ความกตัญญู คุณธรรมที่ถูกปลูกฝังจากรุ่นสู่รุ่น และอยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน แต่ใครจะรู้บ้างว่า แค่เปลี่ยนบริบทจาก “ผู้รับ” เป็น “ผู้ให้” ผลที่ได้อาจจะทวีคุณค่าและทรงพลังมากมาย
คุณธรรมข้อนี้ที่เปลี่ยนจาก ‘ผู้รับ’ เป็น ‘ผู้ให้’ มีคุณค่าและทรงพลังมากมายแค่ไหน?
เราขอชวนคุณมาค้นหาคำตอบจากภาพยนตร์เรื่อง “กตัญญู… เท่าชีวิต” ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความรักระหว่างลูกกับพ่อที่ต่างห่วงใยซึ่งกันและกัน โดยลูกยอมทำทุกวิถีทาง เพื่อตอบแทนความรักจากพ่อ คนสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอที่ป่วยหนัก เธอทิ้งโอกาสในการเรียนมาดูแลพ่อ ตระเวนหางานทำแบบไม่เกี่ยงว่าจะต้องทำอะไร ขอเพียงมีรายได้มาดูแลและรักษาพ่อของเธอให้ดีที่สุด
ด้วยร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวย หางานที่ไหนก็ได้รับการปฏิเสธ แต่เธอเองก็ไม่ย่อท้อ กระทั่งได้เห็นใบประกาศการแข่งขันวิ่งมาราธอน สำหรับเธอเงินรางวัลถ้าชนะการแข่งขัน จะหมายถึงมีข้าวเพื่อประทังชีวิตพ่อ มียาที่จะใช้รักษาพ่อ เธอจึงตัดสินใจลงแข่งด้วยขาเพียงข้างเดียว แม้โอกาสของชัยชนะจะริบหรี่เพียงใดก็ตาม
ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของผู้เข้าร่วมแข่งขัน เมื่อเห็นสภาพทางร่างกายของเธอ แต่นั่น ไม่ได้ทำให้เธอลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เธอวิ่ง วิ่ง วิ่ง ด้วยความมุ่งมั่น และไม่หยุดพัก เป้าหมายคือเงินรางวัล ถ้าชนะการแข่งขัน
ทว่าด้วยความเหน็ดเหนื่อยบวกกับความไม่พร้อมของร่างกาย เธอล้มฟุบลงกับพื้น หรือว่า โอกาสของเธอหมดลงต่อนี้ เพราะหมดแรงที่จะวิ่งต่อไป
บอกเลยคุณคิดผิด!!!
ภาพในหัวของเธอแจ่มชัด กับข้อความที่พ่อได้เขียนไว้บนไม้เท้าคู่กายของเธอว่า ‘ถ้าเป็นได้ พ่อขอเป็นแทน’ นี่คือสายใยแห่งความรักที่ปลุกพลังในตัวเธอให้ลุกขึ้นวิ่งต่อ จะล้มกี่ครั้งก็ตาม ก็ต้องไปถึงเส้นชัยให้ได้
ช็อตนี้ถือเป็นช็อตเด็ดที่เรียกน้ำตาและกระตุกใจคนดู ให้เห็นถึงความรักที่ยิ่งใหญ่แบบไม่มีเงื่อนไขของผู้เป็นพ่อ ผู้ยอมเสียสละแลกได้ทุกอย่าง… ให้ลูกมีความสุข เป็นรักแรกรักแท้ที่เธอได้รับรู้จากพ่อ เธอรู้แค่ว่า จะต้องชนะ เพื่อเงินรางวัล แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม สิ่งที่เธอทำจะเรียกเป็นการตอบแทน หรือกตัญญู หรืออะไรก็ได้ที่คุณอยากจะนิยาม แต่มันเป็นความอัศจรรย์ของชีวิต ที่สร้างพลังแห่งความรักได้อย่างไม่น่าเชื่อ
หัวใจของเธอชนะผู้เข้าร่วมแข่งขัน ทุกคนรอคอยให้เธอเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก เพื่อคว้ารางวัลแห่งความพยายามที่เกิดจากความกตัญญู เธอยังได้รับความช่วยเหลือที่ไม่คาดคิดจากคุณหมอที่มาร่วมวิ่งมาราธอน รวมถึงเงินบริจาคจากชาวบ้าน เพื่อนำไปรักษาพ่อให้กลับมาหายดีอีกครั้ง
สิ่งเหล่านี้ เปรียบเสมือนพลัง และเป็นสิ่งอัศจรรย์ของชีวิตหนึ่ง ที่ย้ำให้เห็นว่า “ความกตัญญูชนะทุกสิ่ง และทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้”
เชื่อมั่น ‘กตัญญู’ สร้างความสำเร็จ
ที่มาของภาพยนตร์ชุดกตัญญู เท่าชีวิต มาจากความเชื่อของ ‘เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ยึดมั่นเรื่องความกตัญญู เป็น ‘เมล็ดพันธุ์’ ที่เครือฯ ตั้งใจปลูกฝังให้เติบโตในจิตใจของพนักงาน และมีเจตนารมณ์ที่จะเป็นแรงบันดาลใจ ให้คนในสังคม เชื่อในคุณค่าความกตัญญู จากสายสัมพันธ์ใน ‘ครอบครัว’’ หน่วยเล็กที่สุดในสังคม แต่ทรงพลัง เป็นรักแรก และรักแท้ที่ให้ความรักความหวังดีแบบไม่มีเงื่อนไข และไม่หวังผลตอบแทน
นอกจากภาพยนตร์ชุด “กตัญญู… เท่าชีวิต” ที่สามารถรับชมได้ทาง facebook: CP for sustainability ภายใต้แฮชเท็ก #เชื่อในคุณค่าความกตัญญู #ความกตัญญูทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เป็นไปได้
สำหรับผู้เขียนแล้ว ความกตัญญู รู้คุณ ไม่ใช่หน้าที่ แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้และลงมือทำได้ทันที เช่น การขอบคุณกับคนที่ให้ความช่วยเหลือ การใส่ใจและดูแลคนรอบข้าง ความรับผิดชอบต่อหน้าที เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ที่จริงแล้ว เราทำกันอยู่แล้ว และเมื่อได้ชมภาพยนตร์ชุดนี้ยอมรับเลยว่า เสียน้ำตาเกือบตลอดเรื่อง (เชื่อว่าหลายคนก็ต้องเป็นแบบนี้เช่นกัน) เพราะนอกจากเรื่องราวจะถ่ายทอดความรักความหวังดีที่มีให้กันระหว่างพ่อและลูกได้อย่างลึกซึ้งแล้ว ยังสร้างแรงบันดาลใจ และทำให้เห็นถึงคุณค่าและพลังอันมากมายของความกตัญญู
ที่สำคัญ ทำให้กลับมาถามตัวเองว่า จะมีความสุขมากแค่ไหนหากได้เห็นผู้อื่นมีความสุข จากการที่เรารู้จักตอบแทนผู้มีพระคุณ ผู้ที่มอบความหวังดีและให้โอกาส เราเคยเป็น “ผู้รับ” ความรัก ความหวังดี และถ้าเปลี่ยนบทบาทมา เป็น ‘ผู้ให้’… ให้ความรัก ความเข้าใจ ความเอาใจใส่ ต่อ ‘พ่อแม่’ และ ‘คนในครอบครัว’ เริ่มต้นจากครอบครัว และขยายสู่เพื่อน เจ้านาย ลูกน้อง มันจะขยายวง (ripple) ออกไปกว้างขึ้น สู่สังคม สู่ประเทศ และเชื่อว่าจะทำให้เกิดสังคมที่เราอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน
