CASIO G-SHOCK แบรนด์นาฬิกานำเข้าโดย Central Marketing Group ภายใต้ Central Retail Corporation พร้อมขยายส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทย เตรียมรุกตลาดนาฬิการะดับพรีเมี่ยมเต็มตัว เอาใจคอนาฬิการุ่นใหม่ที่หันมาลงทุนสินทรัพย์ผ่านนาฬิกาหรูและรุ่นลิมิเต็ดต่างๆ พร้อมเปิดตัวนาฬิกาตัวท๊อปรุ่นใหม่ล่าสุด G-Shock MR-G (Majestic Reality G-Shock) ที่ได้รับคำชมว่าเป็น “สุดยอดเรือนเวลาแห่งจักรพรรดิ์แห่งปี 2022” เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในงาน Robinson The Ultimate Watch Fair 2022 at Fashion Island 22 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 นี้ ที่ศูนย์การค้า แฟชั่น ไอส์แลนด์
คุณนรากร สะสม ผู้อำนวยการแบรนด์ CASIO Mega Brand ได้กล่าวถึงเหตุผลของการรุกตลาดในครั้งนี้ว่า “หากเอ่ยชื่อ CASIO G-SHOCK คงไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน แต่ในประเทศไทยนอกจากนักสะสมนาฬิกา ยังมีผู้บริโภคจำนวนไม่มากนักที่รู้ว่า G-Shock มีนาฬิการะดับพรีเมี่ยมอยู่หลายรุ่นที่บรรดาเซียนนาฬิกาและนักสะสมต้องแข่งกันจับจองเพราะจำนวนที่มีจำกัดในแต่ละปี ประกอบกับช่วงปีที่ผ่านมา พฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจซื้อเพื่อสะสม เพื่อการลงทุนมากขึ้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มเหล่านี้ยังคงมีการใช้จ่ายต่อเนื่อง หากพบกับรุ่นที่โดนใจ ทางแบรนด์จึงเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะรุกตลาดในส่วนนี้ พร้อมให้แบรนด์ CASIO G-SHOCK เข้าไปเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าเมื่อคุณคิดจะลงทุนกับนาฬิการะดับพรีเมี่ยม”
นอกจากนี้ คุณนรากรยังกล่าวถึงสาเหตุหลักที่เหล่าคนรักนาฬิกาหันมาสนใจลงทุนกับ CASIO G-SHOCK ระดับ Premium ไว้ดังนี้
G-SHOCK นาฬิกาที่ทนทานที่สุดตลอดกาล
เรื่องราวอันเกิดจากแรงบันดาลใจของการสูญเสียนาฬิกาที่บิดาให้ไว้ดูต่างหน้า คุณ Kikuo Ibe วิศวกรหนุ่มของ CASIO จึงตั้งใจที่จะสร้าง “นาฬิกาที่ไม่มีวันพัง” และ ในปี 1983 การต่อสู้กับกฎแห่งธรรมชาติก็สิ้นสุด หลังจากความพยายามอย่างไม่ถ้อถอยมากว่าสองปีเต็ม เขาออกแบบนาฬิกาที่สามารถต้านทานแรงเหวี่ยงและการกระแทกเทียบเท่าการตกตึกสามชั้น หรือ 10 เมตร ทนแรงดันน้ำที่ 10 บาร์ และใช้งานได้นาน 10 ปีโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ก้อนใหม่ ตั้งแต่นั้นมา ชื่อ G-SHOCK ได้กลายเป็นคำกล่าวขานถึงการก้าวข้ามขีดจำกัดของนาฬิกาตลอดมา เพราะในสมัยนั้นแม้แต่นาฬิกาเรือนแสนก็ยังยากที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้
คุณค่าเหนือกาลเวลา
หลายคนคงปฎิเสธไม่ได้เลยว่า G-SHOCK ไม่ได้เป็นเพียงนาฬิกาแต่เป็น “นาฬิกาเรือนแรก” ของชีวิต เป็นเครื่องหมายแทนความทรงจำอันทรงคุณค่า ที่ไม่สามารถแปลค่าเป็นเงินได้ ด้วยสาเหตุนี้เอง G-SHOCK จึงได้ต่อยอดและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าตลอดเวลา อีกหนึ่งความพิเศษของ G-SHOCK Premium คือการผลิตชิ้นงานจากช่างฝีมือผู้มากประสบการณ์และโรงงานระดับพรีเมี่ยมในประเทศญี่ปุ่นที่ใส่ใจทุกรายละเอียด คุณจึงมั่นใจได้ว่า G-SHOCK Premium ที่คุณเป็นเจ้าของนั้นคือสุดยอดทั้งในแง่ของงานดีไซน์และเทคโนโลยีชั้นสูง พร้อมยังคงดีเอ็นเอแห่งความแข็งแกร่งที่สุดในวงการนาฬิกาเอาไว้ได้อย่างน่าทึ่ง
สินค้า G-Shock Premium นี้ประกอบด้วย:
G-Shock MR-G (Majestic Reality G-Shock)
“ความยิ่งใหญ่” และ “ความจริง” สองคำนี้คือปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มผลิตภัณฑ์ MR-G ซึ่งนำเสนอด้วยกระบวนการทำมือจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา แสดงออกให้เห็นถึงจิตวิญาณของชาวญี่ปุ่นที่ภาคภูมิใจในงานศิลปะและวัฒนธรรมอันวิจิตรบรรจง MR-G ได้กลายเป็นเรือนเวลาจักรพรรดิ์ของ G-Shock ที่เต็มเปี่ยมด้วยนวัตกรรมชั้นสูงอันได้แก่ ตัวเรือนซึ่งทำจากไททาเนียมคุณภาพสูงสุด น้ำหนักเบา การใช้วิศวกรรมวัสดุแบบพิเศษต่างๆ และเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นนวัตกรรมผนวกกับความเอาใจใส่จากช่างฝีมือชาวญี่ปุ่นที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นหลายสิบปีเพื่อมาเป็นช่างประกอบมือ หรือ Master ให้กับ G-Shock MR-G ทุกเรือน ที่ผลิตจากเมืองยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ MR-G เป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมของ G-Shock ที่นักสะสมทุกคนอยากเป็นเจ้าของ (ราคา 100,000 – 300,000 บาท)
G-Shock MT-G (Metal-Twisted G-Shock)
“โลหะศิลป์” การบิดเกลียวในโลกแห่งโลหะ ก้าวไปอีกขั้นกับการเดินทางที่ล้ำสมัยจากการผสมผสานโลหะศิลป์และเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างป้องกันหลักที่ทำจากสเตนเลสสตีลอันทนทาน และ เรซินเสริมคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา การตกแต่งผิวโลหะระดับพรีเมียม และโมดูลควบคุมด้วยสัญญาณคลื่นวิทยุ พลังงานแสงอาทิตย์พร้อม Bluetooth® เพื่อการแสดงและปรับเวลาอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยำ G-Shock MT-G ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายไว้ในนาฬิกาเพียงเรือนเดียวด้วยดีไซน์ทันสมัย เทคโนโลยีระดับสูง หรูหรา น้ำหนักเบา และแข็งแรงทนทาน ในทุกสภาวะ
(ราคา 40,000-70,000 บาท)
G-Shock Full Metal (The Origin)
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์แบบ “Signature” G-Shock Full Metal คือคำตอบ ด้วยการต่อยอดแรงบันดาลใจจาก G-Shock รุ่นแรก DW5000C รุ่น Original อันเป็นอัตลักษณ์ที่ยังคงความงามในตำนานแห่งโลกนาฬิกา มาพร้อมกับการอัพเกรดด้วยโครงสร้างสเตเลสสตีลแวววาวทั้งเรือน โดดเด่นด้วยตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมไร้กาลเวลา อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและดีเอ็นเออันแข็งแกร่งตามแบบฉบับของ G-Shock
(ราคา 20,000 – 70,000 บาท)
G-Shock MOG (Master of G-Shock)
พัฒนาเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตแบบสมบุกสมบัน ทนต่อทุกสภาวะทั้งทางอากาศ (G-Shock Gravity Master) บนบก (G-Shock Mud Master) และใต้ท้องทะเล (G-Shock Frogman) ผนึกฟังค์ชันก์การใช้งานชั้นสูงสำหรับทุกสภาพแวดดล้อม อาทิเช่น เข็มทิศดิจิทัล มารตวัดแรงดันอากาศ มารตวัดความสูงจากระดับน้ำทะเล เทคโนโลยีการป้องกันฟุ่นโคลน ฟังค์ชันก์การดำน้ำลึก GPS และอื่นๆอีกมากมาย
และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่ม Premium ทาง G-Shock จึงยึดหลักนโยบาย 4 Ps ในการดูแลลูกค้าเพื่อพัฒนาต่อยอด ยกระดับ และ ขยายกลุ่มสินค้า G-Shock Premium ในประเทศไทย
- Premium Products – การนำเสนอสินค้าในกลุ่ม G-Shock Premium อย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มการนำเข้าสินค้ารุ่น Limited Editions ในประเทศไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของลุกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆปี
- Private – การดูแลลูกค้าอย่างเป็นส่วนตัวด้วยบริการ Remote Personal Shopper เพื่อความสะดวกสบายในการเลือกชมสินค้าแบบหนึ่งต่อหนึ่ง สะดวก สะอาด ปลอดภัย และ รวดเร็ว
- Privilege – สิทธิประโยชน์พิเศษ อาทิเช่น การเข้าชมและจองสินค้าในรอบ Exclusive Preview และ Pre-order, สิทธิประโยชน์วันเกิด และ กิจกรรมพิเศษต่างๆ รวมถึงการรับคะแนนเพิ่มเติมจาก T1 และ T1 exclusive
- Peace of mind – การบริการหลังการขายแบบครบวงจรตลอดอายุการใช้งาน ศูนย์บริการลูกค้ามารตฐานจากCMG