กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับการซื้อสินค้าจากจีน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ สมาร์ทโฟน หรือแม้แต่เครื่องปรับอากาศ ซึ่งสินค้าแบรนด์จากจีนในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบเท่ากับแบรนด์อื่นๆ ที่อยู่ในท้องตลาด แต่ปัญหาอยู่ที่จะเลือกสินค้าจากจีนอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และเชื่อมั่นได้ว่าจะมีอายุการใช้งานที่ทนทานและคุ้มค่ากับราคาที่ต้องเสียไป
โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศหรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า “แอร์” ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นอย่างยิ่ง อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอย่างมากในปีนี้ โดยเฉพาะเดือนเมษายนที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงพีคสุดของความร้อนที่บางพื้นที่แตะระดับ 44 องศาเซลเซียส เข้าใกล้คำว่า “ร้อนตับแลบ” เข้าไปทุกที แต่ด้วยปัญหาราคาค่าไฟฟ้าทำให้การเปิดแอร์แต่ละครั้งต้องคิดแล้วคิดอีก ถ้าไม่เปิดแอร์ก็จะร้อนตาย แต่ถ้าเปิดแอร์ก็อาจจะเจอค่าไฟกินตาย
แบรนด์จีนก้าวสู่แบรนด์ระดับโลก
ย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนมีการพัฒนาอย่างมากและรวดเร็วจนส่งผลให้สามารถก้าวไปสู่ประเทศผู้นำระดับโลกโดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม ผสมผสานกับนโยบายของรัฐบาลจีนในการผลักดันให้สินค้าจีนมีมาตรฐานระดับโลก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกตีตราว่า เป็นสินค้าเลียนแบบ ไม่มีมาตรฐาน ส่งผลให้หลายแบรนด์ของจีนพยายามสร้างเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละแบรนด์
ยิ่งไปกว่านั้นแบรนด์จีนยังได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมากมาย พร้อมทั้งยังมีการจดสิทธิบัตรที่อาจเรียกได้ว่าเป็นประเทศเดียวที่มีการจดสิทธิบัตรจำนวนมากลำดับต้นๆ ของโลก ซึ่งมีแบรนด์ต่างๆ มากมายของจีนที่ก้าวเข้าสู่ตลาดโลก และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคทั่วโลกเป็นอย่างดี ส่งผลให้แบรนด์จีนกลายเป็นแบรนด์ที่มีความเชื่อมั่นในระดับมาตรฐานโลก
สำหรับในประเทศไทยแบรนด์จีนเริ่มเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังต่อเนื่องในหลายๆ ตลาด และใครที่คิดว่าสินค้าจีนเน้นราคาถูก คงต้องบอกว่าในปัจจุบัน สินค้าจีนเน้นความคุ้มค่าของราคาที่จะต้องมีนวัตกรรมที่ดีเยี่ยมมาพร้อมกับราคาที่เหมาะสม ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ อย่างแบรนด์เครื่องปรับอากาศ GREE ที่เน้นนวัตกรรม โดยเฉพาะนวัตกรรมด้านการประหยัดพลังงานที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยในปัจจุบัน ที่สำคัญยังต้องมีนวัตกรรมในด้านสิ่งแวดล้อม
GREE ผู้นำด้านนวัตกรรมแอร์
เครื่องปรับอากาศ GREE ไม่ได้พึ่งเข้ามาที่ประเทศไทย แต่อยู่ในตลาดเครื่องปรับอากาศของไทยอย่างยาวนาน นับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาสู่ประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน ต้องบอกว่าที่ผ่านมา GREE เน้นในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม เห็นได้จากการที่ GREE เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ในประเทศจีน ชนิดที่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 36.9% ของตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศจีน
ส่งผลให้ GREE ก้าวสู่ผู้นำตลาดติดต่อกันถึง 26 ปี และทำให้ GREE มีมูลค่าผลประกอบการรวมในจีนสูงกว่า 5.6 แสนล้านบาท และยังเป็นผู้นำในการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปสู่ตลาดทั่วโลก ส่งผลให้ GREE มีรายได้จากทั่วโลกสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท เทียบเท่ามูลค่าการตลาดของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Facebook, Google และ Tesla ที่สำคัญ GREE ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ขนาดใหญ่ระดับโลก 500 อันดับแรกจาก Fortune Global 500
นอกจากนี้ GREE ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น China Most Admired Company หรือสินค้าจากจีนที่อยู่ในใจผู้บริโภคในอันดับที่ 7 และยังเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์สัญชาติจีน ยิ่งไปกว่านั้น GREE ยังได้รับการจัดอันดับจาก Forbes Global 2000 ในฐานะ World Best Employer โดยอยู่ในอันดับที่ 246 โดยวัดจากมูลค่าตลาดสินทรัพย์ยอดขายและกำไร ส่งผลให้สามารถสร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้นได้สูงสุดในประเทศจีน
ทำไมต้องเลือกเครื่องปรับอากาศ Gree
ที่ผ่านมาคือ กลยุทธ์การสร้างมาตรฐานระดับโลกของแบรนด์ GREE ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนเลือกไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของ GREE โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ คือเรื่องของการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้ชัดจากการจดสิทธิบัตรนวัตกรรมถึงกว่า 79,000 สิทธิบัตร และการที่ GREE ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมด้วยการตั้งศูนย์ R&D ด้านเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่สำคัญศูนย์ R&D แห่งนี้ของ GREE ยังเป็นศูนย์สำหรับการพัฒนานวัตกรรมของผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกหลายแบรนด์ ช่วยให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการพัฒนาด้านนวัตกรรมของ GREE ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมในด้านของการลดการใช้พลังงาน หรือนวัตกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการลดปล่อยความร้อนสู่ชั้นบรรยากาศ รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ช่วยทดแทนการใช้แรงงาน ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้สอดรับกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยนโยบายของ GREE ที่กำหนดเป้าหมายในด้านการพัฒนานวัตกรรมให้เป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญของ ธุรกิจ โดยในปี 2020 แบรนด์ GREE ได้จดสิทธิบัตรจำนวนสูงถึง 15,072 ใบ เทียบเท่าได้กับการสร้างนวัตกรรมที่สามารถจดสิทธิบัตรได้ 1-2 ใบ ทุกๆ 1 ชั่วโมง ส่งผลให้ GREEกลายเป็นธุรกิจที่มีการจดสิทธิบัตรด้านนวัตกรรมสูงสุดในประเทศจีน และล่าสุด GREE ยังมีความชัดเจนในเป้าหมายการทำลายสถิติการพัฒนาคิดค้นนวัตกรรมที่พร้อมจดสิทธิบัตร
ย่างก้าวสู่ตลาดประเทศไทย
นับย้อนไป 10 กว่าปีที่ผ่านมา บริษัท กรีอิเลคทริค (ไทยแลนด์) จำกัด ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยเป็นบริษัทที่นำเข้าและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศภายใต้แบรนด์ GREE และเริ่มนำเข้าพร้อมจำหน่ายในช่วงปี 2010 โดยเป็นการจำหน่ายเครื่องปรับอากาศแบบครบวงจร ครอบคลุมทุกการใช้งานเครื่องปรับอากาศไม่ว่าจะเป็น การใช้งานภายในบ้าน, สำนักงาน, การใช้เชิงพาณิชย์ รวมไปถึงกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและโครงการขนาดใหญ่ ภายใต้แนวคิด Total Solution for Air Conditioners
เพราะการเข้ามาอยู่ในตลาดประเทศไทยอย่างยาวนาน ทำให้ GREE เข้าใจตลาดประเทศไทยและทำให้ GREE ให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายเป็นอย่างมาก ด้วยการรับประกันตัวสินค้าที่สูงกว่ามาตรฐานทั่วไปในท้องตลาด อย่างเช่น เครื่องปรับอากาศภายในบ้านที่มีการรับประกันคอมเพรสเซอร์นานถึง 10 ปี ขณะที่อะไหล่ต่างๆ รับประกันนานถึง 5 ปี เป็นรายแรกในประเทศไทยที่มีการรับประกันที่ยาวนาน
นอกจากนี้ยังมีการเตรียมศูนย์บริการลูกค้าแบบครบวงจร พร้อมอะไหล่สินค้าทุกรุ่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดูแลบริการหลังการขาย รวมถึงการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพ ด้วยการจัดกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ในเรื่องของเครื่องปรับอากาศสำหรับเครื่องปรับอากาศในกลุ่มโครงการใหญ่ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะโครงการทั้งของภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงโครงการอย่างโรงแรมและโรงพยาบาล
ดังนั้นในช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัดขนาดนี้ หลายคนคงตัดสินใจได้ว่า ควรจะเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่มีนวัตกรรม ทั้งในเรื่องของการประหยัดพลังงาน นวัตกรรมในการใช้งานเพื่อให้ง่ายและสะดวก รวมไปถึงนวัตกรรมที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือการบริการหลังการขาย ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการตัดสินใจติดตั้งเครื่องปรับอากาศแต่ละครั้ง จะสามารถใช้งานได้ตลอดอายุการใช้งานอย่างราบรื่น