เจาะ Case study “คิง เพาเวอร์..เราเชื่อ” ภาพยนตร์โฆษณาที่เลือกส่งต่อแง่คิดดีๆ มากกว่าการขายของ

  • 7.4K
  •  
  •  
  •  
  •  

คนเราทุกคนมักมีความฝันที่หลากหลาย ใหญ่เล็กแตกต่างกัน แต่บ่อยครั้งเรามักไม่ประสบความสำเร็จ

เพราะต้องเจอกับอุปสรรคนานา แต่บ่อยครั้งที่ “อุปสรรค” แท้จริงที่ทำให้เราไปไม่ถึงความฝันนั้นก็คือการที่เราท้อถอยหรือเลือกที่จะหยุดความพยายามด้วยตัวเองต่างหาก

และนี่คือแนวคิดที่ภาพยนตร์ชุดหนึ่งที่กำลังบอกเล่าเรื่องราว ที่สามารถส่งต่อแง่คิดดีๆ และพลังบวกให้กับคนไทย และสังคมไทยทุกคน

คิง เพาเวอร์..เราเชื่อ’ เป็นอีกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ตั้งใจนำเสนอเรื่องราวชวนปลุกพลังและสร้างกำลังใจ ให้คนไทยก้าวข้ามทุกขีดจำกัด เพื่อไปให้ถึงฝัน โดยภาพยนตร์จับอินไซต์เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อมาถ่ายทอดได้โดนใจผู้ชมได้เป็นอย่างดี

แม้การทำโฆษณาส่วนใหญ่จะมีเป้าหมายเพื่อการขายสินค้าและบริการเป็นหลัก แต่ก็มีตัวอย่างของภาพยนตร์โฆษณาไม่น้อยที่ไม่จำเป็นต้องนำเสนอแบบฮาร์ดเซลโต้งๆ แต่กลับสามารถสร้างการจดจำในใจผู้บริโภคและส่งเสริมภาพลักษณ์ในเชิงบวกได้ดีกว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ แท้จริงแล้วธรรมชาติของมนุษย์ไม่ชอบการถูกบังคับยัดเยียดเท่าไหร่นัก

ความโดดเด่นของภาพยนตร์ชุดนี้ที่อยากเอ่ยถึงคือ ผู้ชมแทบจะไม่ได้รับสารใดๆ เกี่ยวกับตัวแบรนด์หรือสินค้าของคิง เพาเวอร์เลยตั้งแต่ต้นจนจบ

เนื่องจากทางแบรนด์ไม่ต้องการสื่อสารมุ่งเน้นการขายของ ขายสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคิง เพาเวอร์เลย หรือเจาะกลุ่มเป้าหมาย ที่เป็นคนเดินทางต่างประเทศ หรือลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอย หากแต่เป็นคนทั่วๆ ไป ใครก็ได้ เพราะต้องการโฟกัสที่เรื่องความเชื่อของคน

ดังนั้น ตลอดระยะเวลา 3.06 นาทีของภาพยนตร์โฆษณาเดินเรื่องด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวคนตัวเล็กๆ แต่หัวใจยิ่งใหญ่ที่เชื่อว่า “ความพยามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ได้อย่างสวยงาม และทรงพลัง

ผู้ชมจะได้สัมผัสกับโมเมนท์ของคนไทยหัวใจเพชรเหล่านี้ กับการก้าวข้ามช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก และทุกขีดจำกัดของตัวเองเพื่อตามล่าความฝันสู่ความสำเร็จ ทั้งหลากหลายวัย และต่างสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น เด็กไทยตัวเล็กๆ ในต่างจังหวัดที่มีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลระดับโลก นักเรียนไทยที่ใรฝันใหญ่อยากจะเป็นนักดนตรีแถวหน้าระดับโลก หรือแม้แต่เรื่องราวของผู้พิการทุพพลภาพที่หวังว่าสักหนึ่งจะเดินได้อีกครั้ง ไปจนถึงความพยายามของคนในชุมชนเล็กๆ มุมหนึ่งของประเทศ ที่หวังจะผลักดันภูมิปัญญาของไทยให้ได้ไปเฉิดฉายในเวที

โดยภาพยนตร์ต้องการสื่อสารว่าในทุกความฝันนั้นสามารถเป็นไปได้ หรือเกิดขึ้นได้จริง ขอเพียงแต่เราทุกคนต้องเริ่มจากการมี “ความเชื่อ” ว่าเราทำได้

ย้อนถึงที่มาของแนวคิด “ความเชื่อ” ดังกล่าว นั้นไม่ใช่ไอเดียที่ทางคิง เพาเวอร์คิดขึ้นมาลอยๆ แต่เกิดจากประสบการณ์จริงที่ทางบริษัทเอง เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างบริษัทคนไทยที่สามารถ “ก้าวข้าม” barrier ต่างๆ จนประสบความสำเร็จทั้งในด้านการเป็นองค์กรธุรกิจแถวหน้าของประเทศ และยังกล้าฝันต่อถึงการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลระดับโลก ซึ่งทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเพราะ “ความเชื่อ”

คิง เพาเวอร์จึงได้นำ Brand Belief ที่ว่า ‘Life Beyond Boundaries’ หรือ ‘ทุกการเดินทางจะทำให้เราไม่อยู่ที่เดิม’ มาต่อยอดเป็นไอเดียสำคัญ เพื่อกระตุ้นการรับรู้ และส่งต่อความเชื่อของแบรนด์ให้เข้าถึงในใจของคนไทยทุกคน

ซึ่งการตีความหมายของ “การเดินทาง” ในที่นี้ ทางบริษัทฯ ไม่ได้หมายถึง การเดินทางท่องเที่ยวเท่านั้น แต่หมายรวมถึงความยิ่งใหญ่กว่า นั่นคือ  การเปิดโลก การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง และพาตัวเองไปสู่จุดหมายปลายทางที่ฝันไว้ดั่งปรัชญาของแบรนด์นั่นเอง

แต่ลำพังมีไอเดียดีเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องได้ผู้กำกับ “มือถึง” มาทำหน้าที่ถ่ายทอดด้วย ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่างานนี้คงไม่มีใครสามารถสะท้อน “ความคิด” ออกมาเป็น “ภาพ” ได้โดนใจเท่ากับผู้กำกับเจ้าของรางวัลคานส์ไลออนส์มากที่สุดในโลกอย่าง ต่อ – ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาชื่อดัง

ซึ่งจะมาถ่ายทอดผลงานภาพยนตร์โฆษณาความยาว 3.06 นาทีชิ้นนี้ ซึ่งทำให้ผู้ชมสามารถอินไปกับสตอรี่ที่สะกิดหัวใจจนหลายคนดูได้จนจบเลยทีเดียว

ในฐานะผู้กำกับโฆษณาเรื่องนี้ ธนญชัยบอกเล่าว่า แนวคิดในการผลิตภาพยนตร์โฆษณา KING POWER ภายใต้ไอเดีย Life Beyond Boundaries ได้ตั้งคำถามถึงความพยายามของมนุษย์ในการก้าวข้ามข้อจำกัด โดยพิจารณาเห็นว่า มนุษย์จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ก็มาจากความเชื่อ

หนังได้เสนอให้เห็นว่าเพราะ “ความเชื่อ” เป็นตัวกำหนดขอบเขตของความสำเร็จ ถ้าเชื่อไกล เชื่อใหญ่ ก็จะไปได้ไกล และยิ่งใหญ่

แต่เชื่ออย่างเดียวก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เชื่อแล้วต้องไม่รอ ต้องลงมือทำ ซี่งตัวแปรอีกตัวหนึ่งที่จะขับเคลื่อนให้ชีวิตไปได้ไกลคือ ทัศนคติในการมองปัญหาว่าไม่เรื่องยาก แต่เป็นโจทย์ เป็นความรู้ เป็นการพัฒนา เป็นการเพิ่มทักษะ ปัญหาคือตัวขัดเกลา ทำให้ความคิดเฉียบแหลมขึ้น  คมขึ้น นำไปสู่หนทางที่แม่นยำขึ้น และพัฒนาไปจนถึงการก้าวข้ามสิ่งที่เป็นไปใม่ได้ให้เป็นไปได้ ทำความฝันให้เป็นจริงได้

ซึ่งจากประสบการณ์คนเล่าเรื่องด้วยภาพ สิ่งเหล่านี้ ยากต่อการอธิบายให้จบภายในเรื่องเดียว ดังนั้น ภาพยนตร์จึงเน้นไปเรื่องของการเชื่อและการลงมือทำเป็นหลัก โดยเชื่อว่า หากคนที่ได้ดูหนังแล้วมีความเชื่ออย่างแรงกล้า และพัฒนาไปสู่การลงมือทำ

ภาพยนตร์โฆษณาชุด คิง เพาเวอร์..เราเชื่อ ได้เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชม โดยเป็นแรงผลักดัน และกระตุ้นให้คนไทย โดยเฉพาะคนที่มีความฝัน ให้เชื่อ และมุ่งหน้า ก้าวข้ามผ่านขีดจำกัด ด้วยการพัฒนาตัวเอง เพื่อเดินตามความฝันต่อไป อย่างไม่หยุดยั้ง

เฉกเช่นที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ในการสนับสนุนสนับสนุนคนไทยด้วยกันให้ไปถึงเส้นทางความฝันที่ต้องการ ด้วยการส่งเสริมความสามารถให้ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด เพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จ ผ่านการสนับสนุนในด้านต่างๆ ของกลุ่มบริษัท ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ประหนึ่ง ‘ลมใต้ปีก’ ที่อยู่เคียงข้างคอยสนับสนุนให้คนๆ หนึ่งประสบความสำเร็จในชีวิตได้

นับเป็นอีกเป็นหนังโฆษณาดีๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่และคนไทยที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่ในขณะนี้ ได้รับพลังบวกพลังดีๆ และปลุกความเชื่อตัวเองให้ก้าวเดินต่อไป

#KingPower #LifeBeyondBoundaries #ทุกการเดินทางจะทำให้เราไม่อยู่ที่เดิม


  • 7.4K
  •  
  •  
  •  
  •