ในความผันผวนของสภาพเศรษฐกิจ กลุ่มสินค้าความงามต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ดั่งความสำเร็จของบริษัทความงามชั้นนำระดับโลกอย่าง เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ หรือที่รู้จักกันในนาม บริษัท ELCA ประเทศไทย จำกัด ที่ครองความเป็นผู้นำในตลาด Prestige Beauty ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ซึ่งขณะนี้ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 33 ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ปีนี้เป็นปีแห่งความพิเศษหลายอย่างเช่นการย้ายออฟฟิศสู่โครงการ One Bangkok ใจกลางกรุงเทพฯ และอื่นๆมากมาย เรามาติดตามก้าวเดินแห่งความสำเร็จเอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ กันว่ามีสิ่งใดน่าติดตามบ้าง
เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ กับตำแหน่งบริษัทความงามอันดับ1 ของตลาด Prestige Beauty ในไทย
สำหรับแบรนด์เครื่องสำอางแล้วต้องยอมรับว่า มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับถึงความเป็นแบรนด์ชั้นสูง หนึ่งในนั้นคือ Estée Lauder (เอสเต ลอเดอร์) ซึ่งมีประวัติยาวนานและลูกค้าที่ชื่นชอบอย่างล้นหลาม บริษัทได้ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานและกำลังย่างเข้าสู่ปีที่ 33 ในประเทศไทยโดยมีการขยายแบรนด์รวม 11 แบรนด์ในปัจจุบัน ครอบคลุมทั้งสกินแคร์ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม และน้ำหอม เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งของบริษัทและเพื่อให้มีสินค้าตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด เช่น La Mer, M.A.C, Bobbi Brown, Tom Ford Beauty, Jo Malone London, Clinique, Aveda, Origins รวมไปถึงแบรนด์น้องใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมาอย่าง Le Labo น้ำหอมสุด niche ชื่อดังจากนิวยอร์ค และ Dr.Jart+ เวชสำอางชั้นนำจากเกาหลี
ไม่เพียงแค่ความใส่ใจในนวัตกรรมและเทคโนโลยีความงามชั้นนำระดับสูงในผลิตภัณฑ์ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการให้บริการกับลูกค้า เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภคอย่างตรงจุดและตรงใจ จนสามารถครองตำแหน่งบริษัทความงามอันดับ1 ของตลาด Prestige Beauty ในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง
สร้างสรรค์แคมเปญเพื่อสังคมและโลก พร้อมสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียมและความหลากหลาย
นอกเหนือจากความสำเร็จในแง่ธุรกิจ เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ ต้องการสร้างแรงบันดาลใจและมอบคุณค่าในระยะยาวแก่โลก สร้างสรรค์เรื่องราวดีๆ สู่สังคมด้วย อย่างการคัดเลือกบรรจุภัณฑ์ภายใต้แนวคิด ‘5 Rs’ ได้แก่ 1) Recyclable สามารถรีไซเคิลได้ 2) Refillable สามารถเติมได้ 3)Reusable นำไปใช้ซ้ำได้ 4) Recycled นำมารีไซเคิลให้ได้มากที่สุด และ 5) Recoverable นำมาใช้ใหม่ได้ โดยจะดำเนินงานตามเป้าหมายดังกล่าวให้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ภายในปี 2568 มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อย่างความโปร่งใสในการตรวจสอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค
อีกหลากหลายตัวอย่าง เช่น การสร้างสรรค์แคมเปญ Breast Cancer ที่ร่วมมือกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ช่วยให้ผู้หญิงตระหนักถึงภัยร้ายของมะเร็งเต้านม ที่บริษัทได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง หรือนโยบายการส่งเสริมความเท่าเทียม ความหลากหลาย และความเสมอภาค (Diversity, equity, and inclusion – DE&I Policy) แสดงจุดยืนผ่าน แคมเปญ M∙A∙C VIVA GLAM ซึ่งมอบโอกาสให้ทุกคนได้ช่วยเหลือสังคม ผ่านผลิตภัณฑ์ลิปสติกในคอลเลคชั่น ‘VIVA GLAM’ โดยส่วนหนึ่งของรายได้จากการขายจะถูกส่งมอบไปยังมูลนิธิ M∙A∙C AIDS Fund เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือนโยบายของบริษัทที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศในกลุ่ม LGBTQ+ ด้วย
ย้ายออฟฟิศสู่โครงการ One Bangkok ผลักดันศักยภาพการทำงานของบุคลากร
ล่าสุด เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ ย้ายสำนักงานมายังโครงการ One Bangkok (วัน แบงค็อก) ทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯ และเป็นที่ทราบดีว่า เป็นโครงการที่อาคารสำนักงานระดับพรีเมียมที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันมากมาย ตอบโจทย์ทั้งเรื่องไลฟ์สไตล์และการทำงานของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการอย่างเหนือชั้น กลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงจุด การจับเทรนด์และความเข้าใจในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการได้อย่างแม่นยำว่องไว ทำให้ เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ ก้าวสู่ ความเป็นที่สุดของบริษัทความงาม อันดับ 1 ของตลาด Prestige Beauty ในไทยอย่างไร้ข้อกังขา พร้อมความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดพัฒนาทุกผลิตภัณฑ์ให้เป็น “แบรนด์กลางใจ” ของทุกคน ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
*จากการสำรวจยอดขายโดย Beaute Research ในกลุ่มเครื่องสำอางและน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ที่วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า บูติก และอีคอมเมิร์ซ ปี 2021-ไตรมาสที่1 ปี 2024 (ม.ค. ถึง มี.ค. 2024)