Reuters รายงานข่าวว่าขณะนี้ “Grab” ที่ประเทศสิงคโปร์ กำลังเจรจาขายหุ้น “Grab ในประเทศไทย” ให้กับ “เซ็นทรัล กรุ๊ป” (Central Group) ซึ่งปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจ Technology Platform ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังรุนแรงขึ้นทุกขณะ เพราะเวลานี้อีกหนึ่งแพลตฟอร์มรายใหญ่จากอินโดนีเซีย “Go-Jek” มีแผนลงทุนในไทย และประเทศอื่นๆ ในอาเซียน
แหล่งข่าว เผยว่า มองว่าหากการเจรจาซื้อ-ขายหุ้น “Grab” คืบหน้า และประสบความสำเร็จ การเข้ามาของ “เซ็นทรัล กรุ๊ป” จะช่วยผลักดันให้ “Grab” เป็นมากกว่าแอปพลิเคชันเรียกรถ – จัดส่งอาหาร แต่ยังเสริมความแข็งแกร่งด้าน e-Payment และทำให้ Grab ขยายโอกาสธุรกิจเข้าสู่ “อีคอมเมิร์ซ” จากการที่ “เซ็นทรัล กรุ๊ป” ได้ร่วมทุนกับ “JD.com” หนึ่งในอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของโลกจากจีน จัดตั้ง “JD Central” ซึ่งแพลตฟอร์มจากสิงคโปร์รายนี้ ก็ให้ความสนใจอยากร่วมทุนใน “JD Central” เช่นกัน
“หากการเจรจาสำเร็จ จะเป็นการผสานการทำงานระหว่างสองฝ่ายได้อย่างลงตัว เพราะในขณะที่ “Grab” มีบริการจัดส่งอาหาร ทางด้านเซ็นทรัล กรุ๊ป ก็มีกลุ่มธุรกิจอาหารเช่นกัน” แหล่งข่าว กล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามเวลานี้ ทาง “Central Group” ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อข่าวดังกล่าว
แต่ทั้งนี้ หากการเจรจานี้เกิดขึ้นจริง และสำเร็จเมื่อไร นั่นหมายความว่า “Grab” จะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญของ “เซ็นทรัล กรุ๊ป” ในการมุ่งสู่การเป็น “Tech Company” โดยต้นปีที่ผ่านมา งานแถลงข่าวประจำปีของเซ็นทรัล กรุ๊ป “คุณทศ จิราธิวัฒน์” แม่ทัพใหญ่เซ็นทรัล กรุ๊ป ได้เล่ายุทธศาสตร์นับจากนี้ของกลุ่มเซ็นทรัล จะขยับสู่ยุคใหม่ที่เรียกว่า “NEW CENTRAL, NEW E-CONOMY” ทั้งในด้านเทคโนโลยี และผู้นำดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม (Market Leader in Digi-Lifestyle Platform) อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำของโลก และควบรวมกิจการ
โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจเดิม และต่อยอดไปยังธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อในที่สุดแล้ว “เซ็นทรัล กรุ๊ป” ยุคใหม่ ต้องการเป็น “Technology Company” ที่มีความพร้อมทั้งในด้านต่างๆ ดังนี้
“Big Data” จัดเก็บข้อมูลทั้งหมด (Data Lake) จากทุกกลุ่มธุรกิจ ไว้บนระบบคลาวด์ เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าเชิงลึก (Single view of customer) และสามารถมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า
“Loyalty & Personalized experience” ผ่านทางแพลตฟอร์มใหม่ของเดอะวัน (The 1) จะทำให้กลุ่มเซ็นทรัลสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับลูกค้า และตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
“Omni-channel Platform” พัฒนาให้ทุกธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัลก้าวสู่การเป็นโมเดล Omni-channel อย่างแท้จริง ที่สามารถเชื่อมต่อประสบการณ์การช้อปปิ้งระหว่างโลกออฟไลน์ และออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทุกที่ ทุกเวลา
“E-Logistics” กลุ่มเซ็นทรัลต้องการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์รายใหญ่ของประเทศไทย พร้อมบริการ On Demand ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
“E-Finance” มุ่งหน้าสู่การเป็น “บริษัท Fintech” เต็มตัว ให้บริการด้านการเงินอย่างครบวงจร (One stop – integrated financial system) ครอบคลุมทั้งบริการ E-Payment – Financial ทั้งสำหรับลูกค้า และซัพพลายเออร์
เพราะฉะนั้นโมเดลการร่วมทุนกับพันธมิตรระดับโลก รวมไปถึงการซื้อกิจการ หรือเข้าถือหุ้นกับบริษัท Tech Company จะเป็น “ทางลัด” ที่ทำให้ “เซ็นทรัล กรุ๊ป” ต่อภาพการเป็น “Digi-Lifestyle Platform” ได้เร็วยิ่งขึ้น และบรรลุเป้าหมายการเป็น NEW CENTRAL, NEW E-CONOMY
Source : Reuters