“The Most Loved Brand” คือเป้าหมาย! เปิดแบรนด์ “กัลเดอร์มา” 5 ปีกับ 3 หัวใจ “นวัตกรรม ผลลัพธ์ ความปลอดภัย”

  • 415
  •  
  •  
  •  
  •  

นาทีนี้ “ตลาดความงาม” ถือเป็นธุรกิจที่น่าจับตามองอย่างแท้จริง เพราะนอกจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องสวนกระแสธุรกิจประเภทอื่น การแข่งขันด้วย “นวัตกรรม” ก็ยังดุเดือดและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

“ช่วง 5 ปีมานี้ คนไทยเปิดกว้างมากขึ้นในเรื่องความงาม ทั้งการทำศัลยกรรม การใช้สารเติมเต็ม สารลดเลือนริ้วรอย สอดรับกับเทรนด์ความงามที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เคยนิยมแนวเกาหลี หน้าเล็ก รูปหน้าเป็นตัววีเป็นเทรนด์สากลที่ยอมรับความงามอย่างเปิดกว้าง แต่ผู้คนให้ความสนใจกับเรื่องคุณภาพผิวเรียบเนียน กระจ่างใส มากกว่าการมองว่าหน้าเล็ก หน้าขาว คือความสวย”

เภสัชกรพิรพัฒน์ ศรีวัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการธุรกิจความงาม บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายเทรนด์ความงามในไทย และเล่าอีกว่า ปัจจุบันความนิยมในตลาดความงามไม่ได้จำกัดอยู่แค่วัยรุ่น วัยทำงาน แต่ยังมีความต้องการจากกลุ่มพรีเมี่ยม เช่น ผู้บริหาร รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งต้องการสร้างความมั่นใจให้ตัวเองเมื่อต้องพบปะสื่อมวลชน ขณะเดียวกัน ในกลุ่มผู้ชายก็เปิดกว้างกับตลาดความงาม โดยเฉพาะสารลดเลือนริ้วรอย การทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น จมูก และคาง ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน แต่ประเด็นความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคกังวล จึงทำให้ผู้ที่มีกำลังใช้จ่ายมากนิยมเลือกนวัตกรรมความงามระดับไฮเอนด์จากคลินิกชั้นนำเพื่อรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

“กัลเดอร์มา” กับความสำเร็จจาก “นวัตกรรมความงาม”

เภสัชกรพิรพัฒน์ เล่าถึงเส้นทางธุรกิจของกัลเดอร์มา (ประเทศไทย) ว่า ตลอด 5 ปีที่บริษัทดำเนินธุรกิจในไทย เราเริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก คือ ยารักษาโรคผิวหนัง สารเติมเต็มจากประเทศสวีเดน และสารลดเลือนริ้วรอยจากประเทศอังกฤษ ซึ่งมีการพัฒนานวัตกรรมและเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิดที่ต้องการนำเสนอนวัตกรรมความงามที่มีประสิทธิภาพแต่ปลอดภัย เพื่อส่งเสริมให้ผู้หญิงทุกคนภูมิใจในความงามในแบบของตนเอง เช่นเดียวกับนโยบายการดำเนินธุรกิจของกัลเดอร์มา บริษัทแม่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ก่อตั้งมาแล้ว 40 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญด้านสกินแคร์

จากความเติบโตของตลาดความงามโดยเฉพาะกลุ่มพรีเมี่ยม ส่งผลให้กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) สามารถเติบโตได้ถึง 2 เท่าตัว โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาทแล้ว และบริษัทยังต่อยอดการนำเสนอนวัตกรรมความงามสู่แคมเปญ #ABOISNOW ด้วยการแนะนำนวัตกรรมสารลดเลือนริ้วรอย ABO Active 3D Treatment จากประเทศอังกฤษ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเติมเต็มความมั่นใจให้ทุกเพศได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและดูดีเป็นธรรมชาติ พร้อมกับจุดเด่นที่เห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 24 ชั่วโมง

ความงามเปลี่ยนนิยาม! คำว่า “สวย” ไม่จำกัดสไตล์

ตามที่บอกไปแล้ว ว่าเทรนด์ความงามในปัจจุบันนั้นเปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลกเพียงแต่ละภูมิภาคก็จะแตกต่างกันไปตามความนิยม เช่น โซนเอเชียก็จะชื่นชอบใบหน้าทรงกลมที่แลดูอ่อนหวาน แต่โซนตะวันตกก็จะชอบใบหน้าที่เห็นสันกรามชัดเจน ริมฝีปากอวบอิ่ม เป็นต้น

ขณะที่ผลสำรวจเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่าผู้หญิงไทยให้ความสำคัญกับตลาดความงามโดยพิจารณาจากความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ตามด้วยราคาและผลลัพธ์ ส่วนเทรนด์ต่างประเทศจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ผลลัพธ์ และราคา ตามลำดับ แต่หากเป็นตลาดความงามพรีเมี่ยมในประเทศไทยจะเป็นเทรนด์เดียวกับในต่างประเทศ

“สาเหตุที่คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องราคาก่อนผลลัพธ์อาจมาจากภาวะทางเศรษฐกิจ และมีความเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์ อย. คือสินค้าที่ปลอดภัย แต่ที่จริงแล้วเป็นเพียงหนึ่งความสำคัญเท่านั้น สิ่งที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญคือเรื่องความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ดำเนินการ เรียกว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังขาดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล ทำให้เกิดความเข้าใจดังกล่าว”

สมรภูมิเดือด! เมื่อความงามกลายเป็น Red Ocean ที่ทุกแบรนด์ชิงชัย

เภสัชกรพิรพัฒน์ วิเคราะห์ถึงความท้าทายในธุรกิจความงามว่า ราคายังคงเป็นความท้าทายหลักของธุรกิจประเภทนี้ ทำให้คลินิกความงามนิยมแข่งขันกันเพื่อดึงดูดใจผู้บริโภค แต่กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) อยู่ในกลุ่มพรีเมี่ยม จึงไม่ได้เน้นการแข่งขันด้านราคาโดยเน้นที่คุณภาพของแพทย์และผลลัพธ์มากกว่า

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันของแบรนด์พรีเมี่ยมจะเน้นการขายแบบผสมผสานมากขึ้น เช่น แพทย์จะแนะนำลูกค้าโดยเน้นจากผลลัพธ์เป็นหลักและใช้ผลิตภัณฑ์มากกว่า 1 แบรนด์ หรือแพทย์อาจแนะนำให้ดำเนินการในส่วนอื่น ๆ มากกว่าที่ลูกค้าร้องขอซึ่งถือเป็นการให้คำปรึกษาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า เป็นต้น

เศรษฐกิจชะลอตัว กระทบกลุ่มความงาม ?

เภสัชกรพิรพัฒน์ แสดงความเห็นว่า สถานการณ์ธุรกิจความงามพบว่าคลินิกพรีเมี่ยมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแต่มีภาวะชะลอตัวอยู่บ้าง ขณะที่คลินิกกลุ่มสแตนดาร์ดซึ่งมีจุดเด่นเรื่องราคาและแพทย์เชื่อถือได้ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงกว่า

คลินิกความงาม สามารถแบ่งกลุ่มได้ ดังนี้…

ไฮเอนด์ : ลูกค้าเป็นคนที่มีกำลังใช้จ่ายสูง ไม่ให้ความสำคัญกับราคา แต่เลือกจากชื่อเสียงแพทย์และผลลัพธ์ที่มีการบอกต่อเท่านั้น คลินิกประเภทนี้จะมีสาขาน้อยหรือไม่มีสาขาเลย

พรีเมี่ยม : ลูกค้ามีกำลังใช้จ่ายมาก คลินิกประเภทนี้จะมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานมาให้บริการ

สแตนดาร์ด : เน้นราคาเข้าถึงได้ และแพทย์มีความน่าเชื่อถือในการให้บริการ

แมส : ใช้ราคาเข้าถึงง่ายเป็นปัจจุบันดึงดูดผู้บริโภค

โลว์เอนด์ : คำนึงถึงต้นทุนของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก เน้นการขายผ่านโซเชียลมีเดีย ไม่ให้ความสำคัญกับเกณฑ์ อย.

อันเดอร์กราวน์ : อาจให้บริการโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ สามารถลดราคาตามที่ลูกค้ามีกำลังใช้จ่ายแต่ไม่ปลอดภัย

หากแบ่งส่วนแบ่งตลาดจากขนาดคลินิกจะพบว่ากลุ่มพรีเมี่ยมและสแตนดาร์ด มีส่วนแบ่งใหญ่ที่สุดในตลาดความงาม แม้ว่าคลินิกไฮเอนด์จะมีจำนวนน้อยมาก อาจมีเพียง 5% ของตลาดรวมและเป็นคลินิกที่คนทั่วไปไม่รู้จัก แต่ลูกค้าในระดับท็อปจะรู้จักเป็นอย่างมาก ขณะที่คลินิกสแตนดาร์ดจะใช้คนมีชื่อเสียงช่วยทำโฆษณาหรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ

จุดแข็ง “กัลเดอร์มา” บนเส้นทางความงามพรีเมี่ยม

ความแข็งแกร่งของกัลเดอร์มา (ประเทศไทย) คือ การมีผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง จากความเชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่ส่งต่อจากบริษัทแม่ยาวนานถึง 40 ปี รวมถึงนวัตกรรมความงามที่บริษัทค้นคว้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และการสนับสนุนองค์ความรู้ใหม่ ๆ แก่แพทย์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้แบรนด์สร้างความน่าเชื่อถือโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ 50% และความเชี่ยวชาญของแพทย์ 50% นั่นทำให้กัลเดอร์มาดำเนินธุรกิจโดยพัฒนานวัตกรรมควบคู่กับความงามที่เป็นธรรมชาติและความปลอดภัยเป็นปัจจัยหลัก

“กัลเดอร์มามองเทรนด์ความงามอนาคต เราเล็งเห็นว่าผลิตภัณฑ์ความงามต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย นวัตกรรมความงามที่นำมาใช้จึงต้องปรับไปตามความต้องการของลูกค้าได้และให้ผลในระยะเวลาที่เหมาะสม ตอบสนองได้ดีกับเนื้อเยื่อที่นำไปใช้งานแต่ละส่วน แต่ต้องใกล้เคียงกับธรรมชาติและให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยเท่านั้น”

“ABO Active 3D Treatment” นวัตกรรมความงามเบอร์ล่าสุด

นวัตกรรม ABO Active 3D Treatment เป็นสารที่มีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นประสิทธิภาพเดียวกันทุกแบรนด์แต่กัลเดอร์มาแตกต่างด้วยชนิดสารละลายและทักษะการฉีด เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่รวดเร็วที่สุดในขณะนี้เมื่อเทียบกับสารประเภทเดียวกัน ทั้งยังส่งผลต่อเซลล์ที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนได้ด้วยตัวเอง ภายใต้ราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมเดินหน้าแคมเปญ #ABOISNOW เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคว่าการใช้สารลดเลือนริ้วรอยกับใบหน้านั้น ควรเน้นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากกว่าการฉีดแล้วทำให้ใบหน้าตึง หรือถูกล้อว่าหน้าแข็ง และแน่นอนว่าต้องได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว เป็นธรรมชาติ และปลอดภัย

The Most Loved Brand เป้าหมายครองใจผู้บริโภค

เภสัชกรพิรพัฒน์ เปิดเผยเป้าหมายการทำธุรกิจของกัลเดอร์มา (ประเทศไทย) ว่า บริษัทต้องการเป็น The Most Loved Brand ให้ได้ในปี 2563 จากการมีกิจกรรมสนับสนุนองค์ความรู้ทางการแพทย์ บริการหลังการขาย ทีมงานคุณภาพช่วยประสานงานและแก้ไขปัญหา ภายใต้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านผิวหนังที่มีคุณภาพ เราอยากเป็นผู้นำในกลุ่มสารเติมเต็มของแพทย์ทั้งยอดขายและจำนวนลูกค้า ส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มสารลดเลือนริ้วรอย เราก็อยากให้เป็น Top of Mind ในใจผู้บริโภค

นอกจากเป้าหมายทางธุรกิจ แบรนด์กัลเดอร์มายังต้องการสร้างการแข่งขันทางธุรกิจโดยกระตุ้นให้แบรนด์คำนึงถึงผลลัพธ์และความปลอดภัยเป็นหลัก เพื่อทำให้ตลาดความงามเป็นธุรกิจคุณภาพเพื่อผู้บริโภค และสามารถเปิดเผยสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลในการตรวจสอบความถูกต้อง ความปลอดภัย แก่ผู้บริโภคได้ด้วย


  • 415
  •  
  •  
  •  
  •