ทำความรู้จัก “GO Wholesale” ผู้ท้าชิง “แม็คโคร” ที่พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ – ทางเลือกใหม่ เพื่อผู้ประกอบการ

  • 942
  •  
  •  
  •  
  •  

 

การเดินทางตลอดระยะเวลา 75 ปีของ “เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น” (CRC) เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จการเป็นผู้นำค้าปลีก ด้วยรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย และวันนี้ “เซ็นทรัล รีเทล” ได้สร้างโอกาสการเติบโตใหม่ และเติมเต็ม Business Ecosystem ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ จึงได้ขยายสู่ธุรกิจ
“ค้าส่ง” (
Wholesale) ด้วยการจัดตั้งบริษัทใหม่ “บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์” ธุรกิจในเครือ CRC

พร้อมทั้งเปิดตัว GO Wholesale” (โก โฮลเซลล์) ศูนย์ค้าส่งสินค้าเพื่อผู้ประกอบธุรกิจอาหาร ร้านค้าปลีกและโชห่วย ที่แตกต่างและจะเป็น ทางเลือกใหม่สำหรับทุกคน (The New Choice for All) ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า พันธมิตรคู่ค้า ซัพพลายเออร์ ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร

โดยเตรียมเปิดตัวสาขาแรก “สาขาศรีนครินทร์” ในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ก่อนจะขยายสาขาไปยังทำเลที่มีศักยภาพทั่วประเทศ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง สร้างโอกาส สร้างรายได้ และสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่

 

 

ปั้น “GO Wholesale” ให้เป็น New Growth Engine

ที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่รู้จักและคุ้นเคยเซ็นทรัล รีเทล ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีก แต่อันที่จริงแล้วภายใต้อาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล ยังมี “ธุรกิจค้าส่ง” ให้บริการผ่านกลุ่มฮาร์ดไลน์ “ไทวัสดุ” และ “ออฟฟิศเมท” โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการขายส่ง ประมาณ 17%

และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจ B2B ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น จึงขยายพอร์ตฯ ธุรกิจ B2B ในกลุ่มฟู้ด นำไปสู่การเปิดตัว “GO Wholesale” ศูนย์ค้าส่งสินค้าเพื่อผู้ประกอบการ ที่บริหารงานโดย บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์

โดยชื่อแบรนด์ GO มาจาก G หมายถึง การเติบโต (Growth) และ O หมายถึง โอกาส (Opportunity) เมื่อรวมกันหมายถึง “โอกาสการเติบโตไปด้วยกัน” ภายใต้แนวคิด “โตเร็ว โตไกล โตไปกับ GO’” หรือ Grow with GO

เซ็นทรัล รีเทล มั่นใจว่า ศูนย์ค้าส่ง GO Wholesale จะเป็น New Growth Engine ให้กับเครือ CRC ที่จะช่วยเติมเต็มกลุ่มฟู้ดให้เป็น Total Solution ที่ครบวงจร

 

 

คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “การจัดตั้งเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ และเปิดตัว GO Wholesale เพื่อต้องการเป็น ‘The New Choice for All’ ให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้าพันธมิตร และลูกค้าจะได้เข้าถึงสินค้าคุณภาพดี ในราคาย่อมเยา ขณะเดียวกันยังเป็นพื้นที่ให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น และสินค้าเกษตร เข้ามาอยู่ในระบบนิเวศน์ของเราเช่นกัน โดยมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ เกษตรกร ชุมชนท้องถิ่น เติบโตไปด้วยกัน”

 

 

รับเทรนด์ Food Market – ร้านโชห่วยขยายตัว

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของ GO Wholesale” ประกอบด้วย ร้านค้าปลีกและโชห่วย, ธุรกิจที่ให้บริการเกี่ยวกับอาหาร, โฮเรก้า (โรงแรม, ร้านอาหาร, ธุรกิจจัดเลี้ยง) และผู้ชื่นชอบการทำอาหาร

เหตุผลที่โฟกัสกลุ่มฟู้ดเป็นหลัก เนื่องจากปัจจุบันFood Market” ในประเทศไทย เป็นหนึ่งในตลาดที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยมูลค่า Food Market เฉพาะในส่วน Local Consumption ปัจจุบันสูงถึง 2.6 ล้านล้านบาท! นั่นเป็นเพราะ

– การเพิ่มขึ้นในฝั่งผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร และ ช่องทางการจำหน่าย โดยเฉพาะ Food Delivery ทุกวันนี้กลายเป็นช่องทางการขายหลักของร้านอาหาร และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันผู้บริโภคไปแล้ว จึงผลักดันตลาดอาหารให้เติบโตยิ่งขึ้น

– พฤติกรรมการบริโภคของคนไทย ไม่ใช่แค่ 3 มื้อต่อวันเท่านั้น แต่โดยเฉลี่ยแล้วใน 1 วัน คนไทยบริโภค 7 มื้อต่อวัน ทั้งมื้อเช้า – ช่วงสายๆ ก่อนอาหารเที่ยง – มื้อเที่ยง – ช่วงบ่ายหลังมื้อเที่ยง – ช่วงบ่ายประมาณ 3 – 4 โมง – มื้อเย็น และมื้อดึก จะเห็นได้ว่าการบริโภคของคนไทย มีทั้งมื้อหลัก และในระหว่างวันมี Snacking Time หรือมื้อว่าง เพื่อรองท้องก่อนมื้อหลัก

นอกจากนี้ตลาดอาหาร ยังเชื่อมโยงกับ “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” ด้วยเช่นกัน เพราะหนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย คือ อาหารการกิน ยิ่งทุกวันนี้ในยุค Social Media มีการรีวิวอาหาร และร้านอาหารไทยมากมาย ก็ยิ่งดึงดูด เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย จึงไม่พลาดที่จะ check-in หรือตามรอยร้านอาหารที่ได้ดูรีวิว ซึ่งปัจจุบันพบว่ายอดใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารในระหว่างที่นักท่องเที่ยวอยู่ในไทย โดยรวมไม่ต่ำกว่า 300,000 – 400,000 ล้านบาทต่อปี

ไม่เพียงแต่ Food Market เท่านั้น GO Wholesale ยังเล็งเห็นความสำคัญของ “ร้านค้าปลีก” และ “ร้านโชห่วย” เพราะถือเป็นร้านค้าประจำชุมชนและอยู่ในวิถีชีวิตคนไทยมายาวนาน โดยปัจจุบันในไทยมีร้านโชห่วย กว่า 600,000 ร้านค้า กระจายอยู่ตามชุมชนทั่วประเทศ ตอบโจทย์ผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงสินค้าได้สะดวกขึ้น ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค หรือแม้แต่วัตถุดิบอาหารสด จึงเป็นช่องทางกระจายสินค้าถึงมือผู้บริโภคอย่างทั่วถึง และครอบคลุมทั่วไทยอย่างแท้จริง

ดังนั้นการเกิดขึ้นของศูนย์ค้าส่ง GO Wholesale จึงเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการมีทางเลือกมากขึ้นในการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ไม่ถูกจำกัดความต้องการอยู่เพียงไม่กี่แบรนด์ ขณะเดียวกันทำให้กลไกตลาดค้าส่งเกิดการแข่งขัน โดยสุดท้ายแล้ว ผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือ กลุ่มผู้ประกอบการ และผู้บริโภค

 

วิเคราะห์ 7 จุดแข็ง “GO Wholesale”

การเปิดตัวศูนย์ค้าส่ง GO Wholesale นับว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ในวงการค้าปลีกค้าส่งของไทย ที่มาพร้อมกับ 7 จุดแข็งสำคัญ ประกอบด้วย

  1. ทีมผู้บริหาร และทีมงานมืออาชีพ มากด้วยประสบการณ์ – ความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าส่ง

หัวใจของการดำเนินธุรกิจคือ “บุคลากรที่มีศักยภาพ” (People Advantage) ซึ่งเป็นหนึ่งใน Key Driver สำคัญ โดย GO Wholesale ได้ทีมผู้บริหาร และทีมงานมืออาชีพมาดูแลกลุ่มธุรกิจค้าส่ง นำทัพโดย “คุณสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์” พร้อมด้วยทีมงานที่มากด้วยประสบการณ์ในธุรกิจค้าส่งอาหารมากว่า 20 ปี

 

 

  1. พัฒนา “สูตรแห่งความสำเร็จสำหรับผู้ประกอบการ”

ทีมผู้บริหารและทีมงานเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ได้พัฒนา สูตรแห่งความสำเร็จสำหรับผู้ประกอบการ” (Growing Your Business with Recipe for Success) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุด รวมทั้งเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทักษะ และต่อยอดธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ นำไปสู่การสร้างรายได้และผลตอบแทนที่เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย

  • Grow Right…ทำให้ธุรกิจเติบโตไปกับคนที่ใช่ ที่ออกแบบเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและร้านค้าปลีก
  • Grow As You Like… ทำให้ทุกธุรกิจเติบโตอย่างตรงใจ จากประสบการณ์ด้านธุรกิจอาหารและค้าส่งมาอย่างยาวนานของผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพ
  • Grow Fast…ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว กับบริการต่างๆ ที่จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจและต่อยอดความรู้ ทักษะใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ
  • Grow Smooth… เสริมสร้างให้ทุกธุรกิจเติบโตไปไกล ได้อย่างราบรื่น ด้วยช่องทางการสั่งซื้อที่หลากหลาย สะดวกฉับไว ให้การดูแลธุรกิจเป็นเรื่องง่ายและประหยัดเวลา
  • Grow & Gain… ให้ธุรกิจและกำไรเติบโต จากสิทธิพิเศษมากมายสำหรับสมาชิก
  • Grow Better…การเติบโตอย่างยั่งยืน
  • Grow Together…ร่วมเติบโตไปพร้อมกัน

“เรามีความเข้าใจความต้องการและ Pain point ของลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหาร ร้านค้าปลีก และโชห่วยอย่างลึกซึ้ง ประกอบกับการที่ GO Wholesale ได้เข้าไปอยู่ใน CRC Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบ ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถนำพาทุกธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกัน ซึ่งถือเป็นพันธะสัญญาที่สำคัญของเรา” คุณสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ธุรกิจในเครือ CRC กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนา GO Wholesale

 

  

  1. คัดสรรสินค้าคุณภาพจากทั่วโลก – นำเสนอความหลากหลายที่ครบครัน

อีกหนึ่งจุดแข็งของศูนย์ค้าส่ง GO Wholesale คือ Sourcing & Assortment” คัดสรรสินค้าคุณภาพ ทั้งในประเทศ และจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อตอบโจทย์ความครบครัน และความหลากหลายมากกว่า 20,000 รายการ โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าอาหาร โดยเฉพาะแผนกอาหารสด เช่น อาหารทะเลเป็นๆ เนื้อคุณภาพพรีเมียม ผัก และผลไม้สด จึงตองสนองทุกความต้องการของผู้ประกอบการทุกเซ็กเมนต์

 

  1. เติมเต็ม Customer Experience ให้สมบูรณ์ขึ้น ด้วยบริการที่ตรงใจผู้ประกอบการ

เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าทั้งองค์รวม ไม่เพียงแต่ GO Wholesale จะนำเสนอสินค้ามีคุณภาพ มีความหลากหลาย ในราคาที่ช่วยให้ผู้ประกอบการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น ยังให้ความสำคัญกับการสร้าง Customer Experience ผ่านบริการต่างๆ โดยศึกษา Demand ของผู้ประกอบการ นำไปสู่การออกแบบบริการที่เข้าใจความต้องการของลูกค้า เช่น

– ส่งมอบ Customized Experience ด้วยบริการที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการของตนเอง อย่างการให้บริการตัดแต่งสินค้า, สามารถสั่งซื้อสินค้าในรูปแบบที่กำหนดเองได้ เพื่อความสะดวกของผู้ประกอบการแต่ละราย เป็นต้น

– บริการชำระเงินด้วยช่องทางที่หลากหลาย และรับทุกเครดิตการ์ดจากทุกธนาคาร เพื่อความสะดวกของลูกค้า

– มีโซน Workshop ให้ความรู้กับผู้ประกอบการด้านต่างๆ และ โซน Business Center สำหรับให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ

 

  1. ใช้ Data-driven ผ่านระบบสมาชิก ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง GO Wholesale ใช้ระบบสมาชิก 2 ประเภท สามารถสมัครเป็นสมาชิกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่

– สมาชิกธุรกิจ สำหรับลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจอาหาร ร้านค้าปลีก และโชห่วย

– สมาชิกทั่วไป สำหรับลูกค้าบุคคลทั่วไป

โดยการเปิดรับสมัครในช่วงแรกนี้  GO Wholesale มอบคูปองส่วนลดสุดพิเศษมูลค่า 2,000 บาท ให้แก่ลูกค้า  โดยการใช้ระบบสมาชิกนี้ จะเป็น Data-driven ที่สำคัญในการทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มและเฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด เพื่อต่อยอดสู่การพัฒนาสิ่งใหม่ให้กับธุรกิจ รวมทั้งนำเสนอข้อมูลข่าวสาร สินค้า-บริการ และสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความสนใจ หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างทันท่วงที เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

 

 

  1. The Power of Synergy ผสานพลังความแข็งแกร่งธุรกิจในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป

การเข้าสู่ตลาดค้าส่งของ GO Wholesale ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ แต่ได้รับแรงสนับสนุนจาก Power of Network ของทั้งเซ็นทรัล กรุ๊ป ที่มี Ecosystem แข็งแกร่งและครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น

– ศูนย์การค้า 110 แห่ง ครอบคลุมใน 100 จังหวัด ทั้งในประเทศไทย และเวียดนาม

– ร้านอาหารกว่า 6,750 ร้าน

– โรงแรม 93 แห่ง

นอกจากนี้ GO Wholesale ยังผนึกกำลังกับแพลตฟอร์ม Loyalty Program “The 1” ที่ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 28 ล้านราย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสมาชิกธุรกิจ หรือสมาชิกทั่วไป เมื่อซื้อสินค้าที่ GO Wholesale ก็สามารถสะสมคะแนน The 1 เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์มากมายจากธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัลได้เช่นกัน

 

  1. เดินหน้าขยายสาขาทั่วประเทศ และเชื่อมต่อทุกช่องทางด้วยโมเดล “Omni-channel”

สำหรับการขยายสาขา GO Wholesale ภายในปี 2566 มีแผนเปิด 4 สาขาคือ

– สาขาศรีนครินทร์ เป็นสาขาแรก เตรียมเปิดให้บริการในวันที่ 27 ตุลาคมนี้

– จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน จะเปิดสาขาที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่

– ในเดือนธันวาคม เตรียมเปิดสาขาที่ 3 และ 4 ที่นิคมอมตะและพัทยา จังหวัดชลบุรี

ในช่วงแรก GO Wholesale ยังคงขยายด้วย Store Format ขนาดกว่า 7,000 – 8,000 ตารางเมตร โดยตั้งเป้าภายในปี 2571 จะมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยงบลงทุนรวม 20,000 ล้านบาท

ภายใน 5 ปีข้างหน้า GO Wholesale ตั้งเป้ายอดขาย 60,000 – 70,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อมั่นว่าธุรกิจนี้จะเติบโตได้อย่างมั่นคง และทำให้เซ็นทรัล รีเทล มีสัดส่วนยอดขายจากธุรกิจค้าส่งเพิ่มขึ้นเป็น 26% จากปัจจุบันอยู่ที่ 17%”  คุณญนน์ ขยายความเพิ่มเติมถึงเป้าหมายด้านผลการดำเนินงาน

การเดินหน้าขยายสาขา GO Wholesale นอกจากจะได้รับการสนับสนุนจากเซ็นทรัล รีเทลแล้ว ยังพิจารณาจาก 4 หลักเกณฑ์ด้วยคือ

  1. จำนวนครัวเรือน จำนวนร้านอาหาร และร้านค้าโชห่วยในย่านนั้นๆ
  2. การใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหาร (Food Consumption) ของคนที่อยู่ในโซน หรือย่านนั้นๆ
  3. ศึกษาว่าทำเลนั้นๆ มีธุรกิจประเภทเดียวกันมากน้อยแค่ไหน
  4. ศึกษาข้อกฎหมายต่าง ๆ

นอกจากนี้ GO Wholesale ยังได้วางโครงสร้างการให้บริการในรูปแบบ Omni-channel หรือ O2O ด้วยการเชื่อมต่อบริการทั้งช่องทางสาขา (Physical Store) กับช่องทางออนไลน์ ทั้งแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ GO Wholesale เข้าด้วยกัน เพื่อส่งมอบประสบการณ์แบบ Seamless Experience

ดังนั้นลูกค้าสมาชิก GO Wholesale สามารถเลือกซื้อสินค้าตามที่ตนเองสะดวก ไม่ว่าจะซื้อจากสาขา หรือสั่งซื้อผ่านออนไลน์ ก็มีบริการจัดส่งตรงเวลา เพื่อช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ศูนย์ค้าส่ง GO Wholesale ออกแบบ Store Layout รูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการธุรกิจ HoReCa ร้านอาหาร และร้านค้าปลีก รวมถึงการให้บริการใหม่ๆ ที่หลากหลาย เพื่อมาช่วยสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าผู้ประกอบการ พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ ด้วยสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกอาหารสด และการให้บริการตัดแต่งสินค้าตามความต้องการของลูกค้า, บริการชำระเงินด้วยช่องทางที่หลากหลาย, การให้บริการทุกช่องทางอย่างไร้รอยต่อ และสิทธิประโยชน์สมาชิกที่หลากหลาย ที่รวมถึง Loyalty Platform The 1 ในเครือเซ็นทรัล” คุณริคาร์โด้ โบอารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย สรุปถึงจุดแข็งของ GO Wholesale ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าผู้ประกอบการ

 

  

พันธมิตรตอบรับการเปิดตัว GO Wholesale

จากจุดแข็งของ GO Wholesale ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดค้าส่ง สร้างความแตกต่าง และเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ประกอบการได้เข้าถึงสินค้าคุณภาพ มีความหลากหลาย ในราคาที่ช่วยประหยัดต้นทุนผู้ประกอบการ

จึงไม่น่าแปลกใจที่ในงานเปิดตัว GO Wholesale อย่างเป็นทางการ มีพันธมิตรทางธุรกิจเข้าร่วมงานกว่า 1,300 คน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญในวงการธุรกิจค้าส่ง ทั้งพันธมิตรรายใหญ่และพันธมิตรทางธุรกิจ SME เกษตรกรรายย่อยอีกจำนวนมาก มาร่วมฟังทิศทางการดำเนินธุรกิจของ
GO Wholesale ที่จะสร้างโอกาสให้ทุกธุรกิจเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวคิดของแบรนด์ “โตเร็ว โตไกล โตไปกับ GO” หรือ Grow with GO”

GO Wholesale มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตาม Purpose ขององค์กร ที่จะเป็น Central to Life โดยเราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องของการสนับสนุนซัพพลายเออร์ ผู้ผลิตสินค้า SME และเกษตรกร ให้มีช่องทางในการนำเสนอขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มากขึ้น รวมถึงการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรโดยตรง การสนับสนุนอาชีพให้แก่กลุ่มเปราะบาง เพื่อสร้างรายได้และเติบโต เคียงข้างไปพร้อมกับเรา สอดคล้องไปกับนโยบายของ CRC ในการที่จะเป็นองค์กรด้านความยั่งยืน หรือ Green and Sustainable Wholesale” คุณสุชาดา กล่าวทิ้งท้าย

 

 


  • 942
  •  
  •  
  •  
  •