จากการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทำให้เกิดการแตกยอดธุรกิจใหม่ๆ จากภายในองค์กรเดิมมากมาย เป็นการปรับตัวและรับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ แม้แต่องค์กรเอเจนซี่เองก็ไม่อาจยืนอยู่ได้แค่จุดของการทำงานโฆษณาแต่เพียงเท่านั้น ดังนั้น เมื่อเห็นโอกาสของการเติบโตจากอีคอมเมิร์ซ GREYnJ UNITED จึงตัดสินใจเปิดหน่วยธุรกิจที่ปรึกษาแบรนด์รูปแบบใหม่ 4Colors
GREYnJ UNITED ครีเอทีฟเอเจนซี่ชั้นนำของไทย เปิดหน่วยธุรกิจที่ปรึกษาแบรนด์รูปแบบใหม่ 4Colors โดยผนึกกำลังร่วมกับ N-Squared บ่มเพาะความเชี่ยวชาญ 4 ด้าน “แบรนดิ้ง ความคิดสร้างสรรค์ คอมเมิร์ซ และดาต้า” พร้อมช่วยลูกค้าสร้างการเติบโตเจาะกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการปักหมุดสร้างธุรกิจใหม่หรือขยายการเติบโตของธุรกิจเดิมสู่โลกอีคอมเมิร์ซ
คณพร ฮัทชิสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เกรย์เอ็นเจยูไนเต็ด กล่าวว่า 4Colors เป็นหน่วยธุรกิจใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยรวมทีมผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ ทั้งนักสร้างแบรนด์ ครีเอทีฟ นักปิดการขาย และนักวิเคราะห์ข้อมูล ทำงานเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาโซลูชั่นที่ดีกว่าภายใต้แนวคิด 1+1 = 3
“เรามุ่งมั่นเป็นแบรนด์พาร์ทเนอร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในสถานการณ์ปัจจุบัน โลกที่การซื้อขายสินค้าและบริการกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ท้าทายความสามารถในการปรับตัวของผู้ประกอบการและวงการที่ปรึกษาอย่างแท้จริง” นางคณพร กล่าว
ในการณ์นี้ 4Colors ได้ร่วมมือกับ N-Squared ผู้นำในการจัดจำหน่ายและบริหารช่องทางการขายอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากได้ทดลองรูปแบบการทำงานร่วมกันมากกว่า 1 ปี
5 ปี ยอดค้าปลีกออนไลน์เติบโตขึ้น มีมูลค่า 7.45 แสนล้าน
นัฐพล บุญภินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น สแควร์ อีคอมเมิร์ซ จำกัด ผู้นำในการจัดจำหน่ายและบริหารช่องทางการขายอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า อีคอมเมิร์ซได้เปลี่ยนภูมิทัศน์ค้าปลีกไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในวิกฤตโควิด-19 ที่เป็น “ตัวเร่ง” ให้เกิดพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น โดยโซเชียลมีเดียกลายเป็นแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่สำคัญ ซึ่งเพิ่มโอกาสให้การค้าออนไลน์เกิดขึ้นทุกเมื่อ (Always shopping) ดังนั้น การสื่อสารแบรนด์จึงต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับปัจจัยในการตัดสินใจซื้อที่เปลี่ยนแปลงไป เข้าไปมีบทบาทในชีวิตของผู้บริโภค
จากรายงานเรื่อง Thailand bricks vs clicks โดยตลาดหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร ระบุว่า ในปี 2563 อีคอมเมิร์ซมีอัตราการเติบโตสูงถึง 80% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ค้าปลีกรูปแบบดั้งเดิมหดตัวลง 11% นอกจากนี้ รายงานยังคาดการณ์ว่า ยอดขายค้าปลีกจากช่องทางออนไลน์จะเพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 9% ในปี 2563 เป็น 16% ในปี 2568 มูลค่า 7.45 แสนล้านบาท มีอัตราเฉลี่ยเติบโตปีละ 20%
ธุรกิจโต แต่แบรนด์เผชิญทางตันใหญ่ที่เรียกว่า ‘Future demand’
ทั้งนี้ สินค้าแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และสื่อบันเทิงเป็นสินค้า 3 ประเภทที่การใช้จ่ายผ่านออนไลน์มากที่สุด โดยมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันถึง 26% โดยสินค้าแฟชั่นมีอัตราเติบโตสูงสุดถึง 67% ตามด้วยสินค้าเครื่องใช้ส่วนตัวที่ 27% และสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน 20% สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เวลาอยู่บ้านเป็นส่วนมากตามมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม แม้อีคอมเมิร์ซจะมีอัตราการเติบโตสูง แต่เจ้าของสินค้าหลายรายที่เข้าไปบุกอีคอมเมิร์ซนั้นไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง เนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์และความคิดสร้างสรรค์บนอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีความแตกต่างจากการสร้างแบรนด์ในแบบดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ แบรนด์ของสินค้าแต่ละประเภทอยู่ในขั้นของการสร้างแบรนด์ที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่แตกต่างกันไป อย่างในกรณีของสตาร์ตอัพที่ช่วงแรกจะมียอดขายที่สูงมาก แต่จะเผชิญกับทางตันของยอดขายอย่างรวดเร็วในเวลาถัดมา นั่นทำให้ต้องมีการสร้าง “ความต้องการในอนาคต” (Future demand) ผ่านการสร้างแบรนด์
กลยุทธ์ Branding Commerce เพิ่มโอกาสความสำเร็จบนธุรกิจออนไลน์
คณพร กล่าวเสริมอีกว่า การสร้างแบรนด์บนอีคอมเมิร์ซหรือ Branding Commerce มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ข้อมูลก่อนการค้นหาสินค้าบนอีคอมเมิร์ซแพลทฟอร์มหรือมาร์เก็ตเพลสมีความสำคัญ ช่วยให้เกิดความคุ้นเคยและนำมาซึ่งโอกาสในการตัดสินใจซื้อที่เพิ่มสูงขึ้น แต่หากไม่เกิดแบรนดิ้งบนอีคอมเมิร์ซแล้ว จะส่งผลให้เกิดโอกาสการเปลี่ยนแบรนด์สินค้าขณะตัดสินใจซื้อที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งบนอีคอมเมิร์ซแพลทฟอร์มช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อได้ถึง 14 เท่า และที่สำคัญ ยังพบอีกว่า นักช้อปออนไลน์ค้นหาสินค้าด้วยชื่อแบรนด์ (Branded Search) บนอีคอมเมิร์ซแพลทฟอร์มเพิ่มมากขึ้น
“การสร้างแบรนด์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารการตลาดไม่ว่าจะอยู่บนแพลทฟอร์มหรือช่องทางใดก็ตาม อย่างไรก็ตาม ด้วย customer journey ของนักช้อปออนไลน์ที่มีความเฉพาะตัว รวมถึงการออกแบบประสบการณ์การซื้อสินค้าของอีคอมเมิร์ซที่ต่างจากรูปแบบของ physical stores ทำให้การสร้างแบรนด์บนอีคอมเมิร์ซต้องมีความเฉพาะตัวมากขึ้น” นางคณพร กล่าว
ดึงจุดแข็งเสริมช่วยลูกค้าโกออนไลน์
ทั้งนี้ โซลูชั่นของ 4Colors ดำเนินงานภายใต้กรอบคิด RACEE และ Whole Brain Thinking (ทฤษฎีสมอง 4 สี) ซึ่งจะช่วยทำให้แบรนด์สามารถสร้าง customer journey ของกลุ่มเป้าหมาย โดย 4Colors จะเข้าไปร่วมออกแบบกลยุทธ์และเป้าหมายของแบรนด์ สร้างและดำเนินงานแบรนด์แพลทฟอร์ม สื่อสารงานครีเอทีฟ ตลอดจนการสร้างความต้องการในอนาคตเพื่อเพิ่มยอดขาย ผสานการสื่อสารแบรนด์และอีโคซิสเต็มของการขายอย่างไร้รอยต่อ เพิ่มประสิทธิภาพการทำตลาดที่วัดผลได้
“การที่ผู้นำทั้งด้านสื่อสารแบรนด์และอีคอมเมิร์ซอย่าง GREYnJ UNITED และ N-Squared ได้ร่วมมือกันผ่าน 4Colors โดยผสานจุดแข็งระหว่างความคิดสร้างสรรค์ ข้อมูล การทำงานอย่างอะไจล์ จะช่วยยกระดับการทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไร้รอยต่อ รวดเร็ว และวัดผลได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย” ผู้บริหารทั้ง 2 กล่าวสรุป
