เปิดมุมมองความสำเร็จทุกมิติของ GMM 25 โดย ฉอด สายทิพย์ กับก้าวที่มั่นคงในปี 2018

  • 244
  •  
  •  
  •  
  •  

GRAMMY (แกรมมี่) ถือเป็นอาณาจักรความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทยครองตำแหน่งเบอร์ 1 มาอย่างยาวนาน หลายคนเกิดและเติบโตมาพร้อมๆ กับเพลง หนัง ละคร ซึมซับวัฒนธรรมหยั่งรากฝังลึก ถ้าจะพูดว่าแกรมมี่คือ ตัวแทนของ Pop Culture ของเมืองไทยก็คงจะไม่ผิดนัก

อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ประเทศไทยเปิดให้มีการประมูลช่องทีวีดิจิทัล ยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงอย่าง แกรมมี่ก็ไม่ยอมตกขบวน จึงเป็นที่มาของช่อง GMM25 ถึงในปัจจุบัน และที่สำคัญยังเป็นการปรับเปลี่ยนสถานะของแกรมมี่ จากผู้ผลิตคอนเทนต์ (Content Provider) สู่การเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์อย่างเต็มตัวอีกสถานะหนึ่งด้วย

และวันนี้ภายใต้การนำของหญิงเก่งระดับแถวหน้าของวงการบันเทิง ที่ใครๆ ในวงการต่างให้ความเคารพเธอ ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นที่พึ่งเยียวยาจิตใจให้กับคนทั่วไปที่อกหักรักคุด ก็สามารถโทรมาขอคำปรึกษาจากเธอได้ พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและผลงานต่างๆ อีกมากมายของ GMM25 และ AtimeMedia

shod1

 “อยากให้มองภาพร่วมกัน เพราะไม่งั้นจะออกมาเป็นลักษณะของการขาดการช่วยเหลือดูแล กลายเป็นภาพของการแข่งขันอย่างเดียว จากนั้นก็ล้มหายตายจากกันไป”

พี่ฉอด กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจวงการทีวีดิจิทัลในปี 2018 ว่า โดยภาพรวมของธุรกิจคงเป็นการต่อสู้เป็นการแข่งขันที่สูงมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่เรามีทีวีดิจิทัลมา ก็เหมือนกับว่าทุกคนต่างพยายามอย่างยิ่งในการที่จะยืนอยู่ให้ได้ภายใต้เหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ก็อาจเรียกได้ว่าปีนี้เป็นความหวังของทุกๆ คนในอุตสาหกรรมนี้ ในธุรกิจที่เราต้องยืนให้แข็งแรงให้ได้ ดังนั้น เมื่อทุกคนรู้สึกว่ามีความหวัง ก็จะพยายามทำตัวเองให้ดีขึ้น

สำหรับ GMM25 ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้ แต่เรากำลังมองภาพรวมว่า เราจะรอด ต้องรอดไปพร้อมๆ กัน แน่นอนว่าในแง่ของธุรกิจ คงต้องมีการแข่งขันกันเป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริงประเทศไทยอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจสื่อ หลายสิ่งหลายอย่างในรอบ 2-3 ปีนี้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงมากๆ เพราะฉะนั้นการที่เราจะต้องอยู่ให้รอดและแข็งแรงความจริงก็คือ อยากให้ทุกส่วนมองภาพร่วมกัน เพราะไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นการขาดการช่วยเหลือดูแล กลายเป็นภาพของการแข่งขันอย่างเดียว แล้วก็ล้มหายตายจากกันไป ซึ่งคนที่ล้มก็ล้มไป แต่คนที่อยู่ก็ใช่ว่าจะแข็งแรง ถ้าเราไม่ช่วยกันหาหาวิธีที่จะอยู่ให้รอดได้ทั้งอุตสาหกรรม ดังนั้น เราจะต้องมองภาพรวมของอุตสาหกรรม มากกว่าที่จะมองของคนใดคนหนึ่ง

“ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินเยอะ และดูเหมือนเป็นธุรกิจที่เผาเงินไปกันทุกวัน หลายสิ่งผ่านไปแล้วก็เอากลับมาไม่ได้ ต่างจากธุรกิจข้าวของที่มีสต๊อกแล้วนำกลับมาขายใหม่ได้ ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจสื่อ มันเบิร์นทุกอย่างไปทุกวัน เป็นธุรกิจที่เดินไปข้างหน้าตลอดเวลา ดังนั้น เราต้องร่วมมือร่วมใจในหลายๆ ประเด็นร่วมกัน ต้องต่อสู้ร่วมกันอีกมาก นอกเหนือจากที่เราเป็นคู่แข่งกันแล้ว”

 gmm7

“คำว่า คนทันสมัย ไม่ได้ใช้อายุเป็นตัวกำหนดอีกต่อไป แต่เราเรียกว่า ไลฟ์สไตล์ เพราะฉะนั้นช่องของเราจึงเป็นช่องทีวีไลฟ์สไตล์”

อย่างที่กล่าวว่า แกรมมี่ ไม่เคยตกยุคสมัยเลย ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่ามีเคล็ดลับอะไรในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ต่างๆ พี่ฉอด อธิบายว่าในวันที่เราเริ่มต้น เราก็มองภาพว่าเราจะเป็นใคร เป็นอะไร เราคิดว่าที่ทางที่เราจะเกิดได้ ต้องเป็นที่ๆ เราถนัด ดังนั้น ธุรกิจสื่อที่เราทำมาโดยตลอดนั้น เราก็อยู่กับกลุ่มคนที่เป็นคนกลุ่มนี้ คือ วันนี้เราคงไม่ใช้คำว่า ‘วัยรุ่น’ แต่คงต้องใช้คำว่า คนรุ่นใหม่ คนทันสมัย คนปัจจุบัน เป็นคนที่มีความอัพเดท บริโภคสื่อหลายสื่อพร้อมๆ กัน ดังนั้น คำว่าคนรุ่นใหม่ จึงไม่ได้ใช้อายุเป็นตัวกำหนดอีกต่อไปแล้ว แต่สิ่งนี้คือ ไลฟ์สไตล์ เพราะฉะนั้นช่องของเราจึงเป็น ช่องทีวีไลฟ์สไตล์ ที่อยู่กับกลุ่มคนที่เป็นคนของวันนี้ และกลุ่มคนทันสมัย ก็ไม่ได้หมายความแค่คนกรุงเทพฯ แต่ยังหมายถึงคนที่อยู่ในต่างจังหวัดอีกด้วย

ที่สำคัญ strategy ของปีนี้เราคงมองภาพของการ expand ในหลายๆ รูปแบบ ทั้งเรื่องของคอนเทนต์, พื้นที่ และทาร์เก็ต กรุ๊ป โดยเป็นการขยายออกไปในหลายๆ มิติ

shod2

“ปี 2018 ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จ ในสิ่งที่เรามีมากกว่าหรือแตกต่างจากคนอื่น ออนแอร์ ออนไลน์ และออนกราวด์”

ถ้าถามว่าปี 2018 เราจะไปไหนกัน คิดว่าน่าจะเป็นการต่อยอดความสำเร็จในสิ่งที่เรามี มากกว่าหรือแตกต่างจากคนอื่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เช่น เรามีสื่อในมือที่ครบถ้วนมากมาย และพร้อมที่จะสร้างสรรค์งานทั้งออนแอร์ ออนไลน์ และออนกราวด์ ไปพร้อมๆ กัน

ออนแอร์ เรามีช่อง GMM25 มีคลื่นวิทยุที่ประสบความสำเร็จอยู่ในขั้นท็อป 2 คลื่นได้แก่ GreenWave 106.5 FM และ EFM104.5 นอกจากนี้ เรายังทำควบคู่ไปกับออนไลน์ ซึ่งมีทั้งไลฟ์ มีทั้งการตัดคลิปไฮไลท์ เป็นการทำงานควบคู่กันตลอด

ออนไลน์ มี Chill Online และ แอปของ Atime ที่มีการพัฒนารูปแบบให้ทำงานสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ หรือแม้แต่ที่เราได้ทำงานร่วมกับ Youtube และ Facebook  เราทำตัวเลขที่สวยงามมาโดยตลอด ทั้งนี้ ภาพรวมออนไลน์ที่ชัดเจนมากๆ คือ วิทยุ ซึ่งเมื่อก่อนเราเป็นคลื่นวิทยุ แต่ตอนนี้กลายเป็น “Music Hub” ที่ไม่ได้จำกัดคนฟังแค่บนหน้าปัดวิทยุเท่านั้น แต่ตอนนี้ทุกคนสามารถฟังรายการของเราได้ทุกที่ทั่วโลก ไม่เพียงแค่นั้น เรายังมีทอล์คโชว์ยอดอิตของคลื่นวิทยุบนออนไลน์ เช่น คลับฟรายเดย์, จันทร์ Shock!! โลก, พุธทอล์คพุธโทร ฯลฯ และนั่นคือข้อดีของเทคโนโลยี

ออนกราวด์ เราเป็นเจ้าแห่งออนกราวด์ แอคทิวิตี้ เช่น บริษัท Atime Traveller เรามีธุรกิจโปรดักชั่นในส่วนการผลิตคอนเสิร์ตโดย Atime Showbiz เป็นต้น ดังนั้นการจัดกิจกรรมต่างๆ เราก็สามารถทำได้

“คิดว่าตรงนี้คือสิ่งที่คนอื่นไม่มี รวมทั้งยังมีการต่อยอดจากสิ่งเหล่านี้ด้วย อย่างเช่นเมื่อก่อน คลับฟรายเดย์ เป็นแค่วิทยุ แต่วันนี้เราทำเป็นละครซีรี่ส์ ทำเป็นเพลง เป็นอะไรต่างๆ มากมาย และเร็วๆ นี้ก็จะมีอีเวนท์คลับฟรายเดย์ ลงไปยังโรงเรียนต่างๆ ด้วย ดังนั้น ปีนี้จึงเป็นอีกปีที่เราได้ต่อยอดความสำเร็จจากหลายสิ่งที่ผ่านมาให้แข็งแรงและแข็งแกร่งมากขึ้น ในจุดที่ทุกคนไม่มี”

gmm1

 “มีงาน มีพื้นที่ ให้คนรุ่นใหม่มากมาย อยากจะเป็น ดีเจ. นักร้อง นักแสดง หรือเป็นพิธีกร เรามีพื้นที่ตรงนี้ให้” 

นอกเหนือจากเป็นธุรกิจที่มีหลายช่องทางแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดแข็งของ GMM25 ก็คือ การเปิดพื้นที่ให้กับศิลปินหน้าเก่า หน้าใหม่ รวมถึงเด็กๆ ที่อยากจะเข้ามาเติบโตในเส้นทางบันเทิงอยู่เสมอ พี่ฉอดระบุว่า ต้องบอกว่าใครก็ตามมาทำงานกับ GMM25 เห็นภาพชัดเจนของความเป็นกระแส อย่าง น้องใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ที่มาเล่น หลงไฟ เราก็จะเห็นภาพของกระแสที่ชัดเจนมาก พอได้มาเล่นกับช่องเราตอนนี้มีงานยาวไปอีก 2 ปีล่วงหน้าเลย หรือแม้แต่ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนที่พอมาเล่นละครกับเรา ก็เกิดภาพของคำว่า กระแส ขึ้น ช่องนี้คือช่องของกระแส สามารถมองเห็นกระแสที่เห็นภาพชัดเจน จับต้องได้

นอกจากนี้ เรายังเป็นช่องที่สร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่มาตลอดระยะเวลา ล่าสุดก็จะมี Hotwave Music Awards ที่เราทำมาหลายปีและนำกลับมาอีกครั้งเมื่อปีที่แล้วและจะสานต่อกันในปีนี้ และอย่างที่กล่าวถึงการ expand ดังนั้นปีนี้เราก็จะลงไปหาเด็กๆ ทั้ง 4 ภาค จากเดิมปกติแล้ว เด็กจะขึ้นมาสมัครกับเรา แต่ครั้งนี้เราจะลงไปหาเอง นอกจากนี้ ก็ยังมีการเปิดรับสมัครนักแสดงหน้าใหม่ที่จะได้มาร่วมงานกับ Love Song Love Series อีกด้วย ซึ่งทันทีที่ประกาศรับสมัคร ก็มีเด็กๆ กว่าหมื่นคนเข้ามาสมัครกันมากมาย

“เรามองเห็นศักยภาพตรงนี้ว่า สามารถสร้างงานสร้างอนาคตได้อีก มีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่มากมาย อยากจะเป็น ดีเจ. นักร้อง นักแสดง หรือเป็นพิธีกร ก็มีพื้นที่ตรงนี้ให้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่เด็กๆ เท่านั้น แต่เรากำลังทำงานกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง โรงเรียน สถาบัน ทุกอย่างจะเข้ามาร่วมกันเพื่อที่จะให้เราเป็นเซ็นเตอร์ดูแลน้องๆ ที่มีความฝัน”

shod5

 “คนมักมองภาพว่า ละครเรามีแต่ความรุนแรง มีแต่ตบตีกัน ถ้าพูดอย่างนี้แปลว่า ยังไม่ได้ดูเรา”

พี่ฉอด ยกตัวอย่างผ่านคลับฟรายเดย์ ที่เริ่มต้นจากรายการวิทยุเล็กๆ จนมาตอนนี้มีซีรี่ส์ผ่านมาแล้ว 10 ซีซั่น และตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้ทำหน้าที่ดูแลจิตใจของผู้คน ที่มีปัญหาเรื่องความรักมาโดยตลอด จนกระทั่งเราพบข้อมูลหนึ่งที่ระบุว่า คนไทยมีสถิติการนอกใจสูงมากขึ้น เพราะฉะนั้นในซีซั่น 10 นี้ เราจะทำซีรี่ส์ที่ชื่อว่า “รักนอกใจ” โดยมีการแอบรณรงค์ให้คนไทยรักเดียวใจเดียวกันให้มากขึ้น เพราะเรามองว่าปัญหาการนอกใจส่งผลกระทบหลายด้าน ทั้งสถาบันครอบครัว รวมทั้งสถาบันการศึกษา

“ดังนั้น ที่ผู้คนมักมองภาพว่า ละครเรามีแต่ความรุนแรง มีแต่ตบตีกัน ถ้าพูดอย่างนี้แปลว่ายังไม่ได้ดูเรา ถ้าดูเราจริงๆ จะพบว่าทุกเรื่องมีบทสรุป มีทางออก มีคำสอนอยู่ภายใต้หน้าหนัง ถ้าวันนี้จะให้เรามาบอกตรงๆ ว่า เรามาทำดีกันจ้า.. มันไม่มีคนฟังและก็ยากที่จะทำให้คนสนใจได้ ฉะนั้น จำเป็นต้องมีหน้าหนังของความบันเทิง ความสนุก ความแรงบ้าง แต่อยู่ภายใต้กรอบที่พอควร เพื่อนำไปสู่บทสรุปของคำตอบ”

และจากกลยุทธ์การ expand ของเรา ดังนั้น ในปีนี้ รายการ คลับฟรายเดย์โชว์ ก็จะไปเดินสายตามสถาบันในโรงเรียนต่างๆ โดยจะเป็นการลงพื้นที่ไปคุยกับเด็กๆ ทั่วประเทศ เพราะทุกวันนี้ปัญหาท้องก่อนวัยอันควรเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งอันที่จริงแล้ว เราก็ทำอยู่บ้างแต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาทำอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็เป็นการทำงาน MARCOM ของทางช่องไปพร้อมๆ กันด้วย

gmm2

“จุดแข็งของเราก็คือ เราทำงานอยู่กับความจริง รายการต่างๆ ของเราเองก็ทำบนความเป็นจริงของชีวิต

แต่ด้วยคอนเทนต์มากมายที่ผลิตออกมา สิ่งหนึ่งที่คิดว่ายังคงเป็นจุดแข็งสำคัญของ GMM25 นั่นคือ การดึงคนเข้ามา engage กับคอนเทนต์ได้แทบทุกช่องทาง ตรงจุดนี้พี่ฉอด เผยจุดแข็งสำคัญของการผลิตคอนเทนต์ในสไตล์ GMM25 นั่นคือ การ “อยู่กับความจริง”

คำหนึ่งที่คู่กับเรามาตลอดคือ คำว่าความจริง อย่างคลับฟรายเดย์ ก็คือความจริงของชีวิต เมื่อก่อนเราดูหนังดูละครเราจะพบว่า นี่คือหนัง มันเป็นละคร แต่พอมาวันนี้เป็นคลับฟรายเดย์ปุ๊บ ทุกคนรู้สึกว่า มันคือความจริง เรื่องจริงยิ่งกว่านิยายมันเริ่มตรงนี้ เช่นเดียวกับที่เรานำบทประพันธ์ “หลงไฟ” ซึ่งเป็นบทประพันธ์เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว แต่เราก็นำชีวิตของก้านแก้วมาอัพเดท และมันก็สมจริงมาก ฉะนั้นจุดแข็งของเราก็คือ เราทำงานอยู่กับความจริง รายการต่างๆ ของเราเอง ก็ทำบนความเป็นจริงของชีวิต หรือแม้แต่ผังรายการ เราก็ทำให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของชีวิต

เพราะฉะนั้นถามว่า ทำไมงานของพวกเราถึง engage ผู้คนได้ เพราะเรายืนหยัดอยู่กับความจริงตลอด แม้แต่เมื่อเราเริ่มไปทำละครบู๊ แอ็คชั่น เรื่อง “ทีมล่าทรชน” ก็เป็นเรื่องจริงจากการเปิดเผยบันทึกในวงการตำรวจ หรือละครที่นำมาจากบทประพันธ์เรื่อง “แนวสุดท้าย” ของคุณทมยันตี ซึ่งก็เขียนมาจากชีวิตจริงของคนที่มีอาชีพเป็นสายลับ นี่คือการทำงานบนพื้นที่ของความเป็นจริงของเรา

gmm3

“ดูเราเถอะค่ะ ดูตรงไหนก็ได้ ขอให้ดูก็พอ เพราะฉะนั้นวันนี้ไปไหน เราก็พบว่ามีคนดูงานของเราทั่วไปหมดเลย”

ในยุคที่ดิจิทัลกำลัง disrupt ทุกสิ่งโดยเฉพาะสื่อ แต่เรากลับเห็น GMM25 สามารถสร้างสรรค์งานแบบ O2O หรือ Offline to Online ได้อย่างสอดผสานกัน พี่ฉอดให้ความเห็นว่า นั่นเป็นเพราะเรามีความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมาก่อนใครๆ เช่นเมื่อตอนที่ทำวิทยุ เราก็ทำงานออนไลน์ควบคู่มาโดยตลอด เพราะฉะนั้นถึงวันนี้ที่ทำช่องทีวีดิจิทัล เราก็ยังพัฒนาออนไลน์ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งทำให้เราไปได้เร็วกว่าคนอื่นอย่างแอปฯ Atime วันนี้มี 5.5 ล้านดาวน์โหลดแล้วเราก็ยังมีกิจกรรมออนกราวด์ที่เราทำควบคู่ไปด้วย ส่วนในแง่การทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Youtube, Facebook และ LINE TV ก็ช่วยในแง่การกระจายคอนเทนต์

อีกสิ่งที่สะท้อนภาพความแข็งแกร่งของ GMM25 ได้แก่ ละคร จะเห็นว่าละครก็มีแทบทุกช่องในทีวีดิจิทัล แต่ที่ประสบความสำเร็จมีเพียงไม่กี่ช่อง นอกจากนี้ ยังได้รับความนิยมในต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะโซนเอเชียซื้อละครของเราไปฉายเยอะมาก รวมไปถึงแพลตฟอร์ม OTT ต่างๆ ก็มาซื้อของเราเช่นกัน ยกตัวอย่าง “คลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์” ก็ถูกซื้อย้อนหลังไปหลายซีซั่น หรือเรื่อง “แหวนดอกไม้” ทางจีนก็มาซื้อในแบบต้องออกอากาศไปพร้อมกันด้วย ทำให้ปีที่ผ่านมาตัวเลขของเราในแพลตฟอร์มต่างๆ เติบโตขึ้นไวมาก

และด้วยความแข็งแกร่งของการทำคอนเทนต์ที่สามารถไปอยู่ได้ทุกที่ทำให้ GMM25  มองว่า การดูบนออนไลน์ไม่ได้กระทบหรือไปแย่งแบ่งคนดูออกจากออนแอร์ เพราะคอนเทนต์ก็คือคอนเทนต์ แต่ช่องทางการดูจะเป็นช่องทางไหนก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละคนมากกว่า คือจริงๆ แล้วเราจะบอกว่าดูเราเถอะค่ะ ดูตรงไหนก็ได้ ขอให้ดูก็พอ เพราะฉะนั้นวันนี้ไปไหน เราก็พบว่ามีคนดูงานของเราทั่วไปหมดเลย

shod3

 “แม้แต่การทำละครซีรี่ส์ที่เราเห็นจี๊ดจ๊าดมากในช่อง ก็ยังสามารถทำเพื่อตอบโจทย์จากลูกค้าได้อีกด้วย เรียกว่ามีความเฟล็กซิเบิ้ลสูงมาก”

และด้วยศักยภาพที่เต็มเปี่ยมทั้ง ออนแอร์ ออนไลน์ และออนกราวด์ ตรงนี้เองที่พี่ฉอด ระบุว่าทำให้สามารถตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้โดยเฉพาะการครอสมีเดียต่างๆ เข้าด้วยกัน พี่ฉอด ระบุว่า แพ็กเกจการขายของเราจึงมีแพ็กเกจที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการใช้มีเดียที่มีประสิทธิภาพที่สุดไปพร้อมๆ กัน

“จริงๆ ลูกค้าสามารถใช้บริการเราจากแพ็กเกจมาตรฐานได้ เช่น อยากซื้อทีวีก็ซื้อ อยากซื้อวิทยุก็ซื้อ อยากซื้อออนไลน์ก็ซื้อ ก็ได้แล้วแต่ แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีแพ็กเกจที่ลูกค้าอยากจะมีโจทย์ใหญ่เลย เช่นอยากจะใช้ประสิทธิภาพของมีเดียของเราไปทั้งหมดพร้อมๆ กัน เราก็สามารถทำงานตอบโจทย์ได้ เพราะฉะนั้นตรงนี้ทำได้แล้วแต่บรีฟเลย”

พี่ฉอด ยังเล่าด้วยว่า แม้แต่การทำละครซีรี่ส์ที่เราเห็นจี๊ดจ๊าดมากในช่อง ก็ยังสามารถทำเพื่อตอบโจทย์จากลูกค้าได้อีกด้วย เรียกได้ว่ามีความเฟล็กซิเบิ้ลสูงมาก

virgin2

“ปีนี้ตัวเลขต้องเติบโตมากกว่า 100%  แต่ก็เป็นอะไรที่อัดแน่นเต็มด้วยคอนเทนต์ที่เราปรับในทุกมิติ”

เรามองภาพว่าปี 2018 ทุกอย่างคลี่คลาย แล้วก็สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่งขึ้น เพราะฉะนั้นปีนี้ตัวเลขตั้งไว้ฮาร์ดคอร์มาก ว่าปีนี้ตัวเลขต้องเติบโตมากกว่า 100% แต่ก็เป็นอะไรที่อัดแน่นเต็มด้วยคอนเทนต์ที่เราปรับในทุกมิติ อย่างละครก็จะขยายเวลาจาก 1 ชั่วโมงเป็น 2 ชั่วโมง แล้วก็ยังเพิ่มละครก่อนข่าวไปด้วย เป็นละครแนวครอบครัว รวมทั้งจะมีการซื้อซีรี่ส์จากต่างประเทศมาเพิ่ม อย่างซีรี่ส์จีนซึ่งตอนนี้ก็ได้รับความนิยมมาก

ในแง่ของข่าวเราก็ได้คนข่าวแท้ๆ มาร่วมงานอย่าง คุณต๊ะ-พิภู พุ่มแก้วกล้า ตอนเย็นก็จะมีรายการข่าวใหญ่ไทยแลนด์ ส่วนข่าวบันเทิงก็ยังได้ บอย-พิษณุ, อาร์ต พศุตม์ และเอ็มมี่-มรกต มาร่วมในรายการวาไรตี้บันเทิง และเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็จะมีรายการใหม่ของแก๊งขวัญใจวัยรุ่นอย่าง โอ๊ต อาร์ท เผือก ในรายการควิกซ์โชว์ตอบปัญหาเกี่ยวกับเพศศึกษาชื่อ “สมาคมพรหมจิ้น” ด้วย

shod4

เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้จะเห็นภาพชัดขึ้นว่า ทิศทางของช่องเรากับความเป็นไปของช่องเรา จะได้เห็นอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ เกิดขึ้นในงานของเราเรื่อยๆ อย่างที่หลายคนอาจจะตกใจว่า มีแบบนี้ด้วยเหรอ แต่ดูดีๆ จะเห็นว่าในที่สุดแล้ว จะมีความกลมกลืนในสิ่งหนึ่งร่วมกันเสมอ

และนี่คือทิศทางในปีนี้และในอนาคตของ GMM25 และ Atime ที่ดูเหมือนว่าเข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราเห็นว่าแม้จะขยายคอนเทนต์ไปแค่ไหน หรือช่องทางไหน ก็ยังมีอัตลักษณ์ของความเป็นตัวเองที่ชัดเจนซ่อนอยู่ และสิ่งนั้นเองไม่ว่าใคร ก็เลียนแบบไม่ได้.

Copyright © MarketingOops.com


  • 244
  •  
  •  
  •  
  •