จาก Niche สู่ Mass เมื่อวัฒนธรรมฮิปฮอป อยู่ในหลายแคมเปญการตลาดของสารพัดแบรนด์ดัง

“HipHop” จากเพลงแร็ปที่มีผู้ฟังเฉพาะกลุ่ม ด้วยภาพจำที่มักใช้คำหยาบคายจนไม่สามารถฟังวงกว้างได้ ทว่า หากมองให้ลึกวัฒนธรรมฮิปฮอปมีอยู่ในทุกชนชาติ ที่แตกออกมาเป็นแขนงต่างๆ เช่น Graffity, MC, DJ, B-Boy และแฟชั่น เรียกได้ว่าแฝงตัวอยู่ในทุกวงการ ในไทยก็เช่นกัน ปัจจุบันฮิปฮอปได้กลายเป็นหนึ่งในกระแสหลักของวงการเพลงในบ้านเรา และเป็นหัวใจหลักในรายการ Survival แข่งขันหาแร็ปเปอร์อย่าง The Rapper ออกอากาศช่อง WorkPoint, Show Me The Money ออกอากาศช่อง True4U หรือ Rap is Now ที่ออกอากาศใน Facebook และ YouTube ซึ่งกำลังจะมีซีซั่น 4 ในเร็วๆ นี้ โดยรายกายเหล่านี้ได้เปิดโอกาสให้คนที่มีความสามารถออกมาโชว์ศักยภาพของตัวเอง ถือเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมให้คนทั่วไปสนใจวงการเพลงฮิปฮอปมากขึ้น

จากกระแสความดังของ 2 รายการเรียลลิตี้ ยิ่งส่งให้ศิลปินฮิปฮอปกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ Music Marketing ของแบรนด์ต่างๆ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนมีรายการแข่งขันแร็ปเปอร์ ศิลปินฮิปฮอปหลายคนพยายามผลักดันวงการฮิปฮอปให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านบทบาทการเข้าร่วมรายการโทรทัศน์ อาทิ โจอี้ บอย ในฐานะโค้ชในรายการ The Voice, กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ หนึ่งในคณะกรรมการของรายการ The Mask Singer หรือ Urboy TJ ศิลปินที่ได้ร่วมฟีทเจอริ่งกับศิลปินหลายท่าน ซึ่งยังมีอีกหลายคนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่คอยผลักดันวงการเพลงฮิปฮอปไทยให้เข้าถึงคนหมู่มาก

 

โดยแบรนด์ส่วนใหญ่ที่ใช้กระแสความแรงของแรปเปอร์ทำตลาด ส่วนใหญ่ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังคนรุ่นใหม่ ด้วยการสร้าง Awareness ผ่านแนวเพลงที่มีกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง และนำมาประยุกต์กับการตลาดของแบรนด์เพื่อใกล้ชิดกับผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นแบรนด์ทำการตลาดด้วยวิธีนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น การเปิดตัว Carabao Can ของ คาราบาวแดง ที่วางโพซิชั่นชัดเจนว่าเป็น Energy Drink สำหรับคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ Generation of Can ซึ่งโปรดักท์ตัวนี้ ถูกวางเป็นก้าวแรกในการสลัดภาพของคาราบาวแดงจากขวัญใจผู้ใช้แรงงาน เพื่อขยายตลาดสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ นั่นคือ กลุ่ม Gen Y และคนเมือง นอกจากจะเน้นสื่อสารทางการตลาดในแนวคิด ‘Don’t Say Can’t, Carabao CAN’ อย่าบอกตัวเองว่าทำไม่ได้ ที่สะท้อนถึงความกล้า ท้าทาย และไม่กลัวที่จะลงมือทำ สนุกไปกับการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ ตามคาแรกเตอร์ของคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าแสดงออกในทางที่ดี และไม่กลัวที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ด้วยการใช้แรปเปอร์คนดังอย่าง โต้ง TwoPee Southside มารับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์

ในส่วนของแบรนด์อสังหาฯ อย่าง อนันดา ก็จับเทรนด์สตรีทและเพลงฮิปฮอปมาสื่อสารแนวคิดของแบรนด์ “URBAN LIVING SOLUTIONS” เพื่อเจาะกลุ่มคนเมือง ด้วยการดึง 2 แร็ปแปอร์ชื่อดัง UrboyTJ และ DaBoy Way มาแต่งเพลงถ่ายทอดความสีสันและความมีชีวิตชีวาของคนเมืองในแบบ Urban Street ซึ่งเมื่อเปิดตัวไปก็ได้รับความสนใจและเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย

httpv://youtu.be/bcyvX_VZWJM

นอกจาก 2 แบรนด์ที่กล่าวไปข้างต้น เราได้รวบรวมส่วนหนึ่งของแบรนด์ที่ใช้บริการศิลปินฮิปฮอปทำตลาด โดยจะเห็นว่าในปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น

ไม่ว่าจะด้วย ‘กระแส’ หรือไม่ใช่ แต่เราในตอนนี้สามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่า วัฒนธรรม Hip Hop และการ Rap ไม่ใช่สิ่งที่ถูกจำกัดอยู่ใน Niche Market อีกต่อไป เพราะเราสามารถพบสิ่งที่เกี่ยวข้องได้ในเกือบทุก ๆ วงการ ทุก ๆ ตลาดในประเทศไทยตอนนี้ (เช่นอธิการของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ใช้การโชว์ Rap ในงานปฐมนิเทศน์) สิ่งที่น่าจับตามองคือช่วงเวลาต่อจากนี้ในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกล ว่า หลังจากแสงไฟจากสปอตไลท์ที่เรียกว่า “กระแส” ได้จางลง วัฒนธรรม Hip Hop และเพลง Rap จะยังสามารถยืนหยัดและเฉิดฉายอยู่บนตลาด Mass และเข้าถึงผู้คนได้อย่างกว้างขวางเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหรือไม่?

ข้อมูลบางส่วนจาก https://www.unlockmen.com/history-of-hip-hop-style