สำหรับเทศกาลฮาโลวีน (Halloween) ที่ตรงกับวันที่ 31 ต.ค.ของทุกปี แม้ว่าจะเป็นเทศกาลสนุกๆ เป็นความเชื่อของฝั่งตะวันตก และยุโรปที่เชื่อว่าวันนี้ถือว่าเป็น “วันปล่อยผี” ซึ่งสัญลักษณ์ของเทศกาลนี้อย่างที่เรารู้ๆ กัน อย่างเช่น การแต่งตัวแฟนซีเป็นภูตผี ปีศาจ, ฟักทองหน้าตาน่ากลัว หรือจะเป็นลูกอม ช็อคโกแลตที่ต้องมีติดบ้านทุกหลัง เพื่อเล่นสนุกกันใน “ทริก ออร์ ทรีต” (Trick or Treat)
ทั้งนี้ ในการแพร่ระบาดของ COVID-19 หนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบเรื่อง supply chain ก็คือ ‘เฮอร์ชีย์’ (Hershey’s) ที่กำลังการผลิตถึง 70% อยู่ในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกก็เพิ่มสูงขึ้นตาม เช่น น้ำตาล, เมล็ดโกโก้, ข้าวสาลี และน้ำมันที่ใช้บริโภค
อย่างไรก็ตาม ทางเฮอร์ชีย์ ระบุว่าสามารถเสิร์ฟสินค้าสู่ตลาดได้มากพอ โดยเฉพาะช็อกโกแลต Kisses และ Reese ซึ่งเป็นที่นิยมในเทศกาลฮาโลวีน โดยช็อกโกแลตเฮอร์ชีย์ติดเป็น 1 ใน 5 ช็อกโกแลตที่คนนิยมซื้อเพื่อวันฮาโลวีนในสหรัฐฯ และยุโรปมานานแล้ว
“วันฮาโลวีน เป็นเทศกาลแห่งการใช้จ่ายมากที่สุด ทั้งลูกอมและช็อกโกแลต เมื่อเทียบกับเทศกาลอื่น คิดเป็นประมาณ 10% ของยอดขายประจำปีของบริษัท”
ข้อมูลประเมินของ National Retail Federation (NRF) เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในเทศกาลฮาโลวีน คาดว่าจะแตะที่ 10,140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับในปี 2020 ประมาณ 8,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่ Arun Sundaram นักวิเคราะห์ของ CFRA ได้พูดว่า “วันฮาโลวีนในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนเก็บกดจากวิกฤต COVID-19 ทำให้พวกเขาไม่สามารถฉลองได้ตามปกติ จึงทำให้ยอดใช้จ่ายสูงขึ้นมาก”
ในมุมของ Arun Sundaram สำหรับแบรนด์ช็อกโกแลตเฮอร์ชีย์ มองว่าได้เปรียบอย่างมากในเทศกาลนี้ด้วยเหตุผลหลายเรื่อง
- ยังเป็นแบรนด์ช็อกโกแลตที่ได้รับความนิยม
- ช็อกโกแลตเป็นขนมที่มีความซับซ้อนเรื่อง supply chain น้อยกว่าธุรกิจอาหาร
- เฮอร์ชีย์รักษามาตรฐานมาตลอด ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่น และตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่าย
- ด้วยความเป็นแบรนด์ใหญ่ ทำให้กระทบกับเรื่องราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นน้อยกว่า
ที่น่าสนใจคือ นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์รายได้ประจำปี (annual revenue) ของแบรนด์เฮอร์ชีย์ น่าจะเพิ่มขึ้นสูงที่ 8,820 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นมาจากช่วงเทศกาลฮาโลวีน
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ของเฮอร์ชีย์ ได้คาดการณ์การเติบโตของยอดขายในปี 2021 ว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 8-9% เทียบกับปีก่อนหน้านั้นที่ 6-8% ซึ่งมองว่า ความนิยมของสินค้าหลายๆ ตัวของเฮอร์ชีย์ เช่น KitKat, Reese’s Peanut Butter Cups ซึ่งตั้งแต่ช่วง 1 สัปดาห์ก่อนที่จะมีเทศกาลฮาโลวีนซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อหลายแห่งเริ่มขาดตลาด
Michele Buck ประธาน และ CEO ของเฮอร์ชีย์ พูดว่า ความต้องการของผู้บริโภคสำหรับฮาโลวีนปีนี้รุนแรงมาก เพราะพวกเขาไม่ได้เฉลิมฉลองเทศกาลนี้อย่างเต็มที่ในปี 2020 เธอมองว่าการเติบโตทางธุรกิจในปีนี้จะแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน
ที่มา: reuters, confectionerynews