เบื้องหลังนวัตกรรมภาครัฐกับ GovTech Next Move เทคโนโลยีพลิกโฉมระบบราชการที่เปลี่ยนชีวิตคนไทย พร้อมสร้างการเติบโตให้ประเทศ

  • 735
  •  
  •  
  •  
  •  

 

นวัตกรรมภาครัฐหรือ Government Technology (GovTech) ที่เข้ามายกระดับบริการภาครัฐในปัจจุบันมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับการเติบโตของประเทศ มีประโยชน์ทั้งในแง่การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มความโปรงใส่ ยกระดับเศรษฐกิจโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยี สามารถดำเนินนโยบายที่มีประสิทธิภาพด้วยการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล และที่สำคัญก็คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น นอกจากนี้ ปัจจุบัน GovTech ยังเป็นหนึ่งในเทรนด์มาแรงที่ภาคเอกชนหรือสตาร์ทอัพหันมาสนใจลงทุนมากยิ่งขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลให้หลาย ประเทศประกาศที่จะใช้ GovTech เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนประเทศอย่างจริงจัง

เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับ GovTech มาอย่างยาวนานโดยเฉพาะในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาที่นวัตกรรมภาครัฐพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีหลากหลายบริการที่คนไทยหันมาใช้งานกันอย่างคล่องมือ ไม่เว้นแม้แต่ปู่ย่าตายายที่เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีผ่านสมาร์ทโฟนกันจนกลายเป็นเรื่องปกติ แต่อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายบริการที่หลายคนอาจไม่รู้ว่านั่นเป็นหนึ่งในแผนการพัฒนานวัตกรรมภาครัฐ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จึงอาสามาเล่าถึงเบื้องหลังนวัตกรรมภาครัฐในหลากหลายรูปแบบที่จะปรับเปลี่ยนชีวิตคนไทยผ่านซีรีย์ “GovTech Next Move”

 

 

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เล่าว่านวัตกรรมภาครัฐ หรือ Govtech ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยจะเห็นว่าในหลายประเทศเริ่มประสบความสำเร็จจากการนำ GovTech มาเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ หรือเอสโตเนีย ที่พัฒนาบริการภาครัฐ จนทำให้เกิดประโยชน์และได้รับการยอมรับ สามารถนำพาประเทศให้เข้าสู่การเป็น “ชาตินวัตกรรม”

ด้านคุณอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เผยว่า การทำงานของภาครัฐปัจจุบันต้องเน้นตอบโจทย์เทคโนโลยีที่ประชาชนใช้บริการอยู่เป็นประจำ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมและวิถีชีวิตของผู้คนที่ใช้ชีวิตส่วนหนึ่งอยู่บนสมาร์ทโฟน ดังนั้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่ภาครัฐจะต้องปรับตัวจากการทำงานบนกระดาษมาให้บริการผ่านมือถือซึ่งประชาชนมีความเคยชินมากที่สุด สิ่งนี้จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาระบบงานของภาครัฐให้ไปสู่ระบบดิจิทัล

 

6 เป้าหมายพัฒนานวัตกรรมภาครัฐเปลี่ยนชีวิตคนไทย

ประเทศไทยมีการพัฒนานวัตกรรมภาครัฐเพื่อเปลี่ยนชีวิตคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ 6 เป้าหมาย ได้แก่

  1. ลดขั้นตอนเพิ่มความเร็ว นวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับบริการภาครัฐ
  2. เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ให้ง่ายกว่าเดิม นวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
  3. เข้าถึงข้อมูลสุขภาพบนมือถือ นวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต
  4. เชื่อมต่อข้อมูลเข้าถึงชุมชน นวัตกรรมที่เน้นจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องน้ำ อากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
  5. โปร่งใส ตรวจสอบได้ นวัตกรรมภาครัฐที่นำข้อมูลมาใช้ในการบริหารจัดการ
  6. จัดสรรพื้นที่ ใช้เทคโนโลยีสร้างความสมดุลย์ นวัตกรรมด้านการกระจายตัวในระดับพื้นที่ (Decentralization)

บริการหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ และเรียกว่าเป็นต้นแบบของนวัตกรรมภาครัฐก็คือ “แพลทฟอร์มยื่นภาษีออนไลน์” ของกรมสรรพากรซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วย “ลดขั้นตอน เพิ่มความเร็ว” ในการให้บริการ เนื่องจากแต่ละปีมีผู้ยื่นแบบแสดงรายการกับกรมสรรพากรมากกว่า 30 ล้านฉบับ ปัจจุบันมีแนวโน้มผู้ใช้งานแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยปีล่าสุดมีจำนวนมากถึงร้อยละ 85 โดยกรมสรรพากรตั้งเป้าพัฒนานวัตกรรมขององค์กรไปสู่การเป็น Seamless Tax Eco System หรือ ระบบนิเวศด้านภาษีที่ไร้รอยต่อต่อไป

 

 

นับจากนี้ความลำบากในการรอคิวรับบริการที่โรงพยาบาลของรัฐจะไม่มีอีกต่อไปกับระบบ “เวชระเบียนออนไลน์” ตอบโจทย์เรื่อง “นวัตกรรมที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลสุขภาพบนมือถือ” เป็นบริการที่สามารถเข้าใช้บริการผ่านเว็บไซต์รวมถึงแอปพลิเคชัน Rama App” ที่ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพได้ง่ายขึ้น ทำนัดหมาย ชำระเงิน ส่งไฟล์เอกสารรับรองสิทธิ ตรวจสอบสถานการณ์รับยา แผนที่จุดให้บริการและข่าวสารต่างๆ ได้จากสมาร์ทโฟน เรียกว่าเป็นนวัตกรรมที่มีสตาร์ทอัพด้าน Health Tech และ Med Tech ประมาณ 20 รายมาต่อบริการกัน

 

 

Thaiwater อีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่เป็นนวัตกรรมภาครัฐด้าน “นวัตกรรมที่ช่วยเชื่อมต่อข้อมูลเข้าถึงชุมชน” เป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้บริหารจัดการน้ำ ผสานเอาระบบ GMMS ทำแผนที่ 3 มิติได้ในระยะเวลาอันสั้นไปจนถึงรถ MMS ที่สแกนภาพจริงในพื้นที่มาใช้ในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างรวดเร็ว นวัตกรรมนี้เป็นประโยชน์ทั้งในช่วงเวลาปกติ และเมื่อเกิดวิกฤติน้ำท่วมหรือภัยแล้ง มีการแบ่งปันข้อมูลระหว่างหน่วยงานเตือนภัยเพื่อแจ้งเตือนประชาชน และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ปัจจุบันแอปพลิเคชัน Thaiwater เป็นที่รู้จักมากขึ้น ล่าสุดมีผู้ติดตามมากกว่า 3 แสนคนแล้ว

 

 

อีกหนึ่งนวัตกรรมภาครัฐที่เข้ามา “เปลี่ยนไลฟ์สไตล์คนไทยให้ง่ายกว่าเดิม” คือ แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แพลตฟอร์มดิจิทัลหลักของประเทศ (Thailand Open Digital Platform) ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรมของธนาคารกรุงไทยที่เป็นเสมือนต้นแบบธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ผ่านการเรียนรู้ก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ จนกลายเป็นแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่มีเสถียรภาพอย่างในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าธนาคารกรุงไทยไม่ได้หยุดแค่นั้น แต่ยังมีแนวคิดต่อยอดนวัตกรรมภาครัฐด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI มาร่วมพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนต่อไป

 

 

นอกจากนวัตกรรมภาครัฐเหล่านี้แล้วซีรีย์ GovTech Next Move ยังเล่าถึงเบื้องหลังนวัตกรรมอื่นที่ต้องติดตามกันต่อไปด้วยไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมที่ “ช่วยเพิ่มความโปร่งใส ตรวจสอบได้” อย่างการพัฒนาระบบให้บริการยืนยันตัวที่เรียกว่า National Digital ID หรือ NDID ระบบการยืนยันตัวตนที่รองรับด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับประชาชน รวมถึง “นวัตกรรมที่ช่วยจัดสรรพื้นที่ ใช้เทคโนโลยีสร้างความสมดุลย์” อย่างโครงการ City lab ที่จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่นำร่องของการพัฒนาเมืองโดยใช้นวัตกรรมเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะทำให้เชียงใหม่กลายเป็นเมืองต้นแบบด้านนวัตกรรมต่อไป ซึ่งเรื่องราวเบื้องหลังนวัตกรรมภาครัฐที่เป็นเทคโนโลยีฝีมือคนไทยเหล่านี้เป็นอย่างไรสามารถติดตามกันต่อได้ที่ https://bit.ly/GovTechNextmove


  • 735
  •  
  •  
  •  
  •