การวางกลยุทธ์มาร์เก็ตติ้ง มิกซ์ ทั้ง 4 P คือ Product Price Place Promotion ที่แตกต่าง จะเข้ามาช่วยสร้างแต้มต่อในการแข่งขันให้กับธุรกิจฟิตเนส แต่ P ตัวที่ 5 ซึ่งเป็นเรื่องของ People หรือบุคลากร จะเป็นหัวใจสำคัญที่เข้ามาช่วยสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาว
สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น สะท้อนออกมาให้เห็นจากความสำเร็จของ “ฟิตเนส เฟิรส์ท” ที่ก้าวเข้ามาเป็นแบรนด์ฟิตเนสแถวหน้าของบ้านเรา โดยมีกลยุทธ์ด้านบุคลากรเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ การทุ่มเทในเรื่องนี้ ทำให้ล่าสุด ฟิตเนส เฟิรส์ท ประเทศไทย ได้รับรางวัล “Aon Best Employers Thailand2017” ซึ่งนับเป็นผู้ให้บริการฟิตเนสรายแรกของโลกที่ได้รับรางวัลนี้
ความจริงหรือภาพลวงตา
ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่คนทั่วไปมองความมั่นคงของธุรกิจฟิตเนส สิ่งแรกที่ทุกคนมองเห็น คือ ฮาร์ดแวร์ ซึ่งหมายถึงสถานที่ อุปกรณ์ การตกแต่ง ราคา ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะตัดสินใจเลือกจากการมองเห็นและรู้สึกจากสิ่งที่จับต้องได้ ในขณะที่มีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ มากมายที่สนใจอยากจะเข้ามาในธุรกิจฟิตเนสเป็นผลมาจากกระแสความตื่นตัวในเรื่องสุขภาพและออกกำลังกายมาแรงมากในปัจจุบัน จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นฟิตเนสคลับมากมายเปิดตัวขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ในความเป็นจริง การลงทุนแค่ฮาร์ดแวร์ไม่เพียงพอให้ธุรกิจฟิตเนสเติบโตอย่างยั่งยืนได้ เพราะหัวใจสำคัญคือ เราจะทำอย่างไรให้สมาชิกอยากกลับมาออกกำลังกายที่คลับอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมาสม่ำเสมอ ก็จะเห็นผลจากการออกกำลังกาย เมื่อได้ผลก็จะออกกำลังกายต่อเนื่องจนเป็นกิจวัตรที่สมาชิกเลือกที่จะไม่หยุดเอง ซึ่งจะทำให้ฟิตเนสคลับนั้นๆ เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน และแน่นอนว่าตัวแปรสำคัญที่จะสร้างบรรยากาศแห่งการออกกำลังกายให้เต็มไปด้วยพลังงานและแรงบันดาลใจ ก็คือ ทีมงานในคลับนั้นเอง
พัฒนาที่ซอฟท์แวร์ ใช้เวลา แต่ยั่งยืนและยากที่ใครจะตามทัน
ฟิตเนส เฟิรส์ท ใช้เวลาสร้างบุคลากรให้เข้าใจกลยุทธ์และพัฒนาคุณภาพในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านฟิตเนส การให้คำแนะนำกับสมาชิก การเติบโตในสายอาชีพ การบริหาร บุคลิกภาพ ความสามารถในการพัฒนาคนหรือทีมงานรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องและอีกมากมายเพื่อให้มี “พนักงานคนเก่ง” (Talented) ในองค์กร ภายใต้ความท้าทายในตลาดแรงงานของประเทศไทย ที่มีอัตราการว่างงานต่ำ และขาดแรงงานฝีมือทางด้านธุรกิจฟิตเนส จากการลงมือปฏิบัติอย่างเข้มข้น ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องมั่นคง ควบคู่กับแผนพัฒนาบุคลากรที่มีความเข้มแข็งชัดเจนอย่างมีกลยุทธ์จนเป็นที่มาของการเปิดฟิตเนสรายแรกและรายเดียวของโลกที่ได้รับรางวัลนี้ ที่จะเป็นเครื่องการันตีว่า “บุคลากรคือหัวใจของความสำเร็จ” ได้เป็นอย่างดี
“Dream Plan” เขียนฝัน แล้วทำฝันให้เป็นจริง
มร.มาร์ค เอลเลียต บิวคานันท์ กรรมการบริหาร และคุณสุกัญญา ไชยหงษา ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล เล่าถึงกลยุทธ์การบริหารบุคลากรให้ฟังว่า เราตั้งต้นที่วาดภาพระยะไกลที่อยากให้ ฟิตเนส เฟิรส์ท “เติบโตก้าวหน้าอย่างยั่งยืนในเมืองไทย” เมื่อภาพที่ต้องการชัดเจน จึงเริ่มต้นด้วยการเขียนแผน โดยเราเรียกแผนนั้นว่า “Dream Plan” ถ้าเราจะให้องค์กรยั่งยืนในเมืองไทย องค์กรต้องบริหารด้วยคนไทย เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง พนักงานไทยกับความต้องการของสมาชิก ทั้งที่เวลานั้นเรามีผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้นสิ่งที่เราทำเป็นอันดับต้น ๆ คือ สร้างเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพ (Career development plan) ที่น่าสนใจ ดึงดูด และเร็วเพียงพอ โดยเริ่มที่กลุ่มผู้บริหารองค์กร เพราะผู้บริหารไม่เพียงต้องเก่งในงาน ยังต้องมีพันธะสัญญาอย่างแรงกล้าที่จะดำเนินธุรกิจของฟิตเนส เฟิรส์ท ประเทศไทย ให้เติบโตอย่างรวดเร็ว และยั่งยืน เราทำระบบสืบทอดตำแหน่งงาน (Succession Plan) โดยกำหนดบุคลากรที่จะขึ้นเป็นผู้บริหารที่มี “ศักยภาพ” ทำระบบพัฒนาอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง จนวันนี้เรามีผู้บริหารระดับสูงขององค์กรเป็นคนไทย 99% เป็นคนไทย มีอายุการทำงานเฉลี่ย 11 ปี ในสัดส่วนจากบุคลากรภายใน 76% สรรหาจากภายนอก 24%
มร.มาร์ค เอลเลียต บิวคานันท์ ยังบอกอีกว่า นอกจากผู้บริหารต้องเป็นคนไทยแล้ว เรายังมีกลยุทธ์สำคัญนั่นคือ เราต้องเป็น “เจ้าของคนเก่ง” ให้ได้ จาก Dream Plan ที่เขียนไว้ มาสู่ภารกิจสำคัญคือ ค้นหาคนเก่ง ทั้งระดับหัวหน้างาน และระดับพนักงาน วิธีการคือ เราเฟ้นหาจากคนข้างในก่อน เราสัมภาษณ์ พูดคุยกับพนักงานที่มีศักยภาพทุกคนอย่างจริงจัง เพื่อหาข้อดี จุดแข็ง และแพชชั่นของเขา แล้วนำมาจัดระบบออกแบบเป็นโปรแกรมที่จะส่งเสริมให้พนักงานเหล่านั้นได้ก้าวหน้าในอาชีพอย่างรวดเร็ว
ระบบการพัฒนาพนักงานคนเก่งด้วยเส้นทางอาชีพแบบ “Fast track” (สายด่วน) จึงได้เกิดขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจที่รวดเร็ว รวมถึงมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพ (Talent Management and Development) เพื่อเตรียมความพร้อมพนักงานไว้สำหรับการขยายสาขาที่มากขึ้น โดยเรามองล่วงหน้าอย่างน้อย 5 สาขา ในเวลานั้น แต่ในปัจจุบันเรามองล่วงหน้าเป็น 3 ปี ซึ่งเป็นโอกาสการเติบโตอย่างรวดเร็วของพนักงานในสายงานบริหาร ซึ่งเป็นสิ่งจูงใจที่ชัดเจน สำหรับพนักงานทั้ง Generation Y และ Z เพราะเราเป็นองค์กรที่พนักงาน 95% อยู่ในเจน Millennials
httpv://youtu.be/3PDu0IPM53Y
สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง แข่งเมื่อไหร่ก็ชนะ
มร.มาร์ค เอลเลียต บิวคานันท์ แบ่งปันเรื่องวัฒนธรรมองค์กรอีกว่า เราเชื่อในคน ให้อำนาจพนักงานตัดสินใจ ด้วยคำง่าย ๆ คือ คุณมี “MD Power” หากสิ่งนั้นที่คุณจะตัดสินใจทำดีต่อสมาชิก ดีต่อพนักงาน และดีต่อบริษัท จงลงมือทำ แม้ว่าจะผลออกมาจะผิดพลาดไป คุณจะไม่ได้รับคำตำหนิ สิ่งที่ได้รับคือคำแนะนำ นี่คือพื้นฐานที่เราใช้ในการสร้างตัวตนของความเป็น “Fitness Firster” บ่งบอกให้เห็นว่าเราให้อิสระแก่พนักงาน คล้าย ๆ กับประโยคที่ว่า “เราสร้างสนามให้น้องเล่น มากกว่าขีดเส้นให้น้องเดินตาม” เราไม่ต้องการให้พนักงานเป็น “หุ่นยนต์” ซึ่งการที่จะทำให้ได้แบบนั้น เราต้องฉีด DNA ความเป็น Fitness Firster ลงไปในตัวตนของบุคลากรทุกคน ด้วยคุณค่าหลักขององค์กร ที่เราเรียกว่า “WINNING WAYS” ซึ่งวิถีแห่งชัยชนะของเราใม่เพียงต้องเก่ง แต่ต้องดี ใส่ใจคนอื่น และต้องแสดงออกให้ได้ว่า “รักในสิ่งที่ทำ (Love what we do)” เราจริงจังกับการสร้างคุณค่าหลักนี้มาก ซึ่งผู้นำต้องเป็นตัวอย่าง และเชื่อมโยงให้อยู่ในกระบวนการของระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์ทุกขั้นตอน เพื่อให้แน่ใจว่า พนักงานของเรามีอิสระในการคิด และทำ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม บรรยากาศการทำงานของเราจึงมีความสนุกสนาน และเราก็ทุ่มเทสุด ๆ ในทุกอย่างที่เราสัญญาว่าจะทำ
เรียนรู้และพัฒนา ทุกที่ ทุกเวลา
คุณค่าหลักที่แข็งแกร่งของเราอีกอย่างคือ “การเรียนรู้” พนักงานของเรากระหายในการเรียนรู้เสมอ บริษัทกำหนดให้มีชั่วโมง “Q2 time” ให้กับพนักงานทุกคนทุกวัน เพื่อใช้ในการเรียนรู้ และพัฒนา เราใช้เวลา 10% สำหรับการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ ทุกวัน นอกจากนั้นเราได้สร้างทีมงานที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญพิเศษ ที่ทำหน้าที่ในการอำนวยการเรียนรู้ (Specialist Facilitators) เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนการเรียนรู้ พัฒนาองค์ความรู้ จนวันนี้ หนึ่งในเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพที่พนักงานใฝ่ฝันที่จะเป็นคือ “Learning and Development Trainer” พนักงานคนดีที่เก่ง ทำหน้าที่พัฒนาพนักงานคนเก่งให้ดี การวิจัยและพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือ การส่งต่อความรู้จากพนักงานคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง จากสาขาหนึ่งไปอีกสาขาหนึ่ง หรือจากบนลงล่าง จากล่างขึ้นบน นี่คือหัวใจสำคัญที่บุคลากรชั้นเลิศของเราทำได้อย่างดี และต่อเนื่อง จนเราสามารถปรับเปลี่ยน รุกและรับกลยุทธ์การแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และเฉียบขาด
พัฒนาคนว่ายาก เก็บรักษาคนยากยิ่งกว่า
คุณสุกัญญา ไชยหงษา ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารคนเก่งขององค์กรว่า “คนเก่งหายาก แต่การรักษาคนเก่งไว้ยากกว่าเยอะ เรื่องนี้ไม่มีสูตรสำเร็จมีแต่การทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมแพ้ และพัฒนาอยู่เสมอ”
เรามีรูปแบบบุคลากรที่แตกต่างจากฟิตเนสที่อื่น เพราะพนักงานของเราเป็นพนักงานประจำ 100% ในขณะที่ที่อื่นอาจมีฟรีแลนซ์ หรือพาร์ทไทม์ เหตุผลที่เราต่าง เพราะเราต้องการพนักงานที่มีฝีมือควบคู่กับการมีพันธะสัญญากับสมาชิก เพราะสมาชิกต้องได้รับการดูแล ควบคู่ไปกับการให้แรงบันดาลใจ และการติดตามอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีคิดเช่นนี้ ทำให้เราสร้างระบบการสรรหาคนเก่ง และรักษาคนเก่งอย่างจริงจัง เริ่มจากการค้นหาดวงดาว (Star Search) เรามีสายสัมพันธ์อันดีกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งหลายที่จะพัฒนานักศึกษาในคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา และพลศึกษาให้ได้รับการฝึกประสบการณ์อาชีพอย่างมืออาชีพกับฟิตเนส เฟิรส์ท ทุกปีเราจะรับนักศึกษาฝึกงานเกือบ 400 คน เพื่อให้ความรู้ พัฒนา ฝึกฝน ให้นักศึกษาเหล่านั้นได้มีอาชีพในบริษัทของเรา เป็นการฝึกประสบการณ์อาชีพที่จริงจัง และเกินกว่า 70% ของนักศึกษาฝึกงานกลายมาเป็นพนักงานของเรา
เรามีโครงการ “Superstars” ที่แตะเอาความต้องการของทีมงานเจนวายแรงๆ นั่นคือการสร้างการยอมรับในมุมของสาธารณะแบบแรงๆ ดังๆ ดังนั้นเราจึงมีการคัดสรรทีมงานฟิตเนส ที่มีความสามารถแบบโดดเด่น และเล่าเรื่องราวของพวกเขาผ่านแคมเปญการตลาดที่ลงทุนมหาศาลในทุกสื่อ ส่งผลให้พนักงานดาวเด่นมีความภูมิใจและผูกพันกับองค์กร หนังล่าสุดของพวกเขาเหล่านี้มีผู้เข้าชมกว่า 550,000 คนทางเฟสบุ๊คเพจของเรา
นี่เป็นเพียงบางส่วนที่เราได้ลงมือทำอย่างเข้มข้น สรรหาด้วย Employee Value Proposition (EVP) การฝึกอบรม และการพัฒนาชั้นเลิศมากมาย ระบบการให้รางวัล และผลตอบแทนที่คุ้มค่า สวัสดิการที่โดดเด่น รวมถึงการสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันแบบพนักงานยุค Millennials ทำให้ความผูกพันต่อองค์กรของเราสูงถึง 94% สำรวจโดย Aon Hewitt ปี 2017 อัตราการ Turnover ของพนักงานอยู่ที่ 1% รวมถึง 98% ของหัวหน้างานเติบโตจากพนักงานในองค์กร
จาก Dream Plan สู่แผนธุรกิจที่ผ่านบทพิสูจน์มากมาย จนทำให้วันนี้ ฟิตเนส เฟิรส์ท ประเทศไทย เป็นผู้ประกอบการธุรกิจฟิตเนสรายแรกของโลกที่ได้รับรางวัล Aon Best Employers Thailand 2017 รางวัลนี้ไม่ได้การันตีเพียงความมั่นคงทางการเงินของธุรกิจ แต่มองลึกได้ชัดว่าสุขภาพขององค์กรมีความแข็งแรง และมีความพร้อมที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจได้แบบก้าวกระโดด พร้อมประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ ฟิตเนส เฟิรส์ท ประเทศไทย ที่กำลังเริ่มต้น…
“องค์กรที่ดีที่สุดไม่สามารถมีได้ หากไม่มีพนักงานที่ดีที่สุด”
“การได้รางวัลนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราดีที่สุด แต่เป็นรางวัลที่บอกให้รู้ว่าเรากำลังมาในทิศทางที่ถูกต้อง เราจะถือว่ารางวัลนี้คือกำลังใจให้ทำต่อไป เมื่อเรามุ่งมั่นด้วยกันทั้งผู้บริหาร และพนักงาน พัฒนาอยู่ตลอดเวลา เราคงไม่น้อยไปกว่าคำว่าเดอะเบสท์” มร.มาร์ค เอลเลียต บิวคานันท์กล่าวทิ้งท้าย……