จะเป็นอย่างไร เมื่อ CPN พลิกโฉม ‘ศูนย์การค้า’ ให้เป็น ‘ศูนย์กลางการใช้ชีวิต’

  • 6.8K
  •  
  •  
  •  
  •  

การประกาศวิสัยทัศน์ 5 ปีต่อจากนี้ของ CPN  หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) ที่จะเปลี่ยนการพัฒนา ‘ศูนย์การค้า’ สู่ ‘ศูนย์กลางการใช้ชีวิต’ (Center of Life) ไม่เพียงสร้างความฮือฮาให้กับแวดวงธุรกิจรีเทลเท่านั้น สำหรับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ  แล้วก็ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยว่า จะมีอะไรใหม่ ๆ มาเซอร์ไพร์สบ้าง

 1

จุดเปลี่ยนครั้งนี้ ปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPN อธิบายว่า เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของลูกค้าที่ไม่ได้มาศูนย์การค้าเพียงเพื่อช้อปปิ้ง  รับประทานอาหาร ดูหนัง หรือฟังเพลงอีกต่อไป แต่ต้องการแสวงหาและแบ่งปันประสบการณ์ใหม่ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

2

ดังนั้นศูนย์การค้าต้องเข้าใจและเข้าถึงความเปลี่ยนแปลงของคนแต่ละกลุ่มให้มากขึ้น ซึ่งสำหรับ CPN คือ การเปลี่ยนจากการสร้างศูนย์การค้าที่เป็น One-stop Service และ Lifestyle Destination ยกระดับไปอีกขั้น เป็น Center of Life ศูนย์กลางของการใช้ชีวิต เป็นคอมมูนิตี้ ที่ผู้คนสามารถมาพบปะ แชร์ประสบการณ์ และโมเม้นดีๆร่วมกัน ถือเป็นการพลิกเทรนด์ใหม่ให้ธุรกิจศูนย์การค้า ทำให้ลูกค้าสามารถมาใช้เวลาในศูนย์การค้าได้นานขึ้น และทำกิจกรรมต่างๆได้มากขึ้น โดยการจะสร้าง Center Of Life ที่แท้จริงได้นั้น มีจิ๊กซอว์สำคัญคือ “พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ” ที่จะมาช่วยกันสร้างและเติมเต็มการเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้แนวคิด “Co-Create Center of Life” ที่จะดำเนินการผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก

3

1. Co-Creating Destination Concepts ทำให้ศูนย์การค้าเป็นเดสติเนชั่นของการใช้ชีวิตสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยตอนนี้ถูกนำร่องด้วย 5 เดสติเนชั่น ได้แก่ Family Destination การเป็นที่ที่คนในทุกเจนเนอเรชั่นของครอบครัวมาใช้ชีวิต ทำกิจกรรมร่วมกัน, Food Destination การรวบรวมเกี่ยวกับเรื่องอาหารทั้งหมดไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์รวมร้านอาหารที่หลากหลายทั้งแบบDine-in, Take home, ซุเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึง Cooking Studio เปิดคอร์สสอนการทำอาหาร ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องอาหารได้ครบทุกมิติ

4

Fashion Destination ที่นอกจากมีแบรนด์แฟชั่นต่างๆ แล้ว ยังมีการสร้างกิจกรรม และบรรยากาศ ด้วยการนำเสนอเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าด้วย, Sport Destination ศูนย์รวมด้านกีฬา การออกกำลังกาย และสินค้า บริการ สำหรับคนรักษาสุขภาพ และ Co-Working Space พื้นที่สำหรับความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันไอเดีย ทำงาน ประชุม ติวหนังสือ และทำกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ร่วมกัน

ซึ่งต่อไปในอนาคต ทาง CPN จะพัฒนาเดสติเนชั่นคอนเซ็ปต์นี้ออกมาถึง 20 เดสติเนชั่น แต่ตอนนี้เลือกออกมา 5 เดสติเนชั่นที่มาแรงในยุคนี้ ส่วนที่เหลือจะถูกนำไปใช้ตามศูนย์การค้าต่าง ๆ ของ CPN ตามความเหมาะสมของลูกค้าแต่ละกลุ่มในแต่ละพื้นที่

2. Co-Creating Digital Platform แน่นอนเมื่อต้องการเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ก็ต้องมีเรื่องดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เริ่มต้นจากการทำ Real Personalize Offer การนำเสนอสินค้า, โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษตามความชอบของแต่ละคน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุด และตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งข้อได้เปรียบของ CPN ก็คือ การมีฐานลูกค้าจาก The 1 card ที่ปัจจุบันมีกว่า 12 ล้านคน และอนาคตจะมีการทำแอพพลิเคชั่นของ The 1 card ที่จะอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถใช้ได้ภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ การเชื่อมโยง Online Experience กับ Physical Store ให้ลูกค้าเข้าถึงบริการของศูนย์การค้าได้อย่างง่าย สะดวกสบายและรวดเร็ว อาทิ การจองที่จอดรถล่วงหน้า, จองคิวร้านอาหาร หรือมาใช้บริการ Food Park โดยไม่ต้องพกเงินสดมา ซึ่งในอนาคตจะร่วมมือกับ Central JD สร้าง Integrated Market Platform เปิดโอกาสให้ร้านค้าในศูนย์ฯ เชื่อมโยงกับการค้าขายออนไลน์ รวมถึงผู้ค้าออนไลน์สามารถมาเปิดร้านค้าในศูนย์ฯได้ เพื่อให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย Connect กันได้แบบไร้รอยต่อ สร้าง Omni Channel เพื่อให้นำเสนอบริการที่ดียิ่งขึ้น มีความหลากหลายของสินค้ามากขึ้น สะดวกรวดเร็ว และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

3. Co-Creating Partnership การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ในการให้ศูนย์การค้าของ CPN เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเช่น การร่วมทุนกับ I-Berhad เปิดศูนย์การค้าแห่งแรกในต่างประเทศ เซ็นทรัลไอ-ซิติ้ ในมาเลเซีย, การร่วมทุนกับดุสิตธานี เนรมิตบิ๊กโปรเจ็ค Mixed-use ใจกลางแยกสีลม หรือความร่วมมือกับ อิเกีย สำหรับสาขาบางใหญ่ ซึ่งเป็น อิเกีย สโตร์แห่งแรกที่มีทางเข้าออกทุกชั้น และมีการเชื่อมต่อกับศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต เชื่อมโยงการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า

รวมไปถึงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ร้านค้าผู้เช่า ในการสร้าง Business Initiative มากมาย อาทิ ความร่วมมือกับ คาเฟ่ อเมซอน ในคอนเซ็ปต์ Co-Working Space, พื้นที่ Think Space B2S กระทั่งความร่วมมือกับแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง สตาร์บัคส์ มาเปิดสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้น

โดยซีพีเอ็น จะเนรมิต Center of Life ให้เราได้สัมผัสใน ศูนย์การค้าที่เป็นไฮไลท์  5 แห่ง ที่จะได้เห็นกันภายในปี 2562 ได้แก่

5

เซ็นทรัลเวิลด์’ ที่มาพร้อมโฉมใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Central to your wOrld’ ซึ่ง ที่นี่จะกลายเป็นต้นแบบของเดสติเนชั่นแห่งการใช้ชีวิตของทุกโลก ไม่ว่าคุณมาจากมุมไหนของโลก มีไลฟ์สไตล์แบบใด ที่นี้ก็ตอบโจทย์ได้ครบ ประกอบด้วย

  • World of Luxe โลกแห่งแฟชั่นและอินเตอร์แบรนด์ระดับโลก
  • World of high street โลกแห่ง Stylish และ Fast-fashion brand ชั้นนำทั้งแบรนด์ไทยและอินเตอร์ รวมถึงแบรนด์แฟชั่นใหม่ๆ ก็มาเปิดที่นี่เป็นที่แรก
  • World of Sport Culture การเป็น Sport Destination ที่รวบรวมสินค้าและบริการเกี่ยวกับกีฬาทุกประเภทมาไว้ในที่เดียว ที่เผยโฉมไปแล้ว เช่น Adidas Brand Center ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, Atmos ร้านร้องเท้ามัลติแบรนด์ชื่อดังจากญี่ปุ่น ซึ่งมาเปิดที่นี่เป็นที่แรก และที่กำลังจะตามมาคือ Fitness First F Zone ครั้งแรกกับคอนเซ็ปต์ใหม่ที่นี่ที่เดียว ฯลฯ
  • World of Inno-Experience การตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ด้วยโลก Digital Technology, IT และ Financial Center
  • World of Co-Living Culture โลกแห่ง Inspiration กับ Creative zone ที่มีทั้งสินค้าครีเอทีฟดีไซน์, DIY, Co-working Space / Lifestyle Café / Book Wall และกิจกรรม WorkShop ที่จะมาจุดประกายไอเดียใหม่ๆ ให้กับทุกคน
  • World of One’s People โลกสำหรับทุกคนในครอบครัว หรือ Family Destination ที่ครบครัน ทั้ง Education, Entertainment, Fashion และ Family Service ต่างๆ
  • World of Ultimate Dinning ศูนย์รวมของร้านอาหารนานาชาติหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ Quick Meal ไปจนถึง Lifestyle Restaurant รวมกว่า 300 ร้านค้า บนพื้นที่กว่า 50,000 ตร.ม. ถือเป็นFood Destination ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ว่าได้

โดยเซ็นทรัลเวิลด์โฉมใหม่นี้ พร้อมเปิดตัวอย่างสมบูรณ์ในเดือน พ.ย.นี้

‘เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต’ ศูนย์การค้าที่สมบูรณ์ที่สุดของภาคใต้ และจะเป็น Lifestyle Hub แห่งใหม่ เดสติเนชั่นระดับโลก ที่นอกจากความครบครันทั้งร้านค้า ร้านอาหาร แบรนด์แฟชั่น และอื่น ๆ ที่ตอบทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่แล้ว อีกจุดเด่น คือ ‘ไตรภูมิ’ ธีมปาร์ค ครั้งแรกของโลกกับการผจญภัยแบบเอ้าท์ดอร์ผสานกับเทคนิคทันสมัยและตำนานสุดคลาสสิคแบบพลาดไม่ได้ และ ‘AQUARIA’ อคาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

6

‘เซ็นทรัล วิลเลจ’ ในคอนเซ็ปต์ ‘Luxury Outlet’ ฟอร์แมทใหม่ล่าสุด ของ CPN ตอกย้ำการยกระดับสู่ Global Player ของเอเชีย และเป็น Luxury Outlet แห่งแรกในไทยที่มีแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆ รวม 235 ร้านค้า ในราคาพิเศษที่ลดราคา 30-75% ตลอดปี แบบไม่ต้องรอช่วง Sale โดยโลเคชั่นสุดสะดวกตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และคาดว่า จะเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ปี 2562

‘เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้’ ศูนย์การค้าในต่างประเทศแห่งแรกของ CPN ที่ต้องการสร้างให้เป็น Lifestyle Hub แห่งใหม่ในมาเลเซีย ตั้งอยู่ในโครงการ i-City Ultrapolis ทำเลศักยภาพแห่งใหม่ที่ดีที่สุดของชาห์อลัม เมืองหลวงของรัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย

‘เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา’ ไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นแห่งใหม่ของอยุธยา ในคอนเซปต์ ‘Living a fulfilled life for all’ ที่ผสมผสานเอกลักษณ์กลิ่นอายของเมืองมรดกโลกเข้ากับความร่วมสมัย อาทิ พื้นที่พักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยว, ร้านอาหารไทย, คาเฟ่ขนมหวาน, บริการนวดและสปาไทย รวมถึงโซนขายของที่ระลึก ในบรรยากาศร่วมสมัยที่ยังคงกลิ่นอายของเมืองอยุธยาไว้ เพื่อให้เซ็นทรัลพลาซา อยุธยากลายเป็น แลนด์มาร์คแห่งใหม่ เดสติเนชั่นของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ

7

นี่เป็นก้าวใหม่ของ CPN ที่จะบุกเบิก Center of Life ศูนย์กลางการใช้ชีวิตสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัยได้อย่างแท้จริง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าในแบบที่ออนไลน์ทำไม่ได้ เพื่อสู้กับยุคดิจิทัล และตอกย้ำการเป็น Global Player ของเอเชีย ซึ่งในอนาคตน่าจะมีอะไรใหม่ ๆ ออกมาให้เราตื่นเต้นอีกแน่นอนต้องรอติดตาม


  • 6.8K
  •  
  •  
  •  
  •