ผ่ากลยุทธ์ CP AXTRA สู่การสร้างความแข็งแกร่งด้านอาหารควบคู่การเติบโตให้ธุรกิจ

 

“อาหาร” เรื่องที่คนในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญ โดยเฉพาะช่วงหลังสถานการณ์โควิคเป็นต้นมา เทรนด์การทำอาหารที่บ้านได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ผู้คนต่างสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพมาใช้ปรุงเมนูต่าง ๆ ตามต้องการ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็ว จึงนิยมหันมาช้อปปิ้งออนไลน์และใช้บริการเดลิเวอรี่กันมากขึ้น ส่วนในธุรกิจร้านอาหาร นอกจากการสั่งซื้อของแบบออนไลน์แล้ว การเลือกซื้อวัตถุดิบที่พร้อมปรุงมาก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เพราะสามารถลดเวลาในการขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ ช่วยให้ผู้ประกอบการสะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับ CP AXTRA นอกจากตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคในด้านของความสะดวกสบายแล้ว สิ่งที่ CP AXTRA ให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่องของคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของอาหารตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้บริโภค เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพสินค้าที่จำหน่ายอยู่ในทุกสาขาของแม็คโครและโลตัส รวมไปถึงความหลากหลายของสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะในหมวดหมู่ของอาหารและอาหารสดที่มีให้เลือกหลากหลายเป็นหลักหมื่นรายการ เหมาะกับไลฟ์คนในยุคปัจจุบันที่ต้องการความรวดเร็วได้อย่างลงตัว 

 

 

ปรับเปลี่ยนพร้อมรับความท้าทายของตลาด

เมื่อมองดูภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกต้องบอกว่ามีความท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เน้นความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบออนไลน์ ส่งผลให้หลายธุรกิจเปลี่ยนจากร้านค้าที่มีหน้าร้านแบบดั้งเดิมไปสู่การเป็นร้านค้าช้อปปิ้งออนไลน์หรือขายบนแพลตฟอร์มเพิ่มมากขึ้น รวมถึงความเพิ่มความรวดเร็วในการการจัดส่งสินค้าให้ตอบโจทย์และตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด

CP AXTRA ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีก มีการปรับตัวให้เข้ากับผู้บริโภคมากขึ้น ด้วยการเดินหน้าพัฒนา Omni-channel เชื่อมต่อทั้งช่องทาง Physical Store และช่องทางการขายผ่านออนไลน์เข้าด้วยกัน ผ่านแอปฯ Makro PRO & Lotus’s SMART App และการขายผ่านแพลตฟอร์มพันธมิตร เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคและร้านค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกรับสินค้าเองหรือจัดส่งถึงบ้านด้วย

นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีพฤติกรรมการรับประทานที่ต้องการความรวดเร็ว เพราะเวลาเป็นสิ่งมีค่ามากขึ้น จึงทำให้มองหาอาหารพร้อมปรุง-พร้อมทาน รวมไปถึงผู้ประกอบการก็มองหาวัตถุดิบที่พร้อมใช้งาน โดยไม่ต้องเสียเวลาในขั้นตอนการเตรียมอาหาร สอดรับกับแนวทางของ CP AXTRA ที่เน้นความหลากหลายของกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มอาหารพร้อมปรุง พร้อมทาน ที่ช่วยลดระยะเวลาการทำอาหาร รวมไปถึงการนำเสนอวัตถุดิบคุณภาพทั้งในและต่างประเทศที่พร้อมให้ผู้ประกอบการสามารถนำวัตถุดิบไปประกอบอาหารได้ทันที

และอีกสิ่งที่ผู้บริโภคปัจจุบันหันมาสนใจกันมากขึ้นก็คือ อาหารสุขภาพต่าง ๆ ที่จัดจำหน่ายอยู่ที่แม็คโครและโลตัส ให้ผู้บริโภคสามารถได้เลือกสรรและเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพในราคาที่คุ้มค่า

 

เปิด 3 กลยุทธ์บุกตลาดค้าปลีก

นั่นทำให้ CP AXTRA เดินหน้าธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ผ่านกลยุทธ์สำคัญในการทำธุรกิจไว้ 3 ด้านด้วยกัน ประกอบไปด้วย

 

 

• การสร้างความแข็งแกร่งด้านอาหารสดและอาหารแปรรูป พร้อมปรุง พร้อมทาน รวมทั้งสร้างความแตกต่างและเพิ่มกำไรด้วยการขยายสัดส่วนยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private Label)
• การเติบโตผ่านทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะการเพิ่มยอดขาย Omni Channel ที่เน้นความหลากหลายของสินค้า การพัฒนาบริการ และการขยายพื้นที่ให้บริการ รวมถึงการใช้จุดแข็งของแม็คโคร-โลตัส ที่มีสาขาประมาณ 2,600 สาขาทั่วประเทศ เป็นจุดกระจายและส่งสินค้า ตอบสนองความต้องการช้อปปิ้งที่รวดเร็ว
• การเดินหน้าขยายสาขาใหม่และปรับโฉมสาขาเดิม ในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง ควบคู่พัฒนาศูนย์การค้าให้เป็น Smart Community Center ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าทุกกลุ่มในแต่ละพื้นที่

จากกลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้ไตรมาส 3 ปี 2567 CP AXTRA สามารถทำกำไรสุทธิหลังการปรับปรุงรายการอยู่ที่ 2,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.3% และมีรายได้รวม 124,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่เติบโตขึ้นทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารสด การขายนอกร้าน พร้อมการส่งสินค้าถึงลูกค้าที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วน 19% ของยอดขายรวม

ส่งผลให้ใน 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้รวม 378,416 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.7% คิดเป็นกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,609 ล้านบาท เติบโตขึ้น 23.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

 

เดินหน้าสร้างความแข็งแแกร่งด้านอาหาร

หากลงลึกใน กลยุทธ์การสร้างความแข็งแกร่งด้านอาหารสดและอาหารแปรรูป ต้องยอมรับว่า CP AXTRA มีจุดแข็งในการเป็นธุรกิจจำหน่ายอาหารที่มีความหลากหลาย ทั้งอาหารสด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ อาหารแปรรูป รวมไปถึงวัตถุดิบมากมายผ่านทั้ง Makro และ Lotus’s ผ่านการรับซื้อจากเกษตรกรไทย และต่างประเทศโดยเน้นที่คุณภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก

 

 

เพื่อให้สะท้อนภาพความหลากหลายของอาหารอย่างแท้จริง CP AXTRA จึงไม่ได้จำหน่ายเพียงอาหารสดเท่านั้น แต่ยังมีผลิตภัณฑ์ทั้งอาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทานและเบเกอรี่ เพื่อให้ผู้บริโภคและร้านค้าได้เลือกสรรรูปแบบอาหารตามความต้องการ เรียกได้ว่าหากนึกถึงอาหารก็ต้องนึกถึง CP AXTRA ซึ่งจุดที่แตกต่างคือมีสินค้าอุปโภคบริโภคให้เลือกครบมากที่สุด

นั่นทำให้ CP AXTRA ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้าน Fresh & Food Destination หรือจุดหมายปลายทางของอาหารและอาหารสด สามารถตอบสนองความต้องการอาหารและวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ราคาคุ้มค่า ทั้งกับผู้บริโภคและผู้ประกอบการกลุ่ม HORECA

ยิ่งไปกว่านั้น ยังสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพของอาหารด้วย House Brand ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ ที่สามารถตอบสนองความคุ้มค่าแล้ว ยังมีกลุ่มสินค้าที่เป็นวัตถุดิบระดับพรีเมียม เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกสรรตามการใช้งาน ดังนั้นถ้าพูดถึงในแง่ของสินค้า House Brand แล้ว CP AXTRA ถือว่าทำได้โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด

 

สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งด้วยเทคโนโลยี

นอกจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบายก็มีส่วนอย่างมากในการพัฒนาธุรกิจ โดย CP AXTRA เน้นการพัฒนาช่องทางออนไลน์และเดลิเวอรี่สินค้าถึงมือลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าเลือกซื้อได้สะดวกผ่านทาง Makro PRO & Lotus’s SMART App และสามารถเลือกรับสินค้าที่หน้าร้าน หรือจัดส่งถึงบ้าน

 

 

ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่สนันสนุนธุรกิจของ CP AXTRA ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดขายและกำไรในไตรมาส 3/2567 นี้ และตลอด 9 เดือน โดยเฉพาะกลยุทธ์ด้านอาหารและอาหารสด ที่เป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็นว่ากลยุทธ์ที่ CP AXTRA ดำเนินการมาตลอด สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุดและชัดเจน แน่นอนว่า CP AXTRA จะยังคงพัฒนาความหลากหลายของสินค้าอาหารสดอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าทุกกลุ่มที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าทั้งที่หน้าสาขาและออนไลน์