หากธุรกิจยุคนี้อยากทำให้ลูกค้ากลายเป็นขาประจำนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเป็นยุคแห่ง “Age of Choice” ที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมายเต็มไปหมด อีกเรื่องที่น่าห่วงคือต้นทุนเพราะมีรายงานบอกว่าการหาลูกค้าใหม่ ๆ นั้นแพงกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับการรักษาลูกค้าเดิมเอาไว้ ซึ่งหนึ่งในวิธีแก้ Pain point เหล่านี้คือทำสิ่งที่เรียกว่า “Customer Relationship Management” (CRM)
CRM หมายถึง “การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า” ที่จะช่วยสร้างลูกค้าประจำให้มากขึ้น เพิ่มยอดขายและลดต้นทุน การทำ CRM อาจฟังดูยุ่งยาก แต่หายห่วงได้เลยเพราะสมัยนี้มีซอฟต์แวร์ที่สามารถช่วยบริหารทั้งหมดได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ
ซอฟต์แวร์ตัวนี้ไม่ต้องไปมองที่ไหนไกล เพราะประเทศไทยมีบริษัทเทคฯ สตาร์ทอัพชั้นนำอย่าง “Choco CRM” ที่ช่วยบริหารความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ผลลัพธ์คือการเปลี่ยนลูกค้าขาจร กลายเป็น “ลูกค้าขาประจำ” โดยไม่ยุ่งยากวุ่นวาย
กระตุ้นยอดขาย ด้วยการบริหาร CRM ที่มีคุณภาพ
เพื่อฉายภาพให้เห็นว่าการทำ CRM นั้นสำคัญต่อธุรกิจ โดยเฉพาะการใช้ Choco CRM สามารถนำไปต่อยอด เพิ่มยอดขาย และคุมต้นทุนได้อย่างไร จะยกเรื่องราวของสองเคสนี้เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
Case 1: ห้ามกินในร้านช่วง Covid-19 ระบาด แต่ยอดไม่ตก
ในวันที่ร้านอาหารถูกห้ามให้นั่งทานที่ร้าน หลายร้านค้าถึงกับทรุด แต่ทางลูกค้าที่ใช้บริการกับ Choco CRM นั้นถือว่าโชคดีไม่ใช่น้อย เพราะสามารถส่งข้อความ SMS หาลูกค้าทุกคนได้ว่าทางร้านยังเปิดอยู่ สามารถมารับเองที่หน้าร้านหรือสั่งเดลิเวอรี่ได้ ซึ่งเมื่อเทียบกับร้านที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือไม่มีฐานลูกค้าเลย นอกจากจะไม่รู้จักลูกค้าแล้ว ยังไม่สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
Case 2: คาร์แคร์ไม่จำเป็นต้องเจาะแต่ลูกค้าผู้ชาย
เคสนี้เป็นเคสที่น่าสนใจ ซึ่งทาง Choco CRM ได้เผยอินไซต์ว่าเวลานึกถึงร้านคาร์แคร์ อาจคิดว่าต้องคอยทำแต่คอนเทนต์นำเสนอแต่ผู้ชาย ซึ่งจริง ๆ แล้วเมื่อวิเคราะห์จากฐานข้อมูล กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิงอาจมาใช้บริการมากกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าฝั่งผู้หญิง ผ่านการสร้างคอนเทนต์เชื่อมกับกลุ่มนี้ อาจทำให้กลายเป็นลูกค้าประจำมากขึ้น เพื่อต่อยอดโอกาสในการเพิ่มยอดขาย และทั้งหมดนี้จะทำไม่ได้เลยหากไม่มีระบบ CRM มารองรับและช่วยวิเคราะห์
ไฮไลท์ระบบ CRM ของ Choco CRM
อย่าเพิ่งให้คำว่า “ระบบ CRM” ทำให้รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะทาง Choco CRM ได้ออกแบบมาโดยมี End User เป็นศูนย์กลาง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น User Interface (UI) หรือ User Experience (UX) ล้วนใช้งานง่ายสำหรับทุก ๆ ธุรกิจ ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นสุดยอดนักวิเคราะห์ข้อมูลอะไรทั้งนั้น
ด้วยระบบของ Choco CRM สามารถกระตุ้นยอดขายและคุมต้นทุนได้ง่าย ๆ จากระบบสมาชิกสะสมแต้มผ่านเบอร์โทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชัน คูปอง หรือแพ็คเกจที่สร้างเอง ล้วนไม่ใช่เรื่องยาก และที่สำคัญสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดเหมือนคนสนิทด้วย Marketing Tools ที่ทันสมัยผ่าน SMS, Email และ LINE OA เป็นต้น
ฟีเจอร์หลักที่ทาง Choco CRM นำเสนอ ได้แก่ :
– การจัดการพนักงาน
– การจัดสิทธิ์เข้าถึง (Permission)
– การตั้งค่าการให้แต้ม (ยอดการขาย, แบบพิเศษ)
– Welcome Point
– แคมเปญส่งเสริมการขาย (คูปอง, แพ็คเกจ, โปรโมชันส่วนลดพิเศษ)
– การจัดการของรางวัล
– การจัดการระดับสมาชิก (Tier Member)
และแน่นอนว่าลูกค้าชาวไทย ยังคงใช้ไลน์เป็นอันดับ 1 ในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งทาง Choco CRM ก็มีระบบสมาชิกออนไลน์ ผ่าน LINE OA ดังนี้ :
– ระบบสมัครสมาชิก
– บัตรสมาชิกออนไลน์
– ระบบ PDPA
– ข้อมูลหน้าโปรไฟล์
– เช็กประวัติการใช้งาน
– ระบบแลกรับของรางวัลออนไลน์
– การชวนเพื่อน (Friend Referral)
ทั้งหมดนี้มีระบบหลังบ้านคอยเก็บและวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อนำไปจัดทำโปรโมชันหรือแคมเปญให้ตรงใจกลุ่มลูกค้า และที่สำคัญจะมี Customer Support คอยดูแลให้คำปรักษาหลังการขายอีกด้วย ซึ่งแพ็คเกจ เริ่มต้น 2,000 บาทต่อเดือน
ในส่วนของลูกค้าระดับ Enterprise (องค์กร) ก็มีระบบที่ละเอียดมากขึ้นลองรับ :
End-to-End Service
– Customize Project
– API Integrated
– Data Cleansing
– Reward Fulfillment
– Strategy & Consulting
Loyalty Campaign Solution
– Loyalty Program for B2B & B2C
– Activity Campaign
– CRM Gamification
– Point & Privilege Management
– Content Mangement System
ด้วยองค์ประกอบของ Choco CRM ทั้งหมดนี้ ธุรกิจสามารถสานสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อสร้าง Loyalty ที่แนบแน่น ให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าซ้ำ สร้างความพึงพอใจเพื่อป้องกันการแย่งตลาดจากคู่แข่ง โดยมีเป้าหมายคือ “เปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นลูกค้าขาประจำ”
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://chococrm.com/