ในช่วงที่ผ่านมาหลายท่านน่าจะได้ยินข่าวคราวที่เกี่ยวกับโครงสร้างบ้านที่มีทั้งการทรุดตัวจนเอียงอย่างเห็นได้ชัด จนเกิดความเสี่ยงกับผู้คนละแวกนั้น หรือผลจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ส่งผลให้บ้านหลายหลังในพื้นที่น้ำท่วมมีปัญหาเรื่องพื้นทรุด บอกเลยว่าอะไรของบ้านพังหรือเสียหายไม่หนักหนาเท่ากับโครงสร้างฐานรากมีปัญหา หรือการต่อเติมบ้านที่ต้องมีการวางรากฐานใหม่
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะงบที่บานปลาย ความเละเทะและต้องลุ้นว่าเพื่อนบ้านจะโวยวายอะไรบ้าง ดีไม่ดีจะกลายเป็นการสร้างศัตรูแทนที่จะเป็นเพื่อนบ้านกัน แถมระยะเวลาที่ยาวนานอาจทำให้เกิดช่างเทงานที่จะทำให้งานเข้าหนักก็เดิมอีก ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นจนเป็นข่าวคราวโด่งดังมาแล้วมากมาย ซึ่งปัจจุบันจบปัญหาเหล่านั้นได้ง่ายๆ ด้วยโครงสร้างฐานรากจาก เข็มเหล็ก เน็กซ์ (KEMREX NEXT)
แล้ว เข็มเหล็ก เน็กซ์ คืออะไร เข้ามาแก้ปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร คนที่จะมาอธิบายได้ดีที่สุด คงต้องยกหน้าที่นี้ให้
คุณปวรุตม์ ธรรมมนุญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เข็มเหล็ก เน็กซ์ จำกัด
เข็มเหล็ก…นวัตกรรมเสาเข็มแบบเจาะ
คุณปวรุตม์ เล่าว่า “เข็มเหล็ก เน็กซ์” เป็นบริษัทลูกของ บริษัท เข็มเหล็ก จำกัด โดยแนวคิดของเข็มเหล็กเกิดจากการต่อเติมบ่อปลา ซึ่งตอนที่ติดต่อเพื่อเริ่มดำเนินมีการกำหนดระยะเวลางานไว้ที่ 3 เดือน แต่พอเริ่มทำจริงๆ งานกินระยะเวลาไปถึง 1 ปี ถือเป็น Pain Point ใหญ่ที่สุด และปัญหาหลักที่ทำให้ระยะเวลาการก่อสร้างต้องขยายออกไป ส่วนใหญ่เกิดจากงานฐานราก อย่างการตอกเสาเข็มที่มีกำหนดไว้ที่ 1 เดือน แต่พอดำเนินการจริงๆ 3 เดือนยังตอกไม่เสร็จ
“นอกจากนี้อีก Pain Point คือความเลอะเทอะ เละเทะ ลองคิดดูว่า ถ้าบริเวณนั้นมีการจัดสวนไว้อย่างสวยงาม ซึ่งปัจจุบันการจัดสวนมีมูลค่าค่อนข้างสูง สวนที่จัดไว้ต้องทำลายทิ้งเพราะการต่อเติม ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมการตอกเสาเข็มถึงยุ่งยากขนาดนั้น ผนวกกับการที่คุณพ่อมีความรู้เรื่องการแปรรูปเหล็ก ทำให้เกิดแนวคิดการสร้างเข็มเหล็กขึ้นมา โดยเริ่มต้นจากเข็มเหล็กต้นเล็กๆ ขนาด 1 เมตร รองรับงานต่อเติมระเบียงเล็กๆ เป็นต้น”
เมื่อมีการพัฒนาและขยายงานมากขึ้น คุณปวรุตม์ก็พบว่า เข็มเหล็กสามารถไปทดแทนงานติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ ซึ่งแต่เดิมแผงโซลาร์เซลล์ในโซลาร์ฟาร์มจะติดตั้งบนแท่นปูนธรรมดา โดยวิธีการเดิมต้องใช้ระยะเวลาติดตั้งนานถึง 6 เดือน แต่เข็มเหล็กสามารถใช้ระยะเวลาติดตั้งแผงโซลาร์เหลือเพียง 3 เดือน หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาเข็มเหล็กมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากเดิมเสาเข็มเหล็กขนาด 1 เมตรรับน้ำหนักได้ประมาณ 1 ตัน ปัจจุบันเสาเข็มเหล็กให้สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 100 ตันต่อต้น
เสาเข็มเหล็กตอบโจทย์เจ้าของบ้าน
หลังจากเสาเข็มเหล็กได้รับการพัฒนาก็มีการนำไปใช้กับงานโครงสร้างหลากหลายรูปแบบมากขึ้น โดยล่าสุดเข็มเหล็กเข้าไปสู่งานโครงสร้างอาคารที่มีขนาดไม่เกิน 4 ชั้น ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เข็มเหล็กมีการพัฒนาเสาเข็มเหล็กอย่างต่อเนื่อง แต่โซลูชั่นในการขายยังไม่ได้ถูกพัฒนา ยิ่งเมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลผู้คนก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ทำให้เข็มเหล็กต้องมองหานวัตกรรมด้านการขายเพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ของเข็มเหล็กดีกว่าอย่างไร นั่นจึงทำให้เกิดบริษัทลูกอย่าง “เข็มเหล็ก เน็กซ์ (KEMREX NEXT)”
“สำหรับหน้าที่ของเข็มเหล็ก เน็กซ์ ก็เน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์เสาเข็มเหล็กมาสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดในรูปแบบ B2C โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มเจ้าของบ้านที่ต้องการต่อเติมและแก้ปัญหาบ้าน ซึ่งปัจจุบัน Pain Point ไม่ได้มีแค่เรื่องของเวลาการดำเนินงาน แต่เป็นเรื่องของผลกระทบ เช่น ความเลอะเทอะ จะเลอะไปถึงเพื่อนบ้านหรือเปล่า บ้านหลังอื่นๆ จะรำคาญมั้ยโครงสร้างเดิมของตัวบ้านจะได้รับผลกระทบหรือไม่”
ผลิตภัณฑ์เสาเข็มเหล็กสามารถตอบโจทย์ Pain Point เหล่านั้นได้ โดยในอดีตที่ผ่านมา เข็มเหล็กเน้นเจาะตลาดไปที่กลุ่ม B2B ในสัดส่วน 80% โดยเฉพาะในกลุ่มผู้รับเหมา และ B2C เพียง 20% แต่ในปีที่ผ่านมามีการปรับมาเป็น B2B และ B2C เกือบจะเป็นสัดส่วน 50% เท่ากัน ซึ่งเป้าหมายต่อไปคือการขยายไปยังกลุ่ม B2C ให้มากขึ้น นั่นเพราะทุกคนมีโอกาสได้ใช้ผลิตภัณฑ์เสาเข็มเหล็ก
โอกาสของเข็มเหล็ก เน็กซ์เข้าถึงผู้บริโภค
สถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมา ทำให้ตลาดก่อสร้างเกิดความเปลี่ยนแปลงเนื่องจากคนอยู่บ้านมากขึ้น การต่อเติมบ้านก็เพิ่มขึ้น ความต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น หลังสถานการณ์คลี่คลายเริ่มมีการคาดการณ์ว่าตลาดน่าจะโตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากครอบครัวมีขนาดใหญ่ขึ้น อีกทั้งแม้ว่าสถานการณ์คลี่คลายลง แต่หลายพฤติกรรมยังคงอยู่ เช่น การทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from Home) รวมถึงหลายออฟฟิศเริ่มให้ความสำคัญกับการทำงานรูปแบบไฮบริด
“สำหรับในปี 2566 คาดว่า ตลาดจะยิ่งเติบโตมากขึ้น เนื่องจากทั่วโลกเปิดประเทศกันหมด 100% โดยเฉพาะจีน ยิ่งเมื่อโลกเข้าสู่ดิจิทัล เราจึงต้องสร้างแอพพลิเคชันเข็มเหล็กเพื่อ Transform ธุรกิจเข้าสู่ดิจิทัล แต่แอพฯ เข็มเหล็กไม่ใช่แค่การนำสินค้าไปโพสต์ขายในแอพฯ เนื่องจากลูกค้าไม่ได้ต้องการแค่สินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการบริการ (Service) อีกด้วย โดย Front-End ลูกค้าสามารถเข้ามาติดต่อสอบถาม รวมไปถึงการซื้อขายผ่านแอพฯ ได้ด้วย ขณะที่ Back-End จะมีการปรับโครงสร้าง อย่างการพัฒนา Kiosk เพื่อให้เข้าถึง End User และสร้างโอกาสการขายให้กับร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง”
เมื่อสรุปปัญหาของเสาเข็มแบบเดิมหรือเสาเข็มปูน จะพบว่าแบ่งออกเป็น 2 ระบบ ทั้งแบบขุดดินเป็นรูแล้วเทปูนลงไป กับการนำเสามาตอกลงดินโดยใช้ปั้นจั่นเหมือนการตอกตะปู แรงกระแทกจากการตอกจะขยายตัวออกไปด้านข้าง ก่อให้เกิดผลกระทบกับโครงสร้างเดิม แต่ระบบของเข็มเหล็กจะเป็นเหมือนการไขน็อตที่มีแต่แรงกดและการหมุน ทำให้ไม่มีแรงกระแทก เสียงที่เงียบกว่าและแม่นยำกว่า ตอบโจทย์ผู้บริโภคเป็นอย่างดี
Educate ตลาดสร้างความเชื่อมั่น
ความไม่เชื่อมั่นในเสาเข็มเหล็ก ถือเป็นคำถามแรกๆ ที่มักถูกถามมาตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เนื่องจากทุกคนมีทัศนคติว่า เสาเข็มต้องตอกให้ลึก ยิ่งลึกยิ่งแน่น ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับเสาเข็มเหล็ก แต่การติดตั้งเสาเข็มเหล็กจะมีเรื่องของทอร์ค (Torque) หรือแรงบิด ยิ่งขันยิ่งลึก ยิ่งลึกยิ่งแน่นมาทดแทน ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปี เข็มเหล็กมีการ Educate ตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทำ KA (KEMREX Academy) รวมไปถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ และการให้ความรู้กับวิศวกรและผู้ออกแบบว่าเทคโนโลยีเสาเข็มไม่ได้มีแค่การตอกเพียงอย่างเดียว
“สำหรับกลุ่ม End User เราจะเน้นไปที่เรื่องของการใช้งานเป็น Use Case เนื่องจากการมี Use Case จำนวนมากจะช่วยทำให้เกิดความเชื่อมั่น โดยในปีที่ผ่านมามีการติดตั้งเสาเข็มเหล็กไปมากกว่า 3 ล้านต้น เมื่อมีการติดตั้งมากขึ้น เพื่อนบ้านที่อยู่ในพื้นที่ดำเนินการก็จะเริ่มรู้จักเทคโนโลยีเสาเข็มเหล็กมากขึ้น จนเข็มเหล็กเริ่มเป็นที่รู้จักว่าเป็นแบรนด์เสาเข็ม รวมไปถึงการจดจำผ่าน CI ของแบรนด์ทั้งสีน้ำเงิน สีส้ม เป็นการสร้าง Brand Awareness รูปแบบหนึ่ง”
คุณปวรุตม์ ยังอธิบายเสริมว่า เสาเข็มเหล็กมีการพัฒนานวัตกรรมชุบสารเคลือบเหล็กแบบ Hot-Dip Galvanize ที่ช่วยป้องกันสนิม ซึ่งกล้ายืนยันว่าอายุการใช้งานไม่แตกต่างจากเสาเข็มปูน โดยเสาเข็มเหล็กได้ผ่านกระบวนการทดสอบและทดลองก่อนจะนำไปติดตั้ง โดยมีผลทดสอบจากแล็บทดลองเป็นเครื่องยืนยันมาตรฐาน และตลอดระยะเวลา 10 ปี ยังไม่มีลูกค้าของเข็มเหล็กมีปัญหาด้านรากฐานโครงสร้าง นอกจากนี้ยังมีการวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆ ด้วย
เสาเข็มเหล็กเข้าถึงลูกค้าสายมู
ในเรื่องของ Functional ของเสาเข็มเหล็กบอกได้เลยว่าไม่ต้องมีความกังวลใดๆ ขณะที่ในส่วนของ Emotional เข็มเหล็กมีการขยายขนาดเข็มเหล็กให้ใกล้เคียงกับขนาดเสาปูนเพื่อให้เกิดความรู้สึกไม่แตกต่างจากเสาปูน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาในส่วนของ “เสาเข็มเอก” ซึ่งเป็นความเชื่อที่หลายคนให้ความสำคัญ เข็มเหล็กเองก็มีความเชื่อเรื่องนี้เช่นกัน จึงมีการสร้างผลิตภัณฑ์ชุดพิเศษที่เรียกว่า “Gold Series” โดยเป็นเข็มเหล็กสีทองทั้งต้น เหมาะสำหรับการลงเสาเอก ช่วยสร้างความมงคลให้กับตัวบ้านและเจ้าของบ้าน
“สำหรับในเรื่องกลยุทธ์ด้าน Personalize เข็มเหล็กก็มีเตรียมไว้เช่นกัน โดยจะเน้นความสำคัญกับเรื่องของสีเสาเข็มเหล็กและการออกแบบจุดติดตั้งเสาเข็มเหล็ก นอกจากจะมีเสาเข็มเหล็กรุ่น Gold Series แล้ว ยังมีรุ่น “Blue Series” ที่เสาเข้มเหล็กทั้งต้นจะเป็นสีน้ำเงิน ขณะที่การออกแบบจุดติดตั้งเสาเข็มเหล็ก เราจะมีรูปแบบให้เลือกมากมายอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการติดตั้งในแบบที่ลูกค้าต้องการ ก็สามารถให้บริการได้เป็นรายๆ ไป”
นวัตกรรมใหม่ตอบโจทย์ความต้องการ
นอกจากเรื่องของเสาเข็มเหล็กแล้ว เข็มเหล็ก เน็กซ์ ยังมองความต้องการของผู้บริโภคเพื่อนำมาปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์และการให้บริการ สิ่งหนึ่งที่เห็นคือหลายบ้าน หลายสถานที่ปลูกต้นไม้มากขึ้น และส่วนใหญ่มักจะเป็นการซื้อต้นไม้มาลง ซึ่งช่วงแรกต้นไม้จะไม่สามารถยืนต้นได้ จำเป็นต้องมีไม้ค้ำยัน และส่วนใหญ่ไม้ค้ำยันจะเป็นไม้ที่เมื่อใช้ไปนานๆ สามารถผุได้ ซึ่งในแต่ละโครงการบ้านมีต้นไม้หลายต้น
“ตอนนี้เรามีผลิตภัณฑ์ใหม่ “Flexi Tree” จากข้อมูลของ “รุกขกร” นักดูแลต้นไม้ที่ชี้ว่า ต้นไม้ที่ไม่สามารถยืนต้นได้ด้วยตัวเองและจำเป็นต้องมีตัวค้ำยันมีมากกว่า 1 ล้านต้น โดยจะมีการใช้เสาเข็มเหล็กขนาดเล็กยึดติดกับพื้นดิน ก่อนจะนำมายึดติดกับเหล็กค้ำยัน ซึ่งสามารถดีไซน์ให้เหมาะสมกับรูปแบบของต้นไม้ได้ นอกจากนี้ด้านล่างของไม้ค้ำยันยังสามารถดัดแปลงเป็นที่นั่งใต้ต้นไม้ได้อีกด้วย ปัจจุบันได้ร่วมกับ กทม.ในการติดตั้ง Flexi Tree กับต้นไม้ตลอดแนวถนนสีลม”
ที่สำคัญในปีนี้ คุณปวรุตม์ ยังเตรียมเปิดตัวบริการใหม่ “Rent All” รูปแบบของการเช่าเสาเข็มและถือเป็นรายแรกที่ให้บริการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการเช่าเสาเข็มเหล็กเพื่อทำนั่งร้านหรือติดตั้งเครนชั่วคราว อย่างเช่น ร้านกาแฟที่เช่าพื้นที่ชั่วคราวในการตั้งร้าน สามารถเช่าเสาเข็มและโครงสร้างต่างๆ ตามระยะเวลาเช่าพื้นที่ เมื่อหมดสัญญาเช่าพื้นที่เข็มเหล็กก็จะมาถอนสิ่งก่อสร้างคืน ซึ่งบริการดังกล่าวจะเปิดให้บริการในปีนี้
“ปีนี้เราจะเน้นการทำ Digital Marketing เพื่อสร้างการรับรู้ โดยเฉพาะกิจกรรมในรูปแบบ KA (KEMREX Academy) ลงไปถึงผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาเราไม่สามารถจัดกิจกรรมอะไรได้เลย ซึ่งในอดีตเราเน้นการจัดกิจกรรม KA (KEMREX Academy) กับทางสถาบันการศึกษา แต่ปีนี้จะเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นผลิตภัณฑ์และเรียนรู้เสาเข็มเหล็กมากขึ้น พร้อมทั้งรู้จักการให้บริการของ เข็มเหล็ก เน็กซ์ มากยิ่งขึ้น”
Foundation Hero พระเอกด้านการต่อเติมบ้าน
นอกจากการจัดกิจกรรมเพื่อ Educate ตลาดแล้ว ยังเตรียมร่วมมือกับแบรนด์ใหญ่ๆ ที่เป็นที่รู้จักอย่าง SCG, SCB และ Shera เป็นต้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นว่า เข็มเหล็กร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ใหญ่ๆ เพื่อสร้างโซลูชั่นใหม่ในรูปแบบ One Stop Service ที่จะช่วยตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตรงตามความต้องการ อย่างความร่วมมือกับ SCG กับงานด้านต่อเติมอาคาร โดยส่วนต่อเติมเหนือพื้นดินจะเป็นของ SCG แต่โครงสร้างฐานรากจะเป็นของเข็มเหล็ก หรือการมองหาสินเชื่อในการต่อเติมบ้านกับ SCB เป็นต้น
“และเพื่อให้ เข็มเหล็ก เน็กซ์ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายมากขึ้นด้วยคีย์เวิร์ด Foundation Hero ซึ่งความหมายของคำนี้ไม่ใช่แค่การมาช่วยเพียงอย่างเดียว แต่เราจะทำตัวเป็นคลินิกเรื่องเสาเข็ม เมื่อมีคำถามหรือสิ่งที่ไม่เข้าใจเรื่องเสาเข็ม หรืองานด้านฐานราก สามารถติดต่อมาที่เราได้ เราเป็นผู้ชำนาญเรื่องนี้ เรามีผู้เชี่ยวชาญ วิศวกรของเราจะเปรียบเสมือนเป็นหมอมาช่วยตอบคำถาม เรามีฝ่ายขายที่เป็นเสมือนนางพยาบาลรอรับเรื่องแล้วส่งต่อให้วิศวกรเข้ามาดูแล”
Foundation Hero จึงเป็นเสมือนคลินิกเสาเข็มที่ผู้บริโภคเดินเข้ามาหาได้ทุกเมื่อที่มีข้อข้องใจ นอกจากนี้ คุณปวรุตม์ยังมองไปอนาคตว่า จุดให้บริการและ Kiosk จะกลายเป็นจุดที่ผู้บริโภคสามารถเดินเข้าไปปรึกษาได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้คุณปวรุตม์ ยังชี้ว่า เข็มเหล็ก เน็กซ์อ ยากให้ผู้บริโภครู้จักทั้งเสาเข็มไม้ เสาเข็มปูนที่ทุกคนรู้จักกันอยู่ และเสาเข็มเหล็ก โดยเเฉพาะเป้าหมายที่ตั้งใจให้ผู้บริโภครู้จักเข็มเหล็ก เพื่อให้เข้าใจถึงความแตกต่าง และถือว่าเข็มเหล็กเป็น 1 ใน 3 ของผู้เล่นในตลาด
เป้าหมายสู่แบรนด์ไทยในตลาดโลก
อย่างที่ทราบว่า เข็มเหล็ก เน็กซ์ เน้นเจาะกลุ่มเจ้าของบ้าน ทำให้ในปีนี้เป้าหมายสำคัญของเข็มเหล็ก เน็กซ์ คือการขยายตลาดไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคต่างๆ โดยระหว่างนี้ เข็มเหล็ก เน็กซ์ก็มีการขยายตลาดไปสู่ตลาดต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งถือเป้นเรื่องยากสำหรับการส่งออกเสาเข็มไปสู่ตลาดต่างประเทศ
“ปัจจุบันเสาเข็มเหล็กสามารถให้บริการในต่างประเทศ ซึ่งเราเคยมีการเข้าไปติดตั้งใน สปป.ลาว กัมพูชา มาเลเซียและเวียดนาม ที่สำคัญล่าสุดยังได้ร่วมกับรัฐบาลมัลดีฟส์ในการส่งออกเสาเข็มเหล็กไปในการก่อสร้าง ด้วยเทคนิคการติดตั้งที่เป็น Global Standard ทำให้เรามั่นใจได้ว่าสามารถเจาะตลาดต่างประเทศได้อย่างแน่นอน แต่ช่วงแรกเป้าหมายหลักจะเน้นในประเทศไทยเป็นหลัก
สำหรับเป้าหมายของ เข็มเหล็ก เน็กซ์ ต้องการให้ผู้บริโภคมองเป็นเหมือนโซลูชั่นที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ ปัจจุบันเข็มเหล็ก เน็กซ์กำลังมองหาพันธมิตรในกลุ่มหมู่บ้านเพื่อตอบโจทย์ Big Solution เนื่องจากเชื่อว่าคนที่ซื้อบ้านจะมีความต้องการต่อเติมแน่นอน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Flexi Tree ที่สามารถเจาะเข้าถึงเจ้าของบ้านในหมู่บ้านได้
