‘บุญรอดฯ’สั่งลุย!! ตั้ง ฟู้ด แฟคเตอร์ สร้างเน็ตเวิร์คบุกธุรกิจอาหารทั่วโลก ตั้งเป้า 3 ปีรายได้ 1.5 หมื่นล้าน

  • 169
  •  
  •  
  •  
  •  

เพราะมองว่า อาหารเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตของคน และไม่มีอะไรจะมา Disrupt ได้ ทางเครือบุญรอดฯ จึงประกาศบุกธุรกิจอาหาร ด้วยการตั้ง ‘บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด” ขึ้นมาสร้างเน็ตเวิร์คด้านธุรกิจอาหารกระจายสินค้าสู่ตลาดโลก

โดย ‘ปิติ ภิรมย์ภักดี’ กรรมการผู้จัดการธุรกิจซัพพลายเชนและกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จะเป็นแม่ทัพในการขับเคลื่อน ภายใต้เป้าหมาย 3 ปี ต้องมีรายได้ 15,000 ล้านบาท

one

ปิติ เล่าถึงเป้าหมายของการตั้งบริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัดว่า ต้องการสร้างเน็ตเวิร์คกับพาร์ทเนอร์ทั้งในไทยและต่างประเทศ สำหรับเชื่อมต่อช่องทางธุรกิจอาหารออกสู่ตลาดโลก ทั้งในรูปแบบ ‘ร่วมมือ’ และ ‘ร่วมทุน’ ภายใต้กรอบการลงทุน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2561 จนถึง 2563 จะใช้งบลงทุน 5,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนในบริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ 2,500 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจซัพพลายเชน 2,500 ล้านบาท

“เราไม่อยากไปแบบตัวใหญ่ เพราะไม่มีใครอยากคุยกับเรา ทำให้ตั้ง บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ ขึ้นมาใหม่ และที่ผ่านมาการไปต่างประเทศของเรา จะใช้เครือข่ายของเบียร์สิงห์เข้าไป แต่ตอนนี้ฟู้ด แฟคเตอร์ จะเป็นตัวนำ”

สำหรับการดำเนินการในปีแรกของ บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จะให้ความสำคัญกับตลาดไทย เพื่อสร้างรากฐานให้แกร่งก่อนบุกสู่ตลาดต่างประเทศ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับ 3-4 บริษัท คาดว่าจะได้เห็นในไตรมาส 2 ของปีนี้

ขณะที่ตลาดในต่างประเทศนั้น ให้ความสนใจในกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับผู้ประกอบการใน 3 ประเทศของยุโรป หากเจรจาสำเร็จก็สามารถสร้างเน็ตเวิร์คในการกระจายสินค้าอาหารให้ได้กว่า 10 ประเทศ

“ตลาดตะวันออกกลางหลายคนสนใจ แต่จริง ๆ เมื่อไปยังมีเงื่อนไขอยู่เยอะ ส่วนจีนและอินเดียพูดถึงกันเยอะ เพราะมีประชากรเยอะ แต่คู่แข่งก็เยอะตามไปด้วยและมีนักธุรกิจบิ๊ก ๆ ไปปักธงอยู่แล้ว ขณะที่ยุโรปมีโอกาสธุรกิจที่ดี เนื่องจากอาหารไทยเป็นที่นิยม รวมถึงสินค้าอาหารยังมีราคาดี สามารถทำกำไรได้สูง”

เชื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจอาหารให้แข็งแกร่งขึ้น

2

การเลือกให้ความสำคัญกับการสร้างเน็ตเวิร์คในการจัดจำหน่ายอาหารให้แข็งแรงนั้น ปิติ อธิบายว่า เพราะช่องทางเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภค มากไปกว่านั้นคือ ทำให้สามารถเรียนรู้ถึงทิศทางและความต้องการของตลาดได้ดีว่า อะไรเวิร์ค และอะไรไม่เวิร์ค

นอกจากนี้ การที่กลุ่มบุญรอดฯ มีผลิตภัณฑ์อาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวตราพันดี ภายใต้การผลิตของ บริษัท มหาศาล จำกัด , ซอสปรุงรสและอาหารพร้อมทาน ภายใต้การผลิต ของ  บริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด ฯลฯ ยังเป็นจุดแข็งที่ช่วยหนุนให้ธุรกิจอาหารของกลุ่มบุญรอดเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

โดยทิศทางต่อจากนี้ จะเน้นพัฒนาอาหารไทยเป็นหลัก ทั้งในรูปแบบอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน อาหารแช่แข็ง ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการลงทุนแล็บวิจัยอาหาร (food lab) ที่ จ.ปทุมธานี เพื่อพัฒนาสูตรและควบคุมมาตรฐานต่างๆ ให้คงที่ที่สุด

รวมถึงวางแผนย้ายฐานการผลิตของ บริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด จาก อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และย่านบางนา ไปที่โครงการ “World Food Valley Thailand” จ.อ่างทอง เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต โดยโครงการดังกล่าว นอกจากจะมีโรงไฟฟ้าเป็นของตนเอง ยังได้เปรียบในเรื่องทรัพยากรน้ำที่อุดมสมบูรณ์เหมาะกับการทำธุรกิจอาหารเป็นอย่างยิ่ง

s01_155

 ตั้งเป้า 3 ปี รายได้ 1.5 หมื่นล้าน

การบุกธุรกิจอาหารครั้งนี้ ทาง ปิติ ตั้งเป้าว่า ภายใน 3 ปี จะสามารถสร้างรายได้ที่ 15,000 ล้านบาท จากปัจจุบันรายได้มาจากกลุ่มซัพพลายเชน 2,500 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจอาหาร 2,500 ล้านบาท

หากคิดเป็นสัดส่วนรายได้นั้น ในปีนี้จะมาจากตลาดในประเทศ 80% และรายได้จากตลาดต่างประเทศ 20% ก่อนจะเปลี่ยนเป็น 50% เท่ากันในปี 2562 และในปี 2563 จะเป็นในประเทศ 20% ต่างประเทศ 80%

ที่สำคัญ หากโมเดลการบุกธุรกิจอาหารในตลาดโลกครั้งนี้สำเร็จ ทาง ปิติ ก็มีแผนจะนำโมเดลดังกล่าวไปใช้ขยายธุรกิจเครื่องดื่มในตลาดโลกเช่นกัน

 Copyright© MarketingOops.com

 

 


  • 169
  •  
  •  
  •  
  •