คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่อง “อาหารการกิน” มาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งช่วงที่ต้องเก็บตัวใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน ยิ่งเห็นชัดว่าทุกบ้านพยายามเติมสีสันให้อาหารด้วยสารพัดเมนู สูตรเด็ด พร้อมด้วยอุปกรณ์นานาชนิดถูกเติมใส่ครัวกันไม่ยั้ง ไม่รวมถึงคลิปสอนทำอาหารจากเหล่าเชฟคนดังที่ยอดวิวพุ่งขึ้นหลายเท่าตัวในช่วงดังกล่าว แต่ความจริงที่ต้องยอมรับก็คือ…ไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จกับการทำอาหาร
จากพฤติกรรมที่ผู้คนชื่นชอบเสาะหาของอร่อยจากร้านเด็ด และมีเมนูพรีเมียมในใจ ยิ่งสะท้อนว่าผู้คนให้ความไว้วางใจและยอมรับ “ความเป็นมืออาชีพ” ของผู้รังสรรค์เมนูอาหารมากกว่า กลายเป็นเหตุผลว่าทำไมเมนูพร้อมกิน เมนูกึ่งสำเร็จรูป จึงกลายเป็นของคู่ครัวที่ทุกบ้านต้องมี และท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันของธุรกิจดังกล่าว “วัตถุดิบ” และ “รสชาติแปลกใหม่” จึงกลายเป็นลูกเล่นที่แต่ละแบรนด์พยายามนำเสนอออกมาดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค เหมือนกับที่แบรนด์ “Grainey” ประเดิมแคมเปญใหม่ในตลาดโจ๊กคัพ ด้วย 2 สูตรพิเศษที่ มีเนื้อโจ๊กเข้มข้นเหมือนโจ๊กต้มสดใหม่ โดย ดึงคอนเส็ปเชฟที่ มีความถนัดที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง 2 เชฟชื่อดังอย่าง “เชฟพฤกษ์” ถนัดอาหาร ยุโรป อาหารฟิวชั่น และ “เชฟบุญธรรม” อาหารเอเชียอย่างญี่ปุ่น และอาหารอีสาน
แคมเปญที่เกิดจาก Pain Point “ชีวิตเร่งรีบ – ชอบกินของอร่อย”
นอกจากเรื่องโอกาสและการแข่งขันทางธุรกิจ การดำเนินชีวิตที่เร่งรีบของผู้คนยุคนี้ ทำให้เวลาถูกใช้ไปกับการประกอบอาชีพ มองหาลู่ทางใหม่ ๆ ในการสร้างรายได้ แต่รสนิยมในการกินยังต้องเลือกหาเมนูอร่อยมาเป็นรางวัลชีวิตอยู่เสมอ… เรื่องนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งไอเดีย ที่แบรนด์จำนวนไม่น้อยหยิบไปสร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค เช่นเดียวกับแคมเปญ “โจ๊กเข้มเต็มคัพ” ที่ Grainey เลือกใช้ในการเปิดตัวโปรดักท์ใหม่ โดยย้ำภาพความอร่อยที่เชื่อถือได้จากเมนูที่เป็นการประชันฝีมือระหว่างเชฟพฤกษ์ และเชฟบุญธรรม 2 เชฟชื่อดังที่คนไทยรู้จักและชื่นชอบในฝีมือการปรุงและคิดค้นเมนูอาหาร ซึ่งเสิร์ฟในรูปแบบโจ๊กคัพกึ่งสำเร็จรูปกินง่ายทุกสถานที่
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ Grainey หยิบมาสร้างความแตกต่างให้โปรดักท์ คือ คอนเซปต์ “Make Everyday Pop” ที่สื่อถึงการเปลี่ยนทุกวันให้กลายเป็นความอร่อยที่สนุกสนาน ไม่จำเจ แม้จะเป็นเมนูโจ๊กที่ทุกคนคุ้นเคย ผ่านความอร่อยจากเชฟมืออาชีพ โดยเชฟพฤกษ์ มาในสูตรโจ๊กรสไก่เเละสาหร่าย และเชฟบุญธรรม มาในสูตรโจ๊กรสเเซลม่อนเเละผักโขม เพื่อเพิ่มสีสันให้การแข่งขันในตลาดอาหารกึ่งสำเร็จรูปและโปรดักท์กลุ่มโจ๊กคัพ ทำให้ทุกคนมีโอกาสได้ลิ้มลองความอร่อยโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะการทำอาหาร หรือใช้เวลานาน ๆ ในการปรุง
กลยุทธ์ “แบรนด์น้องใหม่” กับการดึง “ซูเปอร์สตาร์” สายเชฟท้าชนคู่แข่ง
หากวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่แบรนด์ Grainey เลือก 2 เชฟชื่อดังอย่าง เชพฤกษ์และเชฟบุญธรรมมาเป็นตัวแทนในการสื่อสารถึงรสชาติอร่อย กลมกล่อม ให้กับโปรดักท์โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่แบรนด์ต้องการใช้แข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ในตลาด เนื่องจากในแวดวงเชฟซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคนั้น ก็จะมีชื่อของเชฟทั้ง 2 คนรวมอยู่ด้วย ประกอบกับรายการแข่งขันทำอาหารในประเทศไทยก็มีอยู่ไม่กี่รายการที่ได้รับความนิยม ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าการเลือก 2 เชฟชื่อดัง สามารถตอบโจทย์เครื่องหมายความอร่อยที่ผู้บริโภคชื่นชอบ ทั้งแง่ไอเดียและทักษะการรังสรรค์เมนูอาหาร เพิ่มโอกาสให้แบรนด์อยู่ในการรับรู้ของบริโภคมากขึ้นตามไปด้วย
ทั้งหมดนี้ ยังไม่รวมถึงการแข่งขันเพื่อชิงโอกาสจากตลาดโจ๊กและข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูปในไทย ที่มีมูลค่าราว 2,200 ล้านบาท (มูลค่า ณ ปี 2562) ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับแบรนด์น้องใหม่อย่าง Grainey ในการบุกตลาด และดึงความสนใจของผู้บริโภคออกมาจากแบรนด์ใหญ่ที่มีอยู่ในตลาดมานานกว่า ไอเดียการเลือกเชฟที่ถือเป็นซูเปอร์สตาร์ในกลุ่มเชฟ จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
“รสชาติใหม่” และ “ราคา” ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าโจ๊กคัพ Grainey เปิดตัวด้วย 2 รสชาติ จาก 2 เชฟมืออาชีพ แต่ยังคงเอกลักษณ์ของวัตถุดิบหลักอย่าง “ไก่เเละสาหร่าย” รวมถึง “เเซลม่อนเเละผักโขม” ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ผู้คนชื่นชอบและให้ความนิยม ทั้งยังส่งเสริมให้โปรดักท์ดูมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งแบรนด์จึงเลือกใช้เป็นวัตถุดิบหลักของเมนู และเลือกทำตลาดในราคาเพียง 20 บาท เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขันจากทั้งราคาและรสชาติใหม่
ขณะเดียวกัน ก็สอดคล้องกับโปรดักท์ที่เป็นเมนูกึ่งสำเร็จรูป กินง่าย จึงเลือกวางจำหน่ายเพื่อสร้างความรู้จักในตลาดผ่านร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven และเพิ่มเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศด้วยการวางจำหน่ายทุกสาขาพร้อมกัน
เทรนด์ “Healthy Food” ยังอยู่ในกระแสคนไทย
ไม่ใช่แค่การเป็นเมนูกึ่งสำเร็จรูปที่อร่อย แต่โจ๊กคัพของ Grainey ยังนำเสนอในเรื่องการเป็นอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ ซึ่งกระแส Healthy Food ก็ยังเป็นเทรนด์ที่อยู่ในความสนใจของผู้บริโภค และคนไทยเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะต้องการรักษาสุขภาพและมีร่างกายที่แข็งแรง เพื่อเตรียมความพร้อมในการต่อสู้กับโรคภัยและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญหน้า จึงกลายเป็นจุดเด่นที่สำคัญซึ่งแบรนด์เลือกนำเสนอโปรดักท์ที่ตรงกับเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้