ฝันด่านแรกของ “ผู้ประกอบการ” อาจแลกมาด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง เพื่อทำให้ความฝันกลายเป็นความจริงบนเส้นทางธุรกิจ แต่ความสำเร็จก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น เพราะความสำเร็จอย่างยั่งยืน เช่น การทำให้สินค้ากลายเป็นที่นิยมในตลาด หรือส่งขายไปทั่วประเทศ ก็ยังคงเป็นความฝันของบรรดาเจ้าของสินค้า จึงไม่น่าแปลกใจที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง “7-Eleven” จะกลายเป็น Hot Shelf ที่แบรนด์น้อยใหญ่หมายปอง
แต่การพาสินค้าไปอยู่ที่ชั้นวางในร้าน 7-Eleven ต้องทำยังไง มีขั้นตอนอย่างไร เพื่อทำให้สินค้าได้เป็นที่รู้จักและเพิ่มยอดขายผ่าน 12,000 สาขาทั่วไทย
เรื่องนี้หลายคนบอกว่าแค่คิดก็ท้อแล้ว ดูเป็นเพียงความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริงได้ แต่จะบอกว่าอย่าเพิ่งคิดแบบนั้น เพราะเราสรุปมาให้แล้ว…! แค่ 5 ขั้นตอนก็สามารถ “พาแบรนด์ขึ้นชั้นวาง 7-Eleven” ได้แล้ว
1. สินค้าต้องพร้อม
สิ่งแรกที่แบรนด์ทั้งหลายต้องมีคือ การเตรียมสินค้าให้พร้อม พูดง่าย ๆ ก็คือตวจสอบดูว่าสินค้าของเรามี “คุณภาพ” และ “ได้มาตรฐาน” ตามที่ 7-Eleven ต้องการหรือไม่ ทั้งการเป็นที่ต้องการของตลาดหรือเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคในช่วงนั้นหรือไม่ เพราะแน่นอนว่าหากเป็นสินค้าที่ต้องการ…ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะขายดีหรือได้รับความนิยมมากกว่าสินค้าอื่น ซึ่งเมื่อมีโอกาสทางการขาย ก็ยิ่งเป็นจุดสนใจที่ 7-Eleven จะให้ความสนใจ แต่อีกเรื่องสำคัญก็คือสินค้าต้องผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน เช่น อย. หรือ มอก. และเครื่องหมายที่เป็นรับรองจากทางราชการ เป็นต้น
2. ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์
หากสินค้าพร้อมแล้ว ก็ไปต่อกันที่ข้อ 2 คือ “ลงทะเบียนผ่าน www.cpall.co.th” ซึ่งต้องกรอกข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าให้ครบถ้วนหรือมากที่สุด เพราะนี่คือช่องทางแรกที่ 7-Eleven จะพิจารณาว่าสินค้าของคุณน่าสนใจหรือไม่ เหมาะสำหรับนำมาวางขายหรือเปล่า รวมทั้งจะมีการพิจารณาว่าสินค้าจะขัดต่อหลักเกณฑ์ของทางบริษัทหรือไม่ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นรายละเอียดในการพิจารณา แต่อย่างไรก็ตาม ต้องจำไว้ว่านี่คือประตูโอกาสด่านแรกที่คุณต้องทำให้ดีเพื่อสร้างโอกาสให้กับสินค้า เพราะหากได้รับความเห็นชอบ…นี่จะเป็นการผ่านการพิจารณาในรอบแรก
3. นัดหมาย…นำเสนอสินค้า
เมื่อผ่านการพิจารณาจากทาง 7-Eleven จะมีทีมงานติดต่อเพื่อนัดหมายให้คุณนำเสนอรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีการพูดคุยถึงการตลาดเพื่อสนับสนุนสินค้า และนำเสนอข้อมูลให้ “คณะกรรมการคัดเลือกสินค้า” พิจารณาตามหลักเกณฑ์ อาทิ แนวโน้มและทิศทางการตลาด กลุ่มลูกค้า โอกาสเติบโตในอนาคต เป็นต้น
4. ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า
สำหรับสินค้าที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ จะต้องเข้าสู่กระบวนการต่อไป คือ “การตรวจสอบมาตรฐานสินค้า” รวมถึงโรงงาน และกระบวนการผลิต ซึ่ง 7-Eleven กำหนดไว้ว่า…ต้องถูกหลักอาชีวอนามัยและความปลอดภัย สภาพแวดล้อม ศักยภาพในการผลิตและส่งมอบสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
5. กำหนดวันจำหน่าย และสั่งผลิตล็อตแรก
ถ้าคุณมีโอกาสผ่านการพิจารณาจนมาถึงขั้นตอนนี้ได้ นั่นหมายความว่าการผลิตและโรงงานของคุณผ่านมาตรฐาน 7-Eleven มาแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะผ่านสู่ “การกำหนดวันจำหน่ายสินค้า” รวมถึง “กำหนดยอดสั่งผลิตล็อตแรก” โดยจะมีการระบุถึงรายละเอียดและข้อกำหนดต่าง ๆ ที่จะแจ้งถึงรูปแบบการกระจายสินค้าด้วย ว่าจะได้วางจำหน่ายทุกสาขาหรือเลือกเจาะจงบางพื้นที่
ผ่านกระบวนการทั้งหมดนี้ คุณก็จะมีโอกาสได้เห็นสินค้าของตนเองอยู่บนชั้นวางร้าน 7-Eleven แล้ว!