เรารู้กันอยู่แล้ว ว่าการแพร่ระบาดของ “COVID-19” ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างไร ขณะเดียวกันก็ยังสร้าง “พฤติกรรมใหม่” ในการดำเนินชีวิต จนกลายเป็น “New Normal” ของผู้บริโภคกับรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
COVID-19 กระตุ้นให้คนหันมา “ใส่ใจ – ดูแลตนเอง”
แน่นอนว่า…ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ คนส่วนใหญ่ต่างเพิ่มมาตรการ “ปกป้องและดูแลตนเอง” ในทันทีโดยไม่ต้องรอคำแนะนำจากใคร เพราะทุกคนรู้เป็นอย่างดีว่าสามารถลดความเสี่ยงจากการระบาดของโรคได้หากป้องกันตนเองให้ดี จึงทำให้ “อุปกรณ์ – ผลิตภัณฑ์” ดูแลความสะอาดและลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรคกลายเป็นสินค้าขายดี ถึงขนาดสินค้าขาดตลาด ต้องจองคิวซื้อ และยอมซื้อหามาใช้งานแม้จะต้องซื้อในราคาที่แพงขึ้นหลายเท่าตัว
และเมื่อพฤติกรรมใหม่เหล่านี้ไม่ได้แค่เปลี่ยน แต่ฝังตัวจนกลายเป็น “ไลฟ์สไตล์” ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่นอกบ้าน การเว้นระยะห่างระหว่างกัน การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้ารับบริการในสถานที่ต่าง ๆ และโดยเฉพาะการดูแลความสะอาดของตนเองและคนรอบข้าง สิ่งเหล่านี้ล้วนกลายเป็นพฤติกรรมที่ทุกคนเต็มใจปฏิบัติ
เช็ค New Normal กับ “ความเข้มงวด” เรื่องสุขภาพ
อีกเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนในช่วง COVID-19 ระบาด ก็คือ “การซื้อประกันสุขภาพ” ถึงขนาดที่เคยได้ยินหลายต่อหลายคนบอกว่าประกัน COVID-19 เป็นประกันสุขภาพเล่มแรกในชีวิตด้วยซ้ำไป จะพูดให้ถูกต้องก็คงต้องบอกว่า…พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนถึงความต้องการปกป้องตนเองจากเหตุไม่คาดฝันทางสุขภาพ เพื่อให้ตนเองมีความคุ้มครองและสิทธิ์ในการเข้ารับการรักษาอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องค่าใช้จ่าย
แต่คงไม่ใช่แค่การมองหาประกันสุขภาพสำหรับความคุ้มครอง COVID-19 เท่านั้น เพราะทุกคนได้บทเรียนแล้วว่า ควรเตรียมพร้อมกับทุกเรื่อง โดยเฉพาะ “สุขภาพ” ที่ควรมีกรมธรรม์ความคุ้มครองรองรับเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต และแน่นอนว่าในสถานการณ์เช่นนี้ “ความคุ้มค่า” ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนมองหาและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ เช่นกัน จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมการเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันสุขภาพของคนยุคใหม่จึงมาพร้อมเหตุผลที่ว่า…ให้ความคุ้มครองครบ จบในแผนเดียว
โอกาสทอง “ธุรกิจประกัน” ตอบ Pain Point ผู้คน
เมื่อผู้บริโภคมี Pain Point เช่นนี้ เราจึงได้เห็นธุรกิจประกันส่วนใหญ่พยายามโปรโมทกรมธรรม์ความคุ้มครองในรูปแบบที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ แต่สำหรับ บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ “Generali” (เจนเนอราลี่) ถือเป็นการทำตลาดเพื่อสานต่อโปรดักท์หลักของแบรนด์ เพราะมีประกันสุขภาพเหมาจ่ายสูงสุดหลักล้าน “Health Lump Sum” (เฮลธ์ ล่ำ ซำ) เป็นหนึ่งกรมธรรม์ที่ได้การตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดี เนื่องจากมีจุดเด่นการให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุมทั้งเรื่องสุขภาพ อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล เรียกว่าลดความกังวลใจเรื่องการรักษาพยาบาลเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันกับสุขภาพได้ค่อนข้างครบ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าความคุ้มครองที่ Health Lump Sum มอบให้กับผู้ถือกรมธรรม์นั้นครอบคลุม ตั้งแต่…
– สุขภาพ ทั้งการรักษาพยาบาลทั่วไปจากอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย หรือแม้แต่การรักษาต่อเนื่องเมื่อป่วยเป็นโรคเรื้อรัง หรือโรคร้ายแรง รวมกว่า 100 โรค อาทิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคไขมัน นอกจากคุ้มครองค่ารักษาแล้ว ก็ยังคุ้มครองถึงค่าผ่าตัด และค่า CT Scan MRI เพื่อการวินิจฉัยอีกด้วย
– อุบัติเหตุ และเสียชีวิต ก็อยู่ในความคุ้มครองเช่นกัน โดยประกันสุขภาพเหมายจ่ายสูงสุดหลักล้านนี้จะดูแลค่ารักษาพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุ และความคุ้มครองในกรณีสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุด้วย ทำให้ผู้ถือประกันอุ่นใจ ครบ รอบด้าน
– กรณีเดินทางต่างประเทศ Health Lump Sum ก็มีความช่วยเหลือด้วยบริการพิเศษจากบริษัท แอสซิสต์ อเมริกา เอเชีย จำกัด อาทิ เคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน พร้อมผู้ช่วยประสานงานตลอดการรักษาตัวในต่างประเทศ
– ไม่ต้องสำรองจ่าย เนื่องจากกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าวินิจฉัยโรคอยู่แล้ว ดังนั้น ผู้ถือกรมธรรม์จึงสะดวกสบายและสามารถรับการบริการเสริมนี้ที่สถานพยาบาลในเครือข่ายได้ตามวงเงิน ไม่ต้องสำรองจ่าย ไม่ต้องพกบัตรเสริม เพียงมีแค่บัตรประชาชนใบเดียวก็รับบริการเสริมนี้ได้ ศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติม ที่นี่
– มีโรงพยาบาลชั้นนำ ในเครือข่าย รวมกว่า 390 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ เพื่อประสบการณ์การรักษาที่ดีที่สุด
– ตรวจสอบสถานะ ความคุ้มครองทุกที่ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชัน “Gen 365”
ในช่วงที่ทุกคนพยายามรัดเข็มขัดควบคุมการใช้จ่าย จึงต้องให้ความสำคัญกับ “ความคุ้มค่า” ไม่แพ้ปัจจัยอื่น โปรโมชันและแพกเก็จส่วนลดต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ และ Health Lump Sum ก็ตอบโจทย์เรื่องนี้ ด้วยการชำระค่าเบี้ยแบบรายปีที่ให้ความคุ้มค่ากว่า เพราะการชำระแบบรายปีจะถูกกว่าการชำระแบบรายเดือนประมาณ 10% พร้อมด้วยตัวเลือกการชำระผ่านบัตรเครดิต ที่สามารถเลือกแบ่งชำระ 0% สูงสุด 10 เดือน และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าบัตร KTC จะได้รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 500 บาท ตามข้อกำหนดของธนาคารผู้ออกบัตร
รักษามาตรการ Social Distancing ด้วย “Multi Channel”
จะบอกว่าตอบโจทย์มาตรการ Social Distancing ก็ไม่ผิด แต่ช่องทางการซื้อกรมธรรม์และติดต่อสอบถามของ Generali นั้น ถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และรองรับความต้องการของผู้บริโภคเอาไว้อยู่แล้ว จึงพร้อมให้บริการในหลากหลายช่องทาง
- โทรผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ 02-022-8222
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ค้นหาแผน และเบี้ยประกันที่เหมาะกับความต้องการ
- Chat กับน้องเจน เพื่อปรึกษาเบื้องต้น
ก็สามารถเลือกได้ตามความสะดวกของลูกค้า ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ยังต้องดำเนินต่อไป เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโรคระบาดที่ทุกคนกังวล