10 เรื่องต้องรู้ กับ ‘โรงหนัง esports’ แห่งแรกในโลกของ ‘เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์’

เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย กับการที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จับมือกับพาร์ทเนอร์เปิดตัวโรงภาพยนตร์ ‘Dell Gaming Esports Cinema’  ณ โรงภาพยนตร์ที่ 4 เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา ซึ่งทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ บอกว่า เป็นโรงภาพยนตร์ esports แห่งแรกของโลก

หลายคนอาจเกิดคำถามว่า เหตุผลของการเปิดโรงภาพยนตร์แห่งนี้คืออะไร และมีความแตกต่างหรือพิเศษจากโรงภาพยนตร์อื่น ๆ อย่างไร ซึ่งทาง Marketing oops จะพาไปค้นหาคำตอบจาก ‘10 เรื่องต้องรู้’ ของโรงภาพยนตร์แห่งนี้

1. ที่มาของโรงภาพยนตร์แห่งนี้มาจากความแรงของ esports ในปัจจุบัน โดยเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ พบว่า 70% ของกลุ่มคนชมภาพยนตร์ จะมีอายุ 12-35 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับผู้เล่น esports จึงทำโรงภาพยนตร์เพื่อรองรับการแข่งขันโดยเฉพาะ ตามนโยบายในเรื่อง Alternative Content การนำคอนเทนท์ทางเลือกที่ไม่ใช่ภาพยนตร์ มาเผยแพร่ทางโรงภาพยนตร์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์

2. โรงภาพยนตร์แห่งนี้ เป็นความร่วมกันระหว่างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กับพาร์ทเนอร์ ได้แก่ Dell  พาร์ทเนอร์รายใหญ่ในฐานะ Naming sponsor ที่ให้การสนับสนุนอุปกรณ์ในการเล่นทั้งหมด , ทรู ออนไลน์ ในการสนับสนุนระบบอินเตอร์เน็ต , Intel ให้การสนับสนุนเรื่องเทคโนโลยีในรูปแบบของมินิพีซี หรือ NUC รุ่น Hades Canyon และ นีโอ ลูชั่น เป็นพาร์ทเนอร์ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน esports ที่จะช่วยหาลูกค้าเข้ามาใช้โรงแห่งนี้จัดการแข่งขัน

3. Dell Gaming Esports Cinema ณ โรงภาพยนตร์ที่ 4 เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา ใช้เงินลงทุนราว 10 ล้านบาท

4. ลูกค้าหลัก จะเป็นกลุ่มองค์กรที่จัดการแข่งขันหรือให้การสนับสนุนการแข่งขัน esports

5. เหตุผลที่เลือกเปิดโรงภาพยนตร์ esports แห่งแรกที่เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา เพราะเดินทางสะดวก เนื่องจากติดรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT และยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษา เป็นแหล่งรวมของเด็ก และวัยรุ่น กลุ่มผู้เล่น esports ที่สำคัญ คือ ใกล้กับที่ตั้งของบริษัทที่จัดแข่งขันและให้การสนับสนุน esports หลายแห่ง อาทิ ทรู และ การีน่า เป็นต้น

6. Dell Gaming Esports Cinema จะรองรับการแข่งขัน esports แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นจอขนาดใหญ่ เครื่องฉายระดับ 4K  ระบบเสียง ระบบอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 1,000 GB  และมี 2 คู่สาย เพื่อสนับสนุนการทำงาน หากกรณีคู่สายหลักมีปัญหา

7. รองรับผู้เข้าแข่งขันได้ 72 คน รองรับผู้ชมได้ 200 คน โดยในวันที่ไม่มีการแข่งขันหรือจัดอีเว้นท์ โรงแห่งนี้จะฉายภาพยนตร์ตามปกติ

8. ค่าบริการจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เหมาทั้งวันราคาอยู่ที่ 200,000 บาท และราคาเหมาครึ่งวัน 100,000 บาท แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือ 10.00-15.00 น. และ 17.00-22.00 น.

9. ทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์มีแผนขยายสาขาโรงภาพยนตร์ esports ในปีหน้าอีก 1 แห่ง อย่างไรก็ตามขอรอดูผลตอบรับจากสาขาแรกภายใน 3 เดือน โดยสาขาที่จะขยายนั้น จะเน้นโรงภาพยนตร์ที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้า BTS และ MRT เป็นหลัก เพื่อให้สามารถเดินทางสะดวก

10. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ตั้งเป้ารายได้จากโรงภาพยนตร์ esports ปีละ 12 ล้านบาท