เป็นมากกว่าไอศกรีม! “Häagen-Dazs” แตกไลน์สู่ “โยเกิร์ตพรีเมียม” ต่อยอดความแข็งแกร่งแบรนด์ – รับ Healthy Lifestyle

  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  

Häagen-Dazs

General Mills เจ้าของแบรนด์ไอศกรีม Häagen-Dazs” (ฮาเก้นดาส) ต่อยอดความแข็งแกร่งของแบรนด์​และผลิตภัณฑ์ไอศกรีม ด้วยการเปิดตัวโยเกิร์ตถ้วย Häagen-Dazs” หรือ Häagen-Dazs Cultured Crème เจาะตลาดพรีเมียม ประเดิมด้วย 6 รสชาติ ได้แก่ วานิลลา, สตรอเบอรี่, กาแฟ, มะนาว, บลูเบอร์รี่ และแบล็คเชอร์รี่ จำหน่ายในราคา 1.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 70 บาท

จาก “ไอศกรีม” สู่ “โยเกิร์ต” บทพิสูจน์ใหม่บนความแข็งแกร่งของแบรนด์

เมื่อเอ่อถึงแบรนด์ไอศกรีมคุณภาพ มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ เชื่อว่าแบรนด์ที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึงคือ “Häagen-Dazs” (ฮาเก้น-ดาส) แบรนด์ไอศกรีมของอเมริกาที่ถือกำเนิดในปี 1960 ก่อตั้งโดย Reuben Mattus ที่ต้องการสร้างสรรค์ไอศกรีมที่พิเศษและแตกต่าง ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง ทั้งนม และวัตถุดิบสด โดยเริ่มต้นจาก 3  รสชาติคือ ช็อกโกแลต, วานิลลา, กาแฟ

ถึงวันนี้ Häagen-Dazs มี 46 รสชาติ ในหลากหลายขนาดและรูปแบบ ทั้งแบบ Take Home ที่มีทั้งขนาดไพน์ ขนาดควอร์ต แบบแท่ง และรูปแบบให้บริการที่ร้าน โดยปัจจุบันมีจำนวนร้านกว่า 840 สาขาในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทยด้วย อีกทั้งยังจำหน่ายผ่านเชน Modern Trade เช่น ร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต

Haagen-Dazs Ice Cream
Photo Credit: Facebook HaagenDazsThai

ล่าสุด Häagen-Dazs ที่สหรัฐอเมริกาขยายโปรดักต์ไลน์สู่ผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตถ้วย Häagen-Dazs วางตำแหน่งอยู่ในเซ็กเมนต์พรีเมียม เช่นเดียวกับไอศกรีม นับเป็นการต่อยอดความแข็งแกร่งแบรนด์ ทั้ง Brand Reputation, รสชาติ, สูตรและการใช้วัตถุดิบสด เช่น นมสด, ผลไม้สด

ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของ Häagen-Dazs ที่ใช้จุดแข็งของแบรนด์ที่สั่งสมมายาวนาน สู่การลุยตลาดโยเกิร์ต ซึ่งปัจจุบันตลาดโยเกิร์ตในอเมริกาเหนือ มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตโดยเฉลี่ย 3.9% ต่อปีในระหว่างปี 2022 – 2027

General Mills เผยว่าโยเกิร์ต Häagen-Dazs ทำมาจากวัตถุดิบคุณภาพ เช่น นมสด ผลไม้จริง ไม่แต่งสี ไม่ใช้วัตถุปรุงแต่งกลิ่นสังเคราะห์ และใช้กระบวนการหมักนานกว่าโยเกิร์ตแบบเดิม เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสแบบครีมมี่ เนียนนุ่ม ชวนให้นึกถึงไอศกรีม

นำร่องด้วย 6 รสชาติคือ วานิลลา, สตรอเบอรี่, กาแฟ, มะนาว, บลูเบอร์รี่ และแบล็คเชอร์รี่ เริ่มวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายนนี้ ในราคา 1.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 70 บาทต่อถ้วย

Haagen-Dazs cultured-creme

 

แม้เงินเฟ้อ แต่ผู้บริโภคยังต้องการสินค้าคุณภาพ และเพื่อสุขภาพ

เป็นที่น่าจับตาว่าปัจจุบันยังเผชิญกับเงินเฟ้อที่กระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบ เงินในกระเป๋าผู้บริโภค และการใช้จ่าย แต่ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพรีเมียมน้องใหม่ของ Häagen-Dazs อาจจะดูสวนทางกับภาวะเงินเฟ้อ แต่ผลจากการการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค โดยผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบทางเคมี หรือปรุงแต่งสูง

ดังนั้นการเปิดตัวโยเกิร์ต Häagen-Dazs จึงเป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากผู้บริโภคยินดีจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ตอบโจทย์สุขภาพ และสร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างจากเดิม

ส่วนโยเกิร์ต Häagen-Dazs จะเข้าทำตลาดในไทยเมื่อไรนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไป…

 

Source: General Mills , Food Dive


  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ