ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทุกคนต้องเผชิญกับไวรัส COVID-19 ซูเปอร์มาร์เก็ต ยังคงเป็นสถานที่สำคัญที่เปิดให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคในการเดินทางมาจับจ่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และต้องเป็นสถานที่ ที่ปลอดภัยสร้างความมั่นใจตลอดเวลาที่ลูกค้ามาใช้บริการ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ฟู้ดสโตร์ชั้นนำของไทย ได้ตระหนักข้อสำคัญนี้เป็นอย่างดี จึงสรรหานวัตกรรมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน ล่าสุดกับนวัตกรรมสุดล้ำ หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี (UV-C DISINFECTION ROBOTS) เมื่อเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตรายแรก ที่นำนวัตกรรมหุ่นยนต์ผู้ช่วยด้านความสะอาดปลอดภัย ซึ่งได้รับการวิจัยและรับรองจากองค์กรอนามัย (WHO) และ ศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดและการติดเชื้อ (CDC) ว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคได้จริง มาเสริมศักยภาพในการทำความสะอาดภายในร้าน และลดการแพร่กระจายของไวรัส COVID-19 โดย หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี พร้อมเจ้าหน้าที่ควบคุม ได้เริ่มปฏิบัติงานฆ่าเชื้อโรคประเดิมสาขาแรกที่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาชิดลม ในเวลาปิดทำการของร้าน และมีแผนการใช้นวัตกรรมหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี ขยายไปยังท็อปส์ มาร์เก็ตและเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาอื่นๆ นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมด้านความปลอดภัยให้กับลูกค้าและพนักงานที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น
สำหรับนวัตกรรมหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี เป็นส่วนหนึ่งของการหาแนวทางเสริมมาตรการด้านความปลอดภัย ป้องกันและลดการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัส แบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายชนิดอื่นๆ การทำงานของหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี จะปล่อยแสง UV-C ความเข้มสูงแบบ 360 องศา ส่งผลให้สามารถยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้สูงถึง 99.9 % ภายในเวลาไม่กี่วินาที และรังสียูวี-ซี เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยไม่มีสารตกค้าง ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของอาหาร และสินค้าภายในร้าน โดยได้รับการรับรองจากสถาบันอาหารประเทศอังกฤษ, องค์การอาหารและยาจากอเมริกา, มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ นับเป็นหุ่นยนต์ที่ใช้ทำงานเพื่อการฆ่าเชื้อที่ดีที่สุด อีกทั้งช่วยลดความผิดพลาดในกระบวนการทำงานของมนุษย์ ซึ่งนิยมใช้มากในวงการแพทย์ในต่างประเทศ สำหรับประเทศไทยมีการใช้งานหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี มากว่า 3 ปี ในโรงพยาบาลชั้นนำ ขณะเดียวกันยังสามารถใช้ได้กับสายการผลิต บริษัท ยา โรงแรม โรงเรียน และสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการการฆ่าเชื้อโรค
ติดตามรับข้อมูลข่าวสาร บริการ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand,หรือ แอปพลิเคชันไลน์: @TopsThailand, @Topsonline