โลกเราทุกวันนี้ปฏิเสธเรื่องของดิจิทัลไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงผู้บริโภค การเข้าถึงตลาด การสร้างสรรค์แคมเปญ ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ช่องทางของดิจิทัลเพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตและประสบความสำเร็จ ดังนั้น นักธุรกิจที่ดีไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จะมีพื้นฐานหรือไม่มีพื้นฐานดิจิทัล แต่การเสริมสร้างความรู้ให้กับตัวเองในเรื่องดิจิทัลจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
ล่าสุด มหาวิทยาลัยศรีปทุมสุด ได้เปิด หลักสูตรพัฒนาการใช้สื่อดิจิทัลเชิงสร้างสรรค์ (DEF – Digital Edge Fusion) โดยได้ 2 กูรูในวงการธุรกิจมาเป็นผู้บริหารหลักสูตร ได้แก่ ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กูรูด้านอีคอมเมิร์ซและอีมาร์เก็ตติ้งไทยและผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ tarad.com และ บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ นักสร้างแบรนด์ชื่อดังที่นำพาธุรกิจร้านอาหารปิ้งย่างเบอร์หนึ่งของเมืองไทยให้ประสบความสำเร็จ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. รวิภา อัครจินดานนท์ คณบดีบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวว่า มหาวิทยาลัยศรีปทุมมีวิสัยทัศน์ คือ การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำสำหรับคนรุ่นใหม่ เราไม่เคยหยุดสร้างสรรค์และพัฒนาบัณฑิตและบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับประเทศ รวมไปถึงการเติมเต็มความรู้และประสบการณ์ให้กับคนในภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกปัจจุบัน หรือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคที่เน้นนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ของยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยมีดิจิทัล เป็นกลไกที่สำคัญประการหนึ่ง
“จากความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากหลักสูตร ABC หรือ Academy of Business Creativity วันนี้ มหาวิทยาลัยศรีปทุมจึงได้เชิญทีมงานจากหลักสูตร ABC มาร่วมพัฒนาหลักสูตร DEF หรือ Digital Edge Fusion ทั้งในด้านแนวคิดและกิจกรรมต่างๆ มุ่งเน้นการนำดิจิทัล มาใช้ประโยชน์ ทั้งกับธุรกิจ สังคม ชุมชน และประเทศชาติ โดยมีผู้เชี่ยวชาญในวงการดิจิทัลและการตลาดของไทยมาร่วมดำเนินงาน ซึ่งเป็นไปตามคอนเซ็ปต์ของหลักสูตรต่างๆ ของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งเน้นในเรื่องของตัวจริงและประสบการณ์จริง”
นอกจากทีมงานจากหลักสูตร ABC แล้ว หลักสูตร DEF หรือ Digital Edge Fusion ยังได้รับการสร้างสรรค์หลักสูตรโดย คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้บุกเบิกอีคอมเมิร์ซ และอีมาร์เก็ตติ้ง ในประเทศไทย ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ tarad.com และ คุณบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ นักสร้างแบรนด์ชื่อดังที่นำพาธุรกิจร้านอาหารปิ้งย่างเบอร์หนึ่งของเมืองไทยให้ประสบความสำเร็จ
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กล่าวว่า อนาคตของอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปัจจัยหลายๆ อย่างจากภาครัฐ ทั้งการผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 การเติบโตของฟินเทค หลักสูตร DEF จะช่วยเติมเต็มมุมความรู้ด้านดิจิทัลให้ผู้ประกอบการ สามารถนำไปใช้ได้จริง เราแตกต่างจากคอร์สอื่นในเรื่องการให้ประสบการณ์จริงกับผู้เรียน เพราะได้ทำเคสจริงจากสินค้าของชาวบ้านในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจะทำให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนร่วมในการสร้างธุรกิจออนไลน์ให้กับธุรกิจท้องถิ่นสร้างรายได้ให้กับสังคม
“หัวใจของหลักสูตรนี้คือ การได้ลงมือทำจริง เป็นการเรียนดิจิทัลภาคสนาม ที่จะทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากตัวจริงของวงการต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วพร้อมมาแชร์ประสบการณ์ให้ ไม่ว่าจะเป็น ผู้เชี่ยวชาญจากวงการการตลาด อีคอมเมิร์ซวงการออกแบบและสร้างเว็บไซต์ ไปจนกระทั่งวงการแฟชั่นที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคนิคการนำเสนอสินค้าผ่านภาพนิ่ง รวมถึงการดูงานที่บริษัทเฟซบุ๊ก และบริษัทกูเกิ้ล ณ ประเทศสิงคโปร์ เรียนรู้นวัตกรรมใหม่ระดับโลก ที่จะช่วยให้การทำธุรกิจและการใช้แพลทฟอร์มดิจิทัลในการทำการตลาด มีประสิทธิภาพสูงสุด”
บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ กล่าวว่า หลักสูตรดังกล่าวยังมุ่งเน้นการฝึกทักษะและการเรียนรู้การใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการทำการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคได้กว้าง เร็ว และตรงที่สุดด้วย ซึ่งพลังของดิจิทัล แพลทฟอร์ม จะส่งผลกับการสื่อสารและการสร้าง engagement ที่มีคุณค่าไม่น้อยไปกว่าการสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ รวมถึงใช้สร้างแบรนด์ หรือปกป้องแบรนด์
“เราเรียกสิ่งที่ผู้เรียนจะได้ว่า 4D นั่นคือ รู้ดี คือ เนื้อหาดี ความรู้ดี ประสบการณ์จริงจากวิทยากร รวมทั้งเพื่อนร่วมหลักสูตร,โอกาสดี ได้เรียนรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ รวมถึงได้ไปดูงานเฟซบุ๊คและกูเกิ้ล มีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำแนะนำและดูแล, สังคมดี ได้ใช้ความรู้ความสามารถช่วยเหลือและสร้างรายได้ให้กับชุมชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศต่อไป ผ่านการทดลองทำกรณีศึกษาจริง เพื่อช่วยทำการตลาดและขายสินค้าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดแรกที่เราเลือกสำหรับรุ่น1 พร้อมเปลี่ยนเป็นจังหวัดอื่นๆในรุ่นถัดไป และ มันส์ดี เนื้อหาสร้างสรรค์ สนุก จดจำได้ง่าย ความพิเศษของหลักสูตร DEF คือ นอกจากจะได้รับความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับการตลาดและดิจิทัลแล้ว ยังจะได้ความสนุกสนาน และความภูมิใจกลับไปอีกด้วย”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. รวิภา กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากเน้นย้ำคือ หลักสูตร DEF ไม่ได้สอนแค่เนื้อหา การทำธุรกิจให้ร่ำรวย แต่ยังชวนให้ผู้เรียนมองในมุมที่กว้างขึ้นว่าความรู้ความสามารถที่ได้รับสามารถช่วยหรือเป็นประโยชน์กับชีวิตคน ชุมชน สังคม และประเทศได้ ตลอดจนยังเสริมสร้างให้เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก้าวไปสู่การเป็น Smart Enterprises และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง
สำหรับหลักสูตร DEF จะเริ่มเปิดคลาสตั้งแต่ 2 มีนาคม 2560 ถึง 8 มิถุนายน 2560 อบรมทุกวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.30 น. ณ อาคาร 40 ปี อาคาร 11 ชั้น โดยมีค่าธรรมเนียมการเข้าร่วมหลักสูตร 150,000 บาทตลอดโครงการ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม หรือที่เว็บไซต์ www.defbyspu.com เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 – 31 มกราคม 2560
