แบรนด์นี้ไม่ธรรมดา #หัวเว่ย เปิดตัวแคมเปญ สะท้อนที่มาของความสำเร็จ ที่ไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสร่วมงานเปิดตัวแคมเปญระดับโลกของหัวเว่ย บริษัทไอทีและเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน บริษัทที่ถือว่ามีการเติบโตรวดเร็วจนแทบหันกลับมามองไม่ทัน

วันนี้ หัวเว่ยได้กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ของโลกรองจาก Apple และ Samsung มีพนักงานทั่วโลกแล้ว 176,000 คน รายได้ปี 2015 ที่ผ่านมาสูงถึง 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตราว ร้อยละ 37 จากปีที่ผ่านมา

Huawei-1

แน่นอนว่าความสำเร็จไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ทั้งหมดเกิดจากความ มุ่งมั่น มานะบากบั่น และฝ่าฟัน อุปสรรค สู่ความสำเร็จ ของทีมพนักงานและผู้บริหารหัวเว่ย ทำให้วันนี้หัวเว่ย กลายเป็นผู้นำทางด้านโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระดับแถวหน้าของโลก มีศูนย์วิจัยและพัฒนา ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือหลายแห่งทั่วโลก รวมไปถึงบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนามากถึง 79,000 คน เทคโนโลยีชั้นนำของหัวเว่ย คือ LTE, 5G, Fixed Broadband, โซลูชั่น Server, SDN-based Agile IoT, Cloud Computing, Data Center สำหรับองค์กร รวมไปถึงสมาร์ทโฟน

วันนี้..หัวเว่ยเลือกไทย ให้เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับการเปิดตัวแคมเปญแบรนด์ดิ้งระดับโลกตัวใหม่ มีชื่อว่า ‘BREAKTHROUGH’ ที่ต้องการสื่อสารถึง “ความมุ่งมั่น ความมานะบากบั่น และการฟันฝ่า” ผ่านภาพ 3 ภาพ ซึ่งสะท้อนถึงค่านิยมขององค์กรอันนำไปสู่ผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่

Huawei-2

ภาพแรกของแคมเปญนี้ สะท้อนให้เห็นถึง “ความมุ่งมั่น” ของชายหาปลาชาววาเกนยา ที่กำลังโถมตัวพุ่งเครื่องมือดักปลาของเขา ซึ่งเป็นกระชังสานอันใหญ่โตออกไปอย่างมุ่งมั่น เพื่อดักปลากลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากของแม่น้ำลัวลาบา ในประเทศคองโก ซึ่งชายคนนั้นจะต้องเลือกตำแหน่งจับปลาที่ดี และจดจ่ออยู่กับกระชังท่ามกลางมวลน้ำที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง

Huawei-3

ภาพที่สองนี้ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ที่ไขปริศนาเรื่องจักรวาลให้กับมนุษย์เราในวันนี้ เป็นเรื่องราวของเครื่องเร่งอนุภาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่สถาบันเซิร์น (ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป) ภาพนี้สื่อถึงความมานะบากบั่น ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ใช้เวลานานหลายสิบปีและลงทุนงบประมาณกว่าเก้าพันล้านเหรียญสหรัฐในการสร้างเครื่องเร่งอนุภาคที่มีความซับซ้อนมากพอที่จะตรวจจับอนุภาค “ฮิกส์โบซอน” ซึ่งเป็นอนุภาคมูลฐานภายในอะตอมและมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้มนุษย์เราไขปริศนาเรื่องจักรวาลได้ ซึ่งสถาบันเซิร์นต้องลงทุนศึกษาวิจัยอย่างมุมานะอดทนหลายทศวรรษ และถือเป็นหนึ่งในการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟิสิกส์สมัยใหม่

Huawei-4

ภาพสุดท้ายนี้ คือภาพตัวอย่างของ “การผ่านพ้นอุปสรรค” ของ ฟลอเรนซ์ กริฟฟิธ จอยเนอร์ นักกรีฑาเหรียญทอง เจ้าของสถิติโลกประเภทวิ่ง 100 เมตรหญิง ที่กำลังวิ่งเข้าเส้นชัย พร้อมชูแขนทั้งสองข้างขึ้นแสดงความดีใจกับชัยชนะที่ได้รับ แม้ว่าภาพดังกล่าวจะเผยให้เห็นเพียงช่วงเวลาแห่งชัยชนะของเธอ แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นก็คือการทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี แม้ว่าเธอจะจากไปแล้ว ทุกวันนี้คนทั่วโลกก็จดจำความสามารถของเธอ และจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีแชปม์เปี้ยนท่านใดมาแทนที่เธอได้

3 ภาพในแคมเปญนี้ สื่อสารอย่างมีพลัง จนทำให้เราสามารถมองย้อนเห็นถึงความ มุ่งมั่น บากบั่น และฟันฝ่า ของ “หัวเว่ย” จนเห็นถึงความสำเร็จของวันนี้ ได้อย่างแจ่มชัดและไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป ว่าหัวเว่ยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และที่สำคัญ คือ หัวเว่ยเป็นผู้ริเริ่มและพัฒนาแคมเปญชุดนี้ขึ้นเอง

ความสำเร็จของ “หัวเว่ย”

หัวเว่ย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2530 ปัจจุบันหัวเว่ยเป็นผู้นำทางด้านโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีพนักงานกว่า 176,000 คนทั่วโลก และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด!

กลุ่มลูกค้าองค์กรและผู้บริโภคทั่วไป ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นไอซีทีของหัวเว่ยได้รับการติดตั้งในกว่า 170 ประเทศในทุกภูมิภาคของโลก และให้บริการประชากรกว่าหนึ่งในสามของโลก

ทุกวันนี้ หัวเว่ยมีศูนย์วิจัยและพัฒนา 16 แห่ง ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือ 36 แห่ง และศูนย์ฝึกอบรม 45 แห่ง ทั่วโลก และยังได้ก่อตั้งศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเทคโนโลยี 5G ถึง 9 ประเทศ ลงทุนกว่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อทำวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี 5G โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้ใช้งานได้ในปี 2563 นอกจากนี้ หัวเว่ยเป็นเจ้าของสิทธิบัตรรวม 50,377 ฉบับ และได้ยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตร 52,550 ฉบับในจีน 30,613 ฉบับในต่างประเทศ เฉพาะในยุโรป Huawei ได้รับอนุมัติสิทธิบัตรแล้ว 11,474 ฉบับ

ทั้งหมดนี้ คือความสำเร็จของหัวเว่ย ที่ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย! เห็นแล้วอยากให้กำลังใจตัวเอง และอีกหลายๆคน ว่าหากเรามี มานะ มุ่งมั่น บากบั่น และฝ่าฟัน อุปสรรค อย่างเต็มที่ ในวันหนึ่ง เราจะประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
Tukko Nathida
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ MarketingOops.com กับความตั้งใจในการนำเสนอเนื้อหาที่ทันเหตุการณ์ และเกิดประโยชน์ ให้สามารถนำเนื้อหาความรู้ และ Insight ไปต่อยอดกับอนาคตของธุรกิจ และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยี ครีเอทีฟ การตลาด โฆษณา และสตาร์ทอัพ