สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน ในช่วงวิกฤตโรคระบาด COVID-19 ก็คือ การเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพ และการหาหลักประกันเพื่อบริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น สำหรับค่าใช้จ่ายในรักษาตัว จะเห็นได้จากการที่คนตื่นตัว ศึกษาและหาซื้อกรมธรรม์ประกันที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพมากขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่จะเน้นที่ความคุ้มครองเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19 ก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์นี้ ยังเกิดความเคลื่อนไหวระลอกใหญ่ในธุรกิจประกันด้วย ไม่ว่าจะรูปแบบธุรกิจที่บริษัทประกันต้องต่อยอดไอเดียเป็นกรมธรรม์ที่หลากหลายและเหมาะสมกับดีมานด์ที่เกิดขึ้น หรือการตลาดที่ต้องครีเอทีฟมากขึ้น เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคให้ได้ว่าแบรนด์ของตนเองปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและทันกับสถานการณ์
‘โลกเปลี่ยน เราปรับ’ ตัวอย่างการสร้างอิมแพ็กต์ให้แบรนด์
สโลแกน โลกเปลี่ยน เราปรับ จากแคมเปญของ FWD (เอฟดับบลิวดี) ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เพราะท่ามกลางการแข่งขันในธุรกิจประกันต้องทำในช่วงนี้ ก็คือการสื่อสารอย่างชัดเจนกับผู้บริโภค ด้วยถ้อยคำที่ตรงไปตรงมาเข้าใจง่าย ขณะเดียวกันก็ยังฉายภาพได้อย่างชัดเจนว่า โลกเปลี่ยนทุกวัน โรคใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่ FWD มีความเข้าใจและห่วงใยเรื่องโรคภัยที่อาจมีในอนาคต หรือแม้แต่เกิดเจ็บป่วยกะทันหันต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ก็มี ซีไอ ฟิวเจอร์ คับเว่อร์ หมดห่วง ช่วยลดความกังวล ถือเป็นโพรดักต์ที่ตอบโจทย์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งยังตอกย้ำวิสัยทัศน์ของแบรนด์ FWD ที่ต้องการเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิตอีกด้วย
ใช้ Music & Localized Marketing – ภาพยนตร์สั้น ขยี้อารมณ์กลุ่มเป้าหมาย
เพราะวิกฤตโรคระบาดส่งผลกระทบต่อทุกคน ทุกเพศวัย ดังนั้นการที่แบรนด์จะเลือกใช้กลยุทธ์อะไรมาสื่อสาร จึงต้องเป็นเทคนิคที่สามารถส่งออกไปเป็น Mass ได้ทันที ภายใต้ Message เดียวกัน ซึ่ง ซีไอ ฟิวเจอร์ คับเว่อร์ หมดห่วง เลือก 2 กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพตรงจุดอย่าง Music Marketing และภาพยนตร์สั้น
ภายใต้ระยะเวลา 3.25 นาที ของ Music VDO โลกเปลี่ยน เราปรับ เป็นบทเพลงที่มีทั้งเนื้อเพลง จังหวะ และท่าเต้นสนุกสนาน ตรงกับ Insight คนไทยที่ชื่นชอบความบันเทิง สนุกเฮฮา ทั้งยังได้นักร้องนักแสดงมากความสามารถอย่าง ตูมตาม – ยุทธนา เปื้องกลาง ซึ่งมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก มีภาพลักษณ์เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีร่างกายแข็งแรง ดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี และยังมีชื่อเสียงในฐานะนักร้องจากเวทีแข่งขันระดับประเทศ มาเป็นตัวแทนทั้งร้อง ทั้งเต้น กับคอนเซปต์ของเพลงที่ถูกสะท้อนว่าเข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคทุกคนทุกวัย ไม่ว่าจะมีภูมิลำเนาใดหรือประกอบอาชีพอะไร ผ่านเนื้อเพลงที่สอดแทรกภาษาถิ่นแต่ละภูมิภาคเข้ามา เพื่อสร้างความรู้สึกเข้าถึงผู้คนและกลมกลืนกับวิถีชีวิตของคนไทยทุกคนไม่ว่าจะมีถิ่นฐานอยู่ที่ใด จึงทำให้ได้ยินแค่ครั้งแรกก็ติดหู สามารถคุ้นเคยกับเนื้อเพลงและท่วงทำนองได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่ โฆษณาชุดเดียวกันนี้ ก็เปรียบเสมือนภาพยนตร์สั้นภายใต้เวลากว่า 9 นาที ที่โฆษณาได้หยิบยกสถานการณ์ใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นจริงกับหลายๆ คน กับเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเสมอแต่ก็สามารถก้าวผ่านไปได้ทุกครั้ง สะท้อนว่าคนไทยนั้นสามารถปรับตัวเก่ง ทั้งการรับมือและต่อสู้กับปัญหา การปรับตัวในการใช้ชีวิต ขณะเดียวกัน ก็เรียนรู้ที่จะรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างดี ทั้งการดำเนินชีวิต ธุรกิจ หรือแม้แต่การตั้งรับกับโรคระบาด โดยโฆษณาชิ้นนี้ ได้เชื่อมโยงลักษณะนิสัยของคนไทยเข้ากับโพรดักต์ ซีไอ ฟิวเจอร์ คับเว่อร์ หมดห่วง ว่า…หากต้องการใช้ชีวิตอิสระตามความชื่นชอบของตนเอง หรือต้องการส่งต่อความห่วงใยไปถึงคนรอบข้าง ก็สามารถเลือกประกัน ซีไอ ฟิวเจอร์ คับเว่อร์ หมดห่วง เพื่อลดความกังวลและความเสี่ยงด้านโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงโรคร้ายแรง หรือแม้แต่สถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน
ดูภาพยนตร์สั้น และ MV ที่นี่
เพราะเข้าใจคนไทย…ปรับตัวเร็ว – เก่ง ยังไม่พอ ต้องมีเกราะคุ้มครอง
นอกจากการที่แบรนด์ย้ำจุดเด่นของคนไทย ว่าสามารถปรับตัวรับวิกฤตโรคระบาดได้อย่างน่าชื่นชม พยายามดูแลและปกป้องตนเองเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคแล้ว ยิ่งทำให้เห็นว่าสิ่งที่สามารถเติมเต็มให้ผู้คนรู้สึกอุ่นใจคลายกังวลมากขึ้น ก็คือ การมีประกันที่สามารถคุ้มครองโรคร้ายแรงได้ แต่เพราะรู้ว่าการดำเนินชีวิตของผู้คนมีความเสี่ยงมากกว่านั้น ประกันโรคร้ายแรง ซีไอ ฟิวเจอร์ คับเว่อร์ หมดห่วง จึงออกแบบมาด้วยแนวคิดที่ครอบคลุมกว่าประกันโรคร้ายแรงตามนิยามทั่วไป เพราะให้ความคุ้มครองทั้งจากโรคร้ายแรง การเจ็บป่วยอย่างรุนแรง อุบัติเหตุ หรือแม้แต่กลุ่มโรคอุบัติใหม่ ที่ต้องเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ก็จะได้รับการคุ้มครองทั้งหมดจาก ซีไอ ฟิวเจอร์ คับเว่อร์ หมดห่วง
แม้จะเป็นประกันโรคร้ายแรงแต่ ซีไอ ฟิวเจอร์ คับเว่อร์ หมดห่วง ยังให้ความคุ้มครองแตกต่างจากประกันโรคร้ายแรงในอดีต เพราะนอกจากจะให้ความคุ้มครอง 5 โรคร้ายแรงในระยะเริ่มต้นแล้ว ก็ยังคุ้มครองระยะรุนแรงของโรคเกี่ยวกับมะเร็ง โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ โรคเกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง และโรคเกี่ยวกับอวัยวะสำคัญถึง 45 โรคอีกด้วย
โดย ซีไอ ฟิวเจอร์ คับเว่อร์ หมดห่วง ยังมีจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างจากประกันโรคร้ายแรงตามนิยามทั่วไป และเป็นครั้งแรกที่มีการให้ความคุ้มครองแบบไม่จำกัดชื่อโรค คือ รับเงินก้อน 50% ของทุนประกันภัย กรณีต้องเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลต่อเนื่อง14 วัน หรือห้องไอซียูต่อเนื่อง 5 วัน และมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ดังต่อไปนี้
1) การผ่าตัดใหญ่ (ใช้ยาสลบ หรือใช้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วน)
2) การใช้เครื่องช่วยหายใจแบบสอดท่อ หรือเจาะคอ หรือการใช้เครื่องพยุงการทำงานของหัวใจและปอด
3) ภาวะอวัยวะล้มเหลวเฉียบพลัน (หัวใจล้มเหลว / ตับวาย / ไตวาย / การหายใจล้มเหลว)
4) การถ่ายเลือด
นอกจากนี้ จะได้รับเงินก้อน 20% ของทุนประกันภัย หากตรวจพบโรคร้ายแรงในระยะเริ่มต้น และ 100% ของทุนประกันภัยหากตรวจพบโรคร้ายแรงในระยะรุนแรง ขณะเดียวกัน ยังมีโอกาสรับผลประโยชน์รวมสูงสุด 170% ของทุนประกันภัย สมัครได้ตั้งแต่อายุ 16 – 65 ปี และมีระยะเวลาคุ้มครองถึงอายุ 85 ปี โดยจะไม่เกินระยะคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันชีวิต ทุนประกันภัยขั้นต่ำ 100,000 บาท และผลประโยชน์จากกรณีเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาล จะคุ้มครองถึงก่อนอายุ 70 ปีบริบูรณ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อเราได้เรียนรู้จากวิกฤตครั้งนี้แล้ว ยิ่งจำเป็นต้องเลือกและมีประกันที่สามารถคุ้มครองตนเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่เกิดเจ็บป่วยไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายที่ไม่มีใครอยากเป็น หรือโรคระบาด โรคอุบัติใหม่ อุบัติเหตุต่างๆ ที่ทำให้ต้องสูญเสียโอกาสในการใช้ชีวิต ทำงาน หรือดูแลครอบครัวก็ตาม แต่ทั้งหมดนี้ยังสามารถลดทอนความกังวลจากอาการเจ็บป่วยและภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา ทั้งของตนเองหรือคนรอบข้างได้จากประกันโรคร้ายแรง ซีไอ ฟิวเจอร์ คับเว่อร์ หมดห่วง ของ FWD นั่นเอง