ก่อนอื่นต้องบอกว่า ผู้เขียนลังเลอย่างมากระหว่างเรื่องของ Super Hero กับการจับมือกันของ 2 เกาหลี เพราะทั้ง 2 เรื่องเป็นเรื่องใหญ่มีความสำคัญและส่งผลกระทบต่อทุกคน หากแต่เรื่องของ Super Hero น่าจะเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่ายกว่าและใกล้ชิดกับหลายๆ คน ที่สำคัญจะได้รู้ว่า Super Hero ตัวแรกอย่างเป็นทางการคือใคร?
เมื่อไม่นานนี้เกิดปรากฏการณ์หนึ่งขึ้นในประเทศไทย…ไม่สิ ในโลกสีน้ำเงินใบนี้ กับภาพยนตร์มหากาพย์ที่ถูกสร้างจากหนังสือการ์ตูนโดย Stan Lee ภายใต้แบรนด์ Marvel ซึ่ง Disney ทุ่มงบกว่า 4,000 ล้านเหรียญในการครอบครองลิขสิทธิ์ของ Marvel ยกเว้น X-Men และ Fantastic Four ที่ลิขสิทธิ์ตกอยู่กับค่าย 20th Century Fox ด้วยเหตุผลในอดีต
การเข้ามาของภาพยนตร์จาก Marvel เรื่องล่าสุดอย่าง Avenger: Infinity War ส่งผลให้หลายตลาด เริ่มหันมาใช้กลยุทธ์ Movie Marketing ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของเล่น เป็นต้น ซึ่งจะออกมาเป็นคอลเลคชั่น เรียกว่าเป็นอานิสงส์ความโด่งดังของ Super Hero แต่อะไรที่ทำให้ Super Hero โด่งดังจนเรียกได้ว่า แทบจะหยุดโลกหรือสั่นสะเทือนโลกทั้งใบได้ เพียงแค่ภาพยนตร์ออกฉายเท่านั้น (อันที่จริงโด่งดังมาตั้งแต่ก่อนเข้าโรงภาพยนตร์ด้วยซ้ำ)
กำเนิด Super Hero บนโลก
เทพเจ้าผู้ทรงพลังและใกล้ชิดกับมนุษย์
หากจำกัดความคำว่า “Super Hero” คืออะไร ก็คงต้องตอบว่าคือผู้มีพลังพิเศษมากกว่ามนุษย์ปกติทั่วไปและคอยช่ายเหลือ ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ที่สำคัญต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้หลายคนได้ทำตามแบบอย่าง และหากสืบสาวราวเรื่องจะเห็นว่า Super Hero ถือกำเนิดมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล โดยมาในรูปของเทพเจ้าในทุกอารยธรรมของโลกทั้งอินเดีย กรีก-โรมัน ไม่ว่าจะเป็นพระนารายณ์ (Vishnu) หรือ ซุส (Zeus)
เนื่องจากเทพเจ้าเหล่านี้มีความใกล้ชิดกับมนุษย์ ทั้งการอวตารลงมาเป็นมนุษย์หรือการส่งลูกหลานเข้ามาร่วมชีวิตกับมนุษย์ หากจะยกตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆ ก็คงต้องให้นึกย้อนกลับไปถึงมหากาพย์ ของโลกอย่าง รามเกียรติ์ที่มีพระรามเป็นอวตารของพระนารายณ์ หรืออย่างในมหากาพย์ Odyssey ที่มีเฮอร์คิวลิสเป็นบุตรของซุส แต่เมื่อศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลามเกิดขึ้นและเผยแผ่ไปทั่วโลก ความรู้สึกแบบ Super Hero ของเทพเจ้า ก็เปลี่ยนไปเป็นความเคารพและศรัทธาแทนมากกว่า
จนกระทั่งเข้าสู่ยุคสงครามโลก ครั้งที่ 1 เศรษฐกิจของโลกได้รับความบอบช้ำอย่างรุนแรงจากสงครามในครั้งนี้ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศผู้ชนะสงคราม นั่นจึงทำให้สหรัฐอเมริกาแม้จะเป็นหนึ่งในประเทศผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง จนก่อให้เกิดคดีอาชญากรรมจำนวนมากโดยเฉพาะลัก จี้ ชิง ปล้น จนแม้แต่การทำงานของตำรวจก็ยังไม่มีประสิทธิภาพ นั่นทำให้หลายคนต้องการผู้ที่มาช่วยเหลือให้สังคมสหรัฐฯ ดีขึ้นในฐานะ Super Hero
สงครามก่อให้เกิดวีรบุรุษ
Super Hero ที่จับต้องได้
หากจะพูดถึงซุปเปอร์ฮีโร่คนแรกที่ทั่วโลกรู้จักคงต้องนึกถึง Superman มนุษย์ต่างดาวผู้ผ้าคลุมยางสีแดงและสวมกางเกงในสีแดงไว้ข้างนอก ถึงแม้ Superman จะเป็นตัวแทนประชาชนชาวสหรัฐฯ ด้วยสีของชุด (น้ำเงินและแดง) ที่มาจากธงชาติสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับปัญหาต่างๆ และบรรเทาจิตใจชาวอเมริกันที่ถูกปัญหาต่างๆ รุมเร้าในเวลานั้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ Super Hero คนแรกที่ปรากฏตัวขึ้นบนโลกใบนี้ โดยนักประวัติศาสตร์หลายคนลงมติกันว่า “Mandrake The Magician” คือ Super Hero คนแรกที่ถือกำเนิดขึ้นบนโลกตั้งแต่ปี 1934 เกิดก่อน Superman แห่งค่าย DC comics ถึง 4 ปี ( Superman ออกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1938)
จนกระทั่งในปี 1941 จึงได้เกิด Captain America ตัวการ์ตูน Super Hero ลำดับ 3 ของค่าย Marvel ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเบื่อหน่ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่ง Captain America ถือเป็นสัญลักษณ์ของสหรัฐฯ อย่างชัดเจน ทั้งเสื้อผ้าและโล่ห์ที่ออกแบบลวดลายและสีสันให้เข้ากับธงชาติสหรัฐฯ และยังถือเป็นตัวแทนกองทัพสหรัฐฯ ในการปราบเหล่าร้ายในเรื่อง ที่สำคัญ Captain America แทบจะเป็นคนปกติที่เหาะไม่ได้ ปล่อยแสงไม่ได้ ไม่มีอาวุธใดมีเพียงโล่ห์เท่านั้น กับความฉลาดและพละกำลังที่มากกว่าคนทั่วไป แต่ถ้าเทียบกับ Super Hero ตัวอื่นๆ แล้วก็แทบจะเป็นเพียงคนปกติทั่วไป
จาก Super Hero
สู่ธุรกิจอิงภาพยนตร์
ต้องยอมรับว่า ในอดีต Super Hero จากค่าย DC comics ได้รับความนิยมมากกว่า Super Hero จากค่าย Marvel จนส่งผลให้ค่ายภาพยนตร์ซื้อลิขสิทธิ์ตัวละคร Super Hero มาสร้างเป็นภาพยนตร์ โดยเฉพาะ Superman จนได้รับความนิยมอย่างมากมายจากทั่วโลก ขณะที่ค่าย Marvel ยังคงอยู่ในธุรกิจหนังสือการ์ตูน Super Hero และมีความพยายามในการไปสู่ภาพยนตร์
เพราะความนิยมซุปเปอร์ฮีโร่จากค่าย Marvel น้อยกว่าค่าย DC comics ทำให้ Marvel ต้องใช้วิธีเซ็นสัญญาที่ระบุว่า หากค่ายภาพยนตร์ไม่มีการสร้างภาพยนตร์ตัวละครของ Marvel เป็นเวลา 2 ปีให้ลิขสิทธิ์ตัวละครนั้นกลับมาเป็นของ Marvel ตามเดิม สัญญาดังกล่าวเพื่อเป็นการเปิดทางให้ตัวละคร Super Hero เป็นที่รู้จักและติดตลาด ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าให้กับ Super Hero นั้นๆ นั่นจึงทำให้ Super Hero ของ Marvel ต้องกระจัดกระจายไปตามค่ายภาพยนตร์ โดย Super Hero ของ Marvel ถูกกระจายไปทั้งสิ้น 4 ค่ายภาพยนตร์
โดยผู้ที่ถือครองลิขสิทธิ์ Super Hero จาก Marvel มากที่สุดคือตัว Marvel Studio เอง ซึ่งภายหลัง Walt Disney ได้ซื้อ Marvel Studio ด้วยมูลค่ากว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ค่าย Sony Pictures หรือ Columbia Pictures ในอดีต ได้ลิขสิทธิ์ของ Spiderman มาถือครองไว้ แต่เมื่อภาพยนตร์ Spiderman ทำกำไรได้ไม่ตามเป้า ลิขสิทธิ์ Spiderman จึงถูกส่งกลับมาให้ทาง Marvel
ส่วนตัวละครอย่าง Blade, Ghost Rider และ Punisher ที่อยู่กับค่าย New Line Cinema ก็มีอันต้องส่งคืนให้กับ Marvel เนื่องจาก รายได้จากภาพยนตร์ไม่เป็นไปตามเป้าที่กำหนด สุดท้ายกับหนึ่งค่ายยักษ์ใหญ่ที่ถือครองลิขสิทธิ์ Super Hero ของ Marvel ไว้มากที่สุดอีกค่ายอย่าง 20th Century Fox ที่ถือลิขสิทธิ์ Super Hero อย่าง X-Men Fantastic Four และ Elektra ยังไม่มีการคืนตัวละครเหล่านั้นกลับมาสู่อ้อมอกของ Marvel
ผลจากการที่ภาพยนตร์ Super Hero ได้รับความนิยมอย่างมากทั้ง 2 ค่ายการ์ตูนและ 1 ค่ายภาพยนตร์ ทั้ง DC Comics และ Marvel รวมถึง 20th Century Fox ที่ถือลิขสิทธิ์ X-Men และ Fantastic Four ส่งผลให้หลายธุรกิจเริ่มหันมาใช้คาแรคเตอร์ของตัวละครเข้ามาสร้างคาแรคเตอร์ให้กับตัวสินค้า โดยส่วนใหญ่จะแบ่งกลยุทธ์ออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ใน Movie Marketing
ส่วนแรกจะเป็นการ Tie-In ผูกสินค้าลงไปในภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้า อาหารเครื่องดื่ม ยานพาหนะและสถานที่ สามารถเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ในภาพยนตร์ วิธีการนี้จำเป็นต้องใช้เงินทุนค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องมีการตกลงและเซ็นสัญญากัน หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ (Official Sponser) และอีกส่วนคือสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เลย แต่มีการซื้อลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ของภาพยนตร์มาผนวกเข้ากับตัวสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เมนูอาหาร เป็นต้น
หลากสินค้าพาเหรด
ต้อนรับทีม Avengers
ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนคงเห็นกระแสของภาพยนตร์ Super Hero อย่าง Avengers: Infinity War ที่มีมาก่อนภาพยนตร์จะเข้าฉาย ชี้ให้เห็นสาวกของเหล่า Super Hero มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และทันทีที่ภาพยนตร์ออกฉายก็สร้างสถิติมากมาย รวมถึงยังเป็นวันเปิดตัวสินค้าต่างๆ มากมายในธีม Avengers อีกด้วย
เริ่มจาก Notebook Acer ที่มีการเปิดตัว Notebook รุ่นพิเศษด้วยการนำ 3 Super Hero หลักจากภาพยนตร์ Avengers: Infinity War มาสร้างเป็นรุ่นพิเศษ Limited Edition จำนาน 3 รุ่น 3 สไตล์ โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 2,100 เครื่องเท่านั้น ขณะที่ Mc Group ผู้จำหน่าย Mc ยีนส์ โดยได้ร่วมมือกับ Walt Disney Thailand ในการส่งเสื้อผ้ากีฬา Sport Fashion คอลเลคชั่นใหม่ในธีม Avengers โดยมีให้สะสมถึง 11 แบบทั้งลายไม่ว่าจะเป็นลายมาร์เวล (Marvel), กัปตันอเมริกา (Captain America), สไปเดอร์แมน (Spider-Man), ไอรอนแมน (Iron Man), ธอร์ (Thor), ดร.สเตรนจ์ (Dr.Strange), ฮัลค์ (Hulk), แบล็ค แพนเธอร์ (Black Panther), วิชั่น (Vision), โลกิ (Loki) รวมทั้ง ธานอส (Thanos)
ส่วนเครื่องสำอางแบรนด์ UZ พร้อมส่งผลิตภัณฑ์ในธีม Avengers โดยวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ โดยนำ Super Hero หลักๆ มาไว้บนแพ็คเกจจิ้ง ไม่ว่าจะเป็น Iron Man, Captain America, Spiderman, Thor, Hulk เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นใครจะคิดว่าสินค้าอย่าง Sex Toy จากค่าย Geeky โดยมีการส่งผลิตภัณฑ์ในธีม Marvel เพื่อต้อนรับภาพยนตร์ Avengers: Infinity War โดยมีให้เลือก 6 แบบด้วยกันทั้ง Thor, Iron Man, Captain America, Hulk, Agent of shield และ Infinity Gunlet (ขออภัยที่ไม่สามารกลงภาพได้)
แม้ว่า Super Hero อาจจะดูเป็นเรื่องเล่นๆ แต่หากลองดูจริงๆ จะพบว่า Super Hero แต่ละตัวล้วนมีมูลค่าทั้งสิ้น ขึ้นกับชื่อเสียง ความนิยมและความโด่งดังของ Super Hero ตัวนั้นๆ เช่น Spiderman มีมูลค่าสูงกว่า Dactor Strange เป็นต้น เพราะ Super Hero มีมูลค่าหลายสินค้าจึงนิยมผูกภาพลักษณ์ของสินค้าไปพร้อมๆ กับคาแลคเตอร์ Super Hero นั้นๆ
และบอกได้เลยว่า Super Hero เหล่านี้ไม่มีวันตาย ตราบที่โลกยังคงวุ่นวายทั้งสงคราม การก่อการร้าย และปัญหาต่างๆ ที่โลกกำลังเผชิญ เพราะ Super Hero เหล่านี้คือความหวังในยามที่หลายคนสิ้นหวัง
และ Super Hero เหล่านี้ยังเป็นความหวังให้เหล่าสินค้าที่ต้องการกระตุ้นยอดขาย
ให้มีความหวังขึ้นอีกครั้ง…