแรกที่เปิดจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นแฟลกชิปหรือรุ่นเรือธงอย่าง Mate 10 Pro มาทำตลาดในเมืองไทย พร้อมกับรุ่นซูเปอร์ไฮเอนด์อย่าง PORSCHE DESIGN HUAWEI Mate 10 โดยข้ามรุ่น Mate 10 ไปด้วยเหตุผลบางประการ!
“แต่ละปี หัวเว่ยเปิดตัวสินค้าเรือธง 2 รุ่น คือ P Series และ Mate Series ซึ่งครั้งนี้ก็ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงของบริษัทกับการเปิดตัว Mate 10 Pro และ PORSCHE DESIGN HUAWEI Mate 10 ด้วยจุดเด่นชิปเซ็ตเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับการสื่อสารและการใช้งานแก่ผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ปีนี้หัวเว่ยน่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่เคยประกาศไป คือประมาณ 3 เท่าตัว เนื่องจากมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องและยังมีโครงการช้อปช่วยชาติออกมากระตุ้นการใช้จ่าย เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้รายได้ให้เติบโตตามเป้า” คุณทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย อธิบายถึงสมาร์ทโฟนที่เพิ่งวางจำหน่ายและแนวโน้มทางธุรกิจ
นอกจากนี้ Mate 10 Pro ยังมีจุดเด่นที่ทำให้ HUAWEI เลือกมาจำหน่ายส่งท้ายปี เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มไฮเอนด์ ดังนี้…
ตระกูล Mate ขึ้นชื่อเรื่องจอใหญ่ แบตอึด!
ถือเป็นจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่น Mate Series อยู่แล้ว สำหรับคุณสมบัติหน้าจอขนาดใหญ่และแบตเตอรี่ทนทาน ซึ่ง Mate 10 Pro มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6 นิ้ว แบบ FullView และแบตเตอรี่ 4,000 mAh และใช้ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่ควบคุมด้วยเทคโนโลยี AI และเทคโนโลยี Super Charge ซึ่งทาง HUAWEI การันตีว่ารุ่นนี้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่ารุ่น Mate 9 อีก 30% ถือเป็นคุณสมบัติอันดับต้นๆ ที่คนเลือกซื้อสมาร์ทโฟนให้ความสำคัญ
ชูเทคโนโลยี AI จุดขายหลัก
Mate 10 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกจาก HUAWEI ที่การันตี (อีกครั้ง) ว่าเป็น World’s first AI Chipset ซึ่งถือเป็นการพลิกรูปแบบสมาร์ทโฟนให้พร้อมรองรับการใช้งานในยุค IoT (Internet of Things) ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะ AI ที่ว่านี้จะสนับสนุนการใช้งานในหลายๆ ส่วน ทั้งหน่วยประมวลผล , การถ่ายภาพ , ระบบเสียง , ระบบแปลภาษาที่ AI จะเข้ามาช่วยให้แปลภาษาได้ทั้งตอนออฟไลน์ผ่านอักษร เสียง และข้อความบนภาพได้มากถึง 50 ภาษาและแปลได้รวดเร็วขึ้น 3 เท่าตัว จากการใช้แอปที่พัฒนาร่วมกับไมโครซอฟท์ เรียกว่า AI จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นหน่วยประมวลผลโครงข่ายประสาท หรือ Neural Network Processing Unit ทำให้ประมวลผลเร็วขึ้นรวมๆ แล้ว 25 เท่าทีเดียว
กล้องยังเป็นจุดขายสำคัญ
เรื่องของกล้องก็เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ HUAWEI กลายเป็นแบรนด์ในใจของหลายๆ คน ในรุ่น Mate 10 Pro นี้ จึงมีการผสานระหว่างเลนส์แบบ SUMMILUX-H เข้ากับเทคโนโลยี AI ทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นเพราะมีรูรับแสงกว้าง f/1.6 มีเลนส์จับภาพสี RGB ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์จับภาพขาวดำความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมระบบจับโฟกัส 4 ประเภท และ OIS ระบบป้องกันภาพสั่นไหว
อัดสเปกแน่น
คุณสมบัติอื่นๆ ของ Mate 10 Pro ได้แก่ ครั้งแรกที่ใช้กระจกและโลหะ , ใช้ชิป Kirin 970 , RAM 6GB , ROM 128GB พร้อมให้ใช้งานบน EMUI 8.0 บน Android 8.0 รองรับแอปพลิเคชันใหม่ๆ ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหล และมี 2 สีให้เลือก คือ Midnight Blue และ Mocha Brown กับราคา 27,900 บาท
ไม่ขาย Mate 10 ในไทย…?
เรื่องนี้ คุณชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย อธิบายว่า “หัวเว่ยไม่ได้นำรุ่น Mate 10 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเนื่องจากมองว่าไม่เหมาะกับตลาดและพฤติกรรมผู้ใช้งานชาวไทย ขณะที่ Mate 10 Pro เหมาะกับไลฟ์สไตล์และกลุ่มผู้ใช้งานที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี มีความรู้ลึกรู้จริงในสายอาชีพ เช่น นักธุรกิจ สตาร์ทอัพ เป็นต้น ซึ่งคาดว่า Mate 10 Pro จะมียอดจำหน่ายมากพอสมควรในประเทศไทย เนื่องจากยอดพรีออเดอร์ที่มากขึ้นกว่า 2.5 เท่าตัวเมื่อเทียบกับรุ่น Mate 9 Pro”
อย่างไรก็ตาม ทาง HUAWEI ยังได้เปิดเผยว่าจะเพิ่มงบประมาณการทำตลาดให้สินค้ารุ่นนี้มากขึ้นจากที่เคยใช้กับรุ่นก่อนหน้า เนื่องจากต้องการสร้างการรับรู้ในแบรนด์และขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น พร้อมกับทำตลาดอย่างเจาะจงเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้นด้วย
ส่วนรุ่น PORSCHE DESIGN HUAWEI Mate 10 จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ และมีจำนวนจำกัดเพียง 300 เครื่องในประเทศไทย โดยทำราคาที่ 49,900 บาท.
Copyright © MarketingOops.com