หลังจาก “เซ็นทรัล รีเทล” (Central Retail Corporation) เข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า “รีนาเชนเต” (Rinascente) ในปี 2011 ห้างสรรพสินค้าที่อยู่กับประเทศอิตาลีมาอย่างยาวนานกว่า 160 ปี ได้ยกระดับจากห้างท้องถิ่น ให้กลายเป็น “Luxury Retail Destination” จิ๊กซอว์สำคัญในการเติมเต็ม Luxury Retail ของเซ็นทรีล รีเทล
มาดูความสำเร็จรีนาเชนเต ภายใต้เครือเซ็นทรัล รีเทล กับการทรานส์ฟอร์มจากห้างเก่าแก่ให้เป็นห้างหรูที่ผสมผสานทั้งคุณค่าทางสถาปัตยกรรม – วัฒนธรรม – เอกลักษณ์ของเมือง เข้ากับความทันสมัย พร้อมกลยุทธ์ก้าวต่อไปสู่การเป็น Media Luxury Retail
ตามดู 5 ความสำเร็จรีนาเชนเต
1. ทรานส์ฟอร์มจาก “Traditional Store” เป็น “Luxury Store” อย่างเต็มรูปแบบทั้ง 9 สาขาใน 8 เมืองสำคัญของอิตาลีที่เป็นศูนย์กลางด้านแฟชั่นและการช้อปปิ้งระดับโลก
ได้แก่ สาขามิลาน, โรม เวีย เดล ตริโตเน, โรม เปียซซาฟิอุเม, ตูริน, ฟลอเรนซ์, คัลยารี, ปาแลร์โม, กาตาเนีย และ มอนซ่า รวมพื้นที่ทั้งสิ้นกว่า 74,000 ตารางเมตร
พร้อมทั้งปรับ Layout ของห้างฯ เพิ่มเติมแบรนด์ให้มีความครบครัน ทั้งแบรนด์หรูและแบรนด์ local มากกว่า 3,600 แบรนด์ และมีจำนวนพนักงานกว่า 5,000 คน
2. จากการพัฒนาและปรับปรุง “รีนาเชนเต” ถึงวันนี้ปักธงเป็น Iconic Landmark และเป็นจุด “Must-visit” ของทั้งคนอิตาลี และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยในปี 2023 มีจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่า 20 ล้านราย
รวมถึงเป็นศูนย์กลางแห่งตลาดลักชัวรีระดับโลก ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าทั้งกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และกลุ่มนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างครบวงจร โดยเฉพาะสาขาแฟลกชิปสโตร์ คือ สาขามิลาน และโรม เวีย เดล ตริโตเน
3. เสริมความแข็งแกร่งในการเข้าสู่ “Luxury Retail Market” ให้กับเซ็นทรัล รีเทล
ด้วยวิสัยทัศน์ของเซ็นทรัล รีเทล ต้องการเข้าสู่ Luxury Retail Market จึงได้มองหาตลาดต่างประเทศ โดยเห็นศักยภาพ และโอกาสของตลาดยุโรปที่เป็นศูนย์กลางแฟชั่นของโลก มีความโดดเด่นในเรื่องของสินค้าลักชัวรี และเป็น Tourist Destination
การได้รีนาเชนเตมาอยู่ในพอร์ตธุรกิจเซ็นทรัล รีเทล ช่วยเติมเต็มให้เป็น Luxury Retail เต็มรูปแบบยิ่งขึ้น ไม่แค่นั้นยังสามารถ synergy ความแข็งแกร่ตลาด Luxury จากยุโรป เชื่อมโยงมายังตลาดไทยด้วยเช่นกัน
4. เปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์เว็บไซต์ Rinascente.it และบริการ Rinascente On Demand Chat & Shop
แม้พฤติกรรมการช้อปของผู้บริโภคอิตาลีในปัจจุบัน นิยมใช้บริการ Physical Store มากกว่า เพราะต้องการดูสินค้าจริง สัมผัส ลอง แต่การสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ และบริการ On Demand Chat & Shop ที่เป็นการแชทสดสั่งซื้อสินค้าโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ของรีนาเชนเต ก็ทำให้ธุรกิจอยู่ในเทรนด์ และตอบโจทย์ลูกค้าด้านการเข้าถึงสินค้า-บริการได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น
5. สร้างยอดขาย New High ทะลุ 1 พันล้านยูโร
ในปี 2023 รีนาเชนเตประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ ด้วยการทำสถิติยอดขาย New High ทะลุ 1 พันล้านยูโร หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท สูงสุดในประวัติศาสตร์ของรีนาเชนเต
ยอดขายมาจากลูกค้า local 59% และนักท่องเที่ยว 41% โดย 5 อันดับแรกมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา, กลุ่มประเทศอาหรับ, จีน, ไต้หวัน และบราซิล ตามลำดับ
ชู 3 กลยุทธ์หลัก ยกระดับรีนาเชนเต สู่การเป็น Media Company
สำหรับ Next step ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเตจากนี้ คุณปิแอร์ลุยจิ ค็อคคินี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ฉายภาพถึงความพร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำการเป็น “Media Company” อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการปรับตัวให้เท่าทันกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในปัจจุบัน และมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งและการบริการที่เหนือระดับ
ด้วย 3 กลยุทธ์หลักที่จะทำให้ห้างรีนาเชนเต เป็นมากกว่า Store ได้แก่
1. การผสานรีนาเชนเตให้เป็นหนึ่งเดียวกับเอกลักษณ์ของเมือง
ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเตแต่ละสาขา จะมีจุดเด่นและสะท้อนจิตวิญญาณของเมืองที่ตั้ง ทั้งในด้านคอนเซปต์การออกแบบอาคาร รูปแบบเสา การตกแต่งภายใน โทนสี รูปทรง วัสดุ ไปจนถึงดีไซน์โลโก้และถุงช้อปปิ้ง ที่แต่ละสาขาจะมีความโดดเด่นไม่ซ้ำกัน พร้อมคัดสรรคอลเลกชันร้านค้าโดดเด่น-แบรนด์เนมชื่อดังประจำเมือง เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้า
2. การเปลี่ยนรีนาเชนเตให้เป็นศูนย์รวมของการใช้ชีวิต เน้น 3 ด้านหลัก คือ
– House of Brand: ครบครันด้วยแบรนด์สินค้าที่ดีที่สุดจากอิตาลีและแบรนด์ระดับโลก ทั้งกลุ่มสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ ความงาม เครื่องใช้ในบ้าน รวมถึงเคาน์เตอร์แบรนด์ลักชูรี่ต่างๆ อาทิ Gucci, Celine, Chanel, Dior, Louis Vuitton และแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย
– House of Entertainment: รีนาเชนเตไม่ได้เป็นเพียงห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่เป็นศูนย์รวมประสบการณ์ที่สดใหม่ ตื่นเต้น และงดงามเหนือจินตนาการสำหรับลูกค้าทุกคน โดยมีการจัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย และ Big Event ที่เป็น Talk of the Town ร่วมกับแบรนด์ระดับโลก โดยในปีนี้ทางรีนาเชนเตเตรียมจัดอีเวนท์พิเศษที่ยิ่งใหญ่ตลอดทั้งปีมากกว่า 400 งาน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลก
– House of Values: มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ลูกค้า ควบคู่ไปกับการเดินหน้าสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยดำเนินธุรกิจบนแนวคิด “Keep it beautiful” ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม รวมถึงให้ความสำคัญกับเรื่องของการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน, ความคิดสร้างสรรค์, อารมณ์ความรู้สึก, ความหลากหลายและเท่าเทียม รวมถึงการค้นคว้าวิจัย เพื่อให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง
3. การยกระดับรีนาเชนเตสู่การเป็น Media Company
ด้วยเอกลักษณ์ที่แข็งแกร่งของห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต และ Business Model ที่แตกต่างจากห้างอื่นๆ ทำให้ห้างรีนาเชนเต เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของแบรนด์ต่างๆ และเป็นเหมือนสื่อสิ่งพิมพ์หรือเวทีที่แบรนด์สามารถมานำเสนอจุดเด่นและบอกเล่าเรื่องราวความเป็นตัวเองได้ในพื้นที่ของห้าง
เห็นได้จากโปรเจ็กต์ Brand Take Over ที่ห้างรีนาเชนเตได้ร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เช่น Chanel Beauty จัดกิจกรรม “Chanel Wonderland” แปลงโฉมห้างรีนาเชนเตสาขามิลาน ให้กลายเป็นงานศิลปะสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่สว่างไสวไปทั่วทั้งใจกลางเมือง ประดับประดาส่วนหน้าของอาคารด้วยไฟโทนสีทอง พร้อมทั้งตกแต่งไฟให้มีลูกเล่นเป็นคำว่า Chanel เพื่อสื่อถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ และทำให้เกิดภาพที่เป็นลวดลายสวยงามและมีชีวิตชีวา สร้างความตื่นเต้นและความประทับใจให้กับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ถือเป็นการขยายฐานลูกค้า ทำให้เกิดการบอกต่อในวงกว้าง และเสริมสร้างชื่อเสียงให้กับห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเตอีกด้วย
การเป็น Media Company หรือ Media Luxury Retail ทำให้ในปี 2023 รีนาเชนเตสามารถทำรายได้ในส่วนนี้ 4 ล้านยูโร และคาดว่าปี 2024 รายได้จากการเป็น Media Company จะเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านยูโร
“การเป็น Media Company ทำให้ทุกแบรนด์มาใช้พื้นที่ของห้างฯ ในการโปรโมทแบรนด์ เปิดตัวสินค้า สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะใช้ Window Display, Take over ทั้งอาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้ามากกว่าการมาซื้อของ อย่างแบรนด์ Chanel ที่แบรนด์จ่ายค่าตกแต่ง และค่าเช่าสถานที่ให้กับรีนาเชนเตเหมือนเช่าป้ายบิลบอร์ด”
เปิดตัว Beauty Hall ใหญ่สุดในมิลาน
ไม่เพียงเท่านี้ Next Big Move ของรีนาเชนเต ยังได้เช่าอาคารโรงภาพยนตร์เก่าแก่ “โอเดโอน” (Odeon) สถานที่สุดพิเศษสำหรับชาวเมืองมิลาน เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและความมีเสน่ห์ สร้างเป็น “รีนาเชนเต โอเดโอน” (Rinascente Odeon) เนรมิต “Beauty Hall” ใหญ่สุดในมิลาน บนพื้นที่มากกว่า 3,000 ตารางเมตร
โดยโครงการนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท Kryalos SGR ในฐานะผู้จัดการกองทุน Aedison Fund และรีนาเชนเต ด้วยมูลค่ามากกว่า 40 ล้านยูโร มีกำหนดเปิดในเดือนพฤษภาคม 2027
รีนาเชนเตจะใช้ความเป็นเจ้าตลาดในด้าน House of Brands อย่างเต็มที่ ในการสร้างศูนย์กลางแห่งประสบการณ์เหนือระดับ (Experiential Hub) ที่จะนำเสนอความงามในทุกรูปแบบ
– แบรนด์ชั้นนำมากกว่า 300 แบรนด์ ทั้งเครื่องสำอาง สกินแคร์ น้ำหอม และบิวตี้บาร์
– บริการห้องทรีตเมนต์
– บริการการแพทย์ด้านความงามชั้นสูง
– การเปิดตัวสินค้าและกิจกรรมสุดพิเศษ
นอกจากด้านความงาม ภายใน Odeon Beauty Hall ยังมีพื้นที่โซนอาหารมากกว่า 700 ตารางเมตร เพื่อมอบประสบการณ์ที่ครบครัน และเชื่อมโยงกับส่วนอาคารหลักได้อย่างสมบูรณ์แบบ สอดคล้องกับจุดยืนในการเป็น Media Company
พร้อมทั้งตั้งเป้ารีนาเชนเต โอเดโอน จะดึงดูดผู้เข้าใช้บริการมากกว่า 3 ล้านคน โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้กว่า 80 ล้านยูโรตั้งแต่ปีแรกที่เปิดดำเนินการ รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับแผนกเครื่องประดับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 200 ล้านยูโร เป็น 370 ล้านยูโรในปีแรกที่เปิดดำเนินการ

“เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถนำเสนอโปรเจกต์ที่ยิ่งใหญ่นี้ในสถานที่อันเป็นที่รักของชาวเมืองมิลาน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของรีนาเชนเตที่ไม่ได้เป็นเพียงห้างสรรพสินค้า แต่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความบันเทิง การออกแบบ ประวัติศาสตร์ แฟชั่น อาหาร และอีกมากมายมารวมกัน เป็น Media Company ที่แท้จริง
ด้วยวิสัยทัศน์ของเราที่ยังคงมุ่งไปสู่อนาคตอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากโปรเจกต์ Rinascente Odeon Beauty Hall ในครั้งนี้ที่มาพร้อมกับการเปิดตัวสิ่งใหม่ๆ รวมไปถึงการปรับปรุงและขยายพื้นที่ชั้นล่างของ Rinascente Milano Duomo เพื่อมอบความพิเศษที่สุดในอิตาลีให้กับทุกคน เราตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้สร้างจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ในการช้อปปิ้งและความบันเทิง ให้กับชาวมิลานและผู้มาเยือนทุกคน” ปิแอร์ลุยจิ ค็อคคินี กล่าวทิ้งท้ายถึงโปรเจคใหม่
