คาสตรอล ฉลองครบรอบ 125 ปี ปรับกลยุทธ์จัดทัพผลิตภัณฑ์รุกตลาด ขยายเครือข่ายศูนย์ให้บริการ พร้อมดึง “หมาก ปริญ” ร่วมโปรโมท

  • 2.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

การไว้ใจผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่ง นอกจากเรื่องของนวัตกรรมและการบอกต่อของผู้ใช้งานจริงแล้ว ยังต้องดูระยะเวลาการทำธุรกิจของผลิตภัณฑ์นั้น ยิ่งอยู่ในตลาดมานานยิ่งบ่งบอกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคเชื่อมั่น เหมือนอย่างที่คาสตรอลมีอายุครบ 125 ปีในตลาดโลกและอยู่มา 51 ปีในตลาดประเทศไทย คาสตรอลทำการปรับแบรนด์โฉมใหม่เพื่อตอบรับกับตลาดและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป พร้อม 3 กลยุทธ์หลัก แถมดึง หมาก ปริญ ร่วมเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

 

 

เจาะข้อมูล Insight คนใช้รถ

คาสตรอล เป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตน้ำมันเครื่องระดับโลกภายใต้เครือ BP ซึ่งชื่อชั้นของ BP เรียกว่าอยู่ในลำดับต้นๆ ของโลก จุดเริ่มต้นของ Castrol เริ่มจากในปี 1899 โดย Charles Cheers Wakefield ที่คิดค้นน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องจักรกลและรถไฟ จนมีการพัฒนาและกิจการถูกเปลี่ยนมือจนกลายเป็น Castrol ในปัจจุบัน ตลอดระยะเวลา 125 ปี Castrol มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิคซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก โดยประชากรมีอยู่กว่า 732 ล้านคน มีรถยนต์อยู่และมีรถจักรยานยนต์รวมกันราว 353 ล้านคัน นั่นทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นมากกว่า 5 พันล้านลิตร ทั้งนี้สัดส่วนคนขับรถที่เป็นผู้หญิงมากถึง 50% และกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุประมาณ 15-24 ปีมีอยู่ราว 16% ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ Castrol วางแผนในการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุม ในปัจจุบัน Castrol มีศูนย์ให้บริการรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 30,000 แห่งทั่วภูมิภาค และสามารถให้บริการผู้บริโภคได้กว่า 25 ล้านรายต่อปี

 

 

เปิด 3 กลยุทธ์หลักรุกตลาด

คาสตรอลเริ่มเข้ามาสู่ประเทศไทยในปี 1972 โดยตลาดประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพเพราะเป็นศูนย์กลางของทางด้านการผลิตการจัดจําหน่าย รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ๆ นั่นจึงทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเฉพาะในประเทศไทยเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นเพิ่มขึ้นสูงมากกว่า 600 ล้านลิตรต่อปี

ในช่วงเวลาที่ครบรอบ 125 ปี คาสตรอล ประเทศไทยมีการเตรียมแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจไว้ใหม่ถึง 3 ด้านด้วยกัน ที่ประกอบไปด้วย

  1. การปรับภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าที่เปลียนแปลงไป
  2. การบุกเบิกนวัตกรรมใหม่ๆสำหรับตลาดที่มีการเติบโตสูง
  3. การพัฒนาเครือข่ายพันธมิตรศูนย์บริการคาสตรอล

โดยทั้ง 3 กลยุทธ์หลักนี้จะถูกส่งเสริมและสนับสนุนด้วยการตลาดดิจิตอล รวมถึงการพัฒนาความเป็นผู้นำสู่ความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆในการเติบโตร่วมกัน

 

 

จัดทัพน้ำมันเครื่องครบทุกประเภท

ปัจจุบัน คาสตรอลมีศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี (Technology center) คลอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และมีศูนย์เทคโนโลยี 4 แห่งที่มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมของเหลวเพื่อระบบไฟฟ้า นี่คือเหตุผลที่คาสตรอลมีความพร้อมที่จะให้บริการในทุกเทคโนโลยีของยานยนต์

หนึ่งจุดเด่นของคาสตรอล คือการมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมกับยานพาหนะทุกประเภท สำหรับผลิตภัณฑ์หลักที่จะเป็นเรือธงหลักในปีนี้ จะเน้นไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์สังเคราะห์แท้ ซึ่งในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจรทั้งในส่วนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่เน้นในด้านประสิทธิภาพการปกป้องเครื่องยนต์และให้อัตราเร่งที่เพิ่มขึ้น โดยผลิตภัณฑ์หลักอย่าง Castrol EDGE  ที่เน้นสมรรถนะของอัตราเร่ง และ Castrol MAGNATEC ที่ให้การปกป้องไม่มีหยุด มีผลิตภัณฑ์ที่รองรับทั้งเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล

นอกจากนี้แนวโน้มของรถยนต์ Hybrid ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาสตรอลได้พัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นที่ให้เหมาะสมสำหรับเครื่องยนต์ Hybrid ภายใต้มาตรฐาน HYSPEC ซึ่งเป็นมาตรฐานล่าสุดของคาสตรอล และสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ามี Castrol ON นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ e-Fluid ที่ 3 ใน 4 ของผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเลือกใช้ และในประเทศไทยได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์สู่ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ในประเทศไทยถึง 3 แห่ง

 

 

เดินหน้าขยายศูนย์บริการ

นอกจากในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว ในด้านกลยุทธ์การขยายเครือข่ายศูนย์บริการ คาสตรอลยังคงให้ความสําคัญอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาอู่ซ่อมอิสระ ปัจจุบันคาสตรอลมีเครือข่ายพันธมิตรศูนย์บริการในประเทศไทยภายใต้ชื่อ Castrol Auto Service สำหรับรถยนต์ และ Castrol Bike Point สำหรับรถจักรยานยนต์ รวมกว่า 5,600 แห่ง ส่งผลให้ Castrol มีเครือข่ายศูนย์บริการอู่ซ่อมอิสระที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

สำหรับเป้าหมายในการขยายเครือข่ายศูนย์บริการอู่ซ่อมอิสระในปีนี้ ทางคาสตรอลวางเป้าหมายในการขยายเครือข่ายพันธมิตรเพิ่มเติมสู่เป้าหมายจำนวน 6,000 แห่ง เพื่อให้ผู้บริโภคในประเทศไทยสามารถเข้าถึงบริการบํารุงดูแลรักษารถที่ง่าย สะดวกใกล้บ้านและการบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของคาสตรอล

นอกจากการขยายศูนย์บริการแล้ว คาสตรอลยังให้ความสําคัญในการปรับภาพลักษณ์ของศูนย์บริการให้มีความทันสมัยเป็นมืออาชีพ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงและกลุ่มที่เป็นคนรุ่นใหม่ (Young Generation) ให้เข้ามาใช้บริการในศูนย์บริการคาสตรอลมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังมีการพัฒนาศูนย์บริการ Castrol Auto Service ต้นแบบ Flagship Workshop อีกด้วย คาดว่าจะเริ่มเห็นการปรับโฉมนี้ในช่วงของไตรมาส 2 ของปีนี้

 

 

เปิดตัว Ambassador และแคมเปญใหญ่

 

เพื่อเป็นการต่อยอดกลยุทธ์ทางการตลาด โดยเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้บริโภคในกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Young Generation) โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Y และ Gen Z รวมถึงกลุ่มผู้หญิงที่รักรถและให้ความสําคัญกับประสบการณ์ขับขี่ คาสตรอล ประเทศไทย จึงได้แต่งตั้ง “หมาก ปริญ” ดาราศิลปินที่มีความรักรถเป็นพิเศษ ร่วมเป็น Brand Ambassador คนล่าสุดในประเทศไทย

เป็นการตอบโจทย์ภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ที่หลงใหลยานยนต์และนวัตกรรม และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในด้านคุณภาพให้กับยานยนต์ โดยจะมีหน้าที่ในการช่วยแนะนําและโปรโมทถึงสมรรถนะของแต่ละผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมของคาสตรอล นอกจากนี้ในวาระครบรอบ 125 ปี ยังมีการเปิดตัวแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ “ฉลอง 125 ปี คาสตรอลแจกโชค” รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 4 ล้านบาท

โดยรายวัลใหญ่จะเป็นรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมอย่าง รถยนต์ BMW 220i GRAN COUPÉ SPORT, รถจักรยานยนต์ Honda PCX 160 eSP+, รถจักรยานยนต์ Yamaha NMAX 155 cc, iPhone 15 เป็นต้น แค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและใช้ผลิตภัณฑ์คาสตรอลสำหรับรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ที่ศูนย์บริการคาสตรอลทั่วประเทศกว่า 5,600 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม โดยจับรางวัลทุกเดือน

 

มองอนาคตผ่านธุรกิจ Castrol

 

แน่นอนว่าการปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ ยังรวมไปถึงการปรับโลโก้ใหม่ที่เน้นดีไซน์ที่ทันสมัยสอดรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พร้อมขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้บริโภคคนรุ่นใหม่มากขึ้น และการดึง “หมาก ปริญ” มาร่วมเป็น Brand Ambassador ยังช่วยให้ผู้บริโภครวมถึงคนรุ่นใหม่รับรู้และเข้าถึงแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น นอกจากนี้ด้วยความหลากหลายของประเภทรถยนต์ในปัจจุบัน ทำให้การบำรุงดูแลรักษารถมีความแตกต่างและต้องการการดูแลเป้นพิเศษมากขึ้น การขยายศูนย์บริการผ่านอู่ซ่อมอิสระ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการขยายช่องทางในการผลักดันสินค้าเข้าถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว โดยมีเจ้าของร้านและช่างมืออาชีพช่วยดูแล ให้ผู้บริโภคมั่นใจทั้งผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูงและการบริการมาตรฐานจากคาสตรอล

 


  • 2.3K
  •  
  •  
  •  
  •