เมื่อช่วงต้นปีหลายคนพอจะทราบข่าวที่เรียกว่าตื่นตะลึง เมื่อบริษัทแม่ GoPro ในต่างประเทศ มีการ ว่าจ้าง J.P.Morgan Chase ในการมองหาผู้สนใจหรือนักลงทุนที่มีศักยภาพ (จากแหล่งข่าวต่างประเทศ [CNBC] ซึ่ง GoPro มีการปฏิเสธ) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะแผนงานที่ผิดพลาดในการทำตลาดโดรน (GoPro KARMA) ที่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลไปกับการวิจัยและพัฒนา แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถเกิดได้เพราะเจ้าตลาดโดรนอย่าง DJI ปิดช่องว่างทุกทาง
ขณะที่อีกเหตุผลคือการรุกรานของสินค้าประเภทกล้อง Action Camera จากประเทศจีน ที่ให้คุรภาพการถ่ายวิดีโอได้ใกล้เคียงกับ GoPro แถมยังราคาถูกกว่าหลายเท่าตัว จึงไม่แปลกที่ราคาจะเป็นวิกฤติสำหรับ GoPro ที่เน้นขายเทคโนโลยีขั้นเทพสำหรับคนที่ต้องการใช้กล้องบันทึกวิดีโอทุกกิจกรรม และแม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่เน้นไปทางไลฟ์สไตล์มากกว่ากีฬา Extreme แต้ดูเหมือนจะยังช่วยกระตุ้นไม่ได้มากมาย
ล่าสุดบริษัท เมนทาแกรม จำกัด (MENTAGRAM) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกล้อง Action Camera แบรนด์ GoPro แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวสินค้าใหม่ 2 รุ่น ทั้ง GoPro FUSION กล้องแบบ 360 ที่อัดแน่นด้วยคุณสมบัติแบบ GoPro และ GoPro HERO ที่ถูกส่งมาทำตลาดแมสด้วยการลงสู้กับสินค้าจีนกับกลยุทธ์ด้านราคาที่ไม่ใช่เลข 5 อีกต่อไป โดยยังคงคุณสมบัติใกล้เคียง GoPro รุ่นท้อป
สำหรับ GoPro HERO ที่ส่งลงสู่ตลาดครั้งนี้ จะเป็นตัวชนกับกล้องที่มาจากจีนโดยตรง โดยอาศัยเรื่องของราคาเข้ามาเป็นหลัก ซึ่งกล้อง GoPro HERO ที่เปิดใหม่ประเดิมที่ราคา 7,200 บาท แต่ยังคงประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GoPro HERO 5 และ GoPro HERO 6 มีเพียงบางฟังก์ชั่นที่ถูกตัดออกไป เช่น GPS เป็นต้น และยังคงประสิทธิภาพที่โดดเด่นอย่าง จอทัชสกรีน การใช้คำสั่งเสียง ระบบกันน้ำ ระบบป้องกันการสั่นไหว เป็นต้น
คุณณัฐพล ปัทมพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมนทาแกรม จำกัด เชื่อว่าการเปิดตัว GoPro HERO ในครั้งนี้จะเป็นการเปิดแนวรบเพื่อสู้กับกล้อง Action Camera จากจีน โดยเฉพาะในตลาดกลุ่ม New Entry หรือคนที่เริ่มสนใจกล้อง Action Camera เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีการศึกษาถึงคุณภาพและคุณสมบัติที่โดดเด่นของ GoPro แต่สินค้าของจีนโดดเด่นด้านราคา การที่ตั้งราคาตั้งแต่ 5,000 – 10,000 บาทจึงเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ท้าทาย” อย่างแรง
สาเหตุที่ “ท้าทาย” นั่นเพราะ ของถูกไม่มีดี…ของดีไม่มีถูก กล้องAction Cameraราคาต่ำกว่า 3,000บาท มาพร้อมกับอายุการใช้งานที่ต่ำ รวมไปถึงทำมาจากวัสดุ“ก๋องแก๋ง” และมีเทคโนโลยีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ในขณะที่กล้อง Action Camera ขนาดกลางจะมีราคา 3,000 – ไม่เกิน 6,000 บาท ซึ่งกล้องกลุ่มนี้มีฟังก์ชั่นที่มากขึ้น แต่ก็ยังเป็นสินค้าที่มาจากจีนและส่วนใหญ่มักจะทำมาจากวัสดุ“ก๋องแก๋ง” เช่นกัน เพราะนั่นคือต้นทุนที่สามารถลดได้เพื่อให้ราคาถูกลง
ขณะที่การดั๊มพ์ราคาของ GoPro HERO ลงมาอยู่ที่ 7,200 บาทจึงเป็นการปิดช่องว่างความห่างของราคาระหว่างกล้องจีนและ GoPro ที่สำคัญใน GoPro HERO ยังมีฟังก์ชั่นที่เรียกว่าใกล้เคียงหรือไม่น้อยหน้า GoPro รุ่นพี่ๆ ที่สำคัญคุณณัฐพลยังบอกอีกว่า จุดเด่นหนึ่งที่ GoPro ใช้สู้กับสินค้าจีนได้คือการรับประกันและการบริการหลังการขาย (แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน)
มาถึงจุดนี้หลายคนคงสงสัย “ราคาแบบนี้คนมิแห่ไปซื้อ GoPro HERO หมดจนขายกล้องรุ่นอื่นของ GoPro ไม่ได้เลยนะ” นี่คือสิ่งที่คุณณัฐพลคิดไว้แล้วว่า ราคาเป็นจุดที่ช่วยให้ตัดสินใจง่าย แน่นอนว่ามีกินกันเอง (Cannibalization) แต่ส่วนใหญ่คนที่ใช้ GoPro รุ่นท้อปจะเป็นกลุ่มคนที่รู้เรื่องกล้อง มีความเป็นมืออาชีพถึงกึ่งมืออาชีพในการใช้กล้อง ฉะนั้นคนกลุ่มนี้จะทราบความแตกต่างของ GoPro HERO กับรุ่นท้อปได้อย่างชัดเจน
แน่นอนว่า GoPro HERO คือ Killer Segment ที่ประดุจดัง “ธานอส (Thanos)” ที่ทะลุมิติจักรวาลของ Marvel ออกมาใช้ถุงมือ Gunletและใช้พลังจาก Infinity Stone ทั้งหลายสาดพลังแบบไม่ยั้งไปสู่กล้องจากจีน ต้องจับตาตลาดนี้ไว้ให้ดีเพราะไม่แน่ว่างานนี้ อาจมี Strike Back ของกลุ่ม Avenger ของกล้องจีนก็เป็นได้ เมื่อถึงเวลาตลาดกล้อง Action Camera น่าจะมีขนาดใหญ่พอตัวเลยทีเดียว
อ้อ…คุณณัฐพลฝากทิ้งท้ายด้วยว่า ศูนย์ Training Center ของ GoPro ยังมีอยู่และมีแนวโน้มที่จะพิจารณาขยายเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องดูโลเคชั่นก่อน ส่วนเรื่องการขายกิจการของ GoPro นั้น คุณณัฐพลยืนยันประเทศไทยยังมี GoPro อยู่แน่นอน ที่สำคัญ GoPro ยังเปิดตัว FUSION กล้อง 360 องศาที่มีคุณสมบัติของกล้อง GoPro ไว้ครบถ้วน