วิเคราะห์ “บุญรอด ซัพพลายเชน” จับมือ “พงษ์ระวี” ต่อจิ๊กซอว์ “โลจิสติกส์ครบวงจร” ในไทย-อาเซียน

  • 1.9K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

หลังจากกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ ปรับโครงสร้างธุรกิจในปี 2019 ได้แยก “ธุรกิจซัพพลายเชน” ออกมาเป็นอีกหนึ่งบริษัท ภายใต้ชื่อ “บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด” โดยมี คุณปิติ ภิรมย์ภักดี เป็นแม่ทัพบริหารกลุ่มธุรกิจนี้

เพราะเล็งเห็นว่า “การบริหารจัดการซัพพลายเชน” ที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ – กลางน้ำ – ปลายน้ำ ถือเป็น Backbone ของทุกธุรกิจ ในทุกขนาดบริษัท โดยข้อต่อสำคัญที่ขาดไม่ได้ในกระบวนการซัพพลายเชนคือ “ระบบโลจิสติกส์” ที่จะทำให้การไหล (Flow) ของสินค้าเป็นไปด้วยความราบรื่น และเกิดประสิทธิภาพทั้งการควบคุมต้นทุน หรือลดต้นทุน ระบบคลังสินค้า ระบบขนส่ง และการกระจายสินค้า เพื่อทำให้การส่งมอบสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือลูกค้าปลายทางนั้น ถูกต้องแม่นยำ สินค้ายังคงคุณภาพมาตรฐาน และทำให้การบริหารจัดการต้นทุนธุรกิจมีประสิทธิภาพดีขึ้น

ดังนั้นการแยกออกมาจัดตั้งเป็นอีกบริษัทฯ จะทำให้กลุ่มธุรกิจซัพพลายเชนและโลจิสติกส์เติบโตมากขึ้น รองรับทั้งกลุ่มธุรกิจในเครือบุญรอดบริวเวอรี่ ที่มีทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ขนมขบเคี้ยว,​ ผลิตภัณฑ์อาหาร และธุรกิจร้านอาหาร รวมถึงตอบโจทย์ลูกค้านอกเครือบุญรอดฯ ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งช่วยลดต้นทุน และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลาย

เพื่อขยายการเติบโต และสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ หนึ่งในกลยุทธ์ที่ “บุญรอด ซัพพลายเชน” ให้ความสำคัญคือ Collaboration สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในหลายโมเดล ทั้งในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยกันเอง และข้ามอุตสาหกรรม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งไปด้วยกัน

 

 

อย่างล่าสุดผนึกกำลังกับ “บริษัท พงษ์ระวี จำกัด” ผู้ให้บริการด้านขนส่งวัตถุที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูง เช่น เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมฯ ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งดีลใหญ่ของ 2 ยักษ์ธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยที่ต่างมี “จุดแข็ง” แตกต่างกัน แต่เมื่อมาจับมือด้วยกันแล้ว สร้าง Win-Win ให้กับทั้งบุญรอด ซัพพลายเชน และพงษ์ระวี

 

 

ทำความรู้จัก “บุญรอด ซัพพลายเชน” และความแข็งแกร่งที่สั่งสมมากว่า 8 ทศวรรษ

เมื่อเอ่ยถึงบริษัทที่มีรากฐานความแข็งแกร่งด้านระบบซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ในไทย หนึ่งในนั้นคือ “กลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่” จากจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ ต่อมาได้ขยาย Business Portfolio สู่ธุรกิจต่างๆ ทั้งกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์, ขนมขบเคี้ยว, อาหาร และธุรกิจร้านอาหาร

ทำให้ตลอดระยะเวลา 89 ปีของการดำเนินธุรกิจ “กลุ่มบุญรอดฯ” สั่งสมประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านการบริหารซัพพลายเชนที่มีเครือข่ายการจัดส่ง และกระจายสินค้าแบบครบวงจร ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งเชนค้าปลีก-ค้าส่งรายใหญ่, ยี่ปั๊ว, ซาปั๊ว หรือร้านค้าปลีกรายย่อย ทำให้สามารถเข้าถึงตั้งแต่ระดับจังหวัด เมืองใหญ่ – เมืองรอง ลงลึกถึงชุมชน และหมู่บ้าน

 

จากจุดแข็งดังกล่าว ต่อยอดสู่การตั้ง “บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน” (Boon Rawd Supply Chain: BRS) ให้บริการด้าน Technology Supply Chain แบบครบวงจร ประกอบด้วย 4 บริการ

– Logistics Services

– Customer Services

– Planning Services

– Digital service (Ready to use Solutions, Iot Service, System and Software and IT Consulting)

 

ปัจจุบัน “บุญรอด ซัพพลายเชน” สามารถรองรับปริมาน Warehouse Cartons 380 ล้านชิ้นต่อปีภายใต้พื้นคลัง 3.1 แสนตารางเมตร ใน 13 จุดกระจายสินค้า และ 1.8 แสนเที่ยวรถขนส่งต่อปี โดยมีลูกค้าในประเทศเป็นค้าส่ง 250 ราย และค้าปลีก 3 แสนราย

 

ทำความรู้จัก “พงษ์ระวี” ผู้เชี่ยวชาญขนส่งน้ำมัน วัตถุที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูง

ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย มีบริษัทขนส่งท้องถิ่น (Local Logistic) กระจายอยู่ในแต่ละจังหวัด แต่ละภูมิภาคของประเทศ ซึ่งบริษัทท้องถิ่นเหล่านี้ บางรายสามารถเติบโตเป็นบริษัทระดับประเทศ หนึ่งในนั้นคือ “บริษัท พงษ์ระวี จำกัด” บริษัทด้านผลิตภัณฑ์ปิโตเลียม เคมีภัณฑ์ และวัตถุที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูง ที่เริ่มต้นธุรกิจที่เชียงใหม่ในปี 2539  ถึงปัจจุบันมีจำนวนรถขนส่งมากกว่า 350 คัน และสำนักงาน 14 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่, ลำปาง, ขอนแก่น, ยโสธร, พิจิตร, ชัยนาท, สระบุรี, ปทุมธานี,กรุงเทพ, สมุทรปราการ, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และระยอง

ขณะที่กลุ่มลูกค้า เป็นบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศ ​และต่างประเทศ เช่น บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน), บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด, บริษัท เอสโซ่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท เชื้อไฟลาว จำกัด, บริษัท ปิโตรเวียดนามออยล์ จำกัด, บริษัทเชื้อไฟอินโดจีน จำกัด

Photo Credit: พงษ์ระวี 

 

วิเคราะห์กรณีศึกษา “บุญรอด ซัพพลายเชน x พงษ์ระวี” จับมือสร้างการเติบโตสู่ “โลจิสติกส์ครบวงจร” รุกอาเซียน

การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในโลกแห่งการแข่งขันทุกวันนี้ ไม่ใช่การเดินคนเดียว แต่เป็นการหาพาร์ทเนอร์ที่ใช่ แล้วผนึกกำลังกัน หรือที่เรียกว่า Collaborationโดยใช้จุดแข็งที่ต่างฝ่ายต่างมี มาสร้างโอกาสทางธุรกิจ และเติบโตร่วมกันในระยะยาว ซึ่งเป็นแนวนโยบายที่กลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ให้ความสำคัญและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายธุรกิจขององค์กร

เพราะฉะนั้น “บุญรอด ซัพพลายเชน” จึงได้นำกลยุทธ์ Collaboration มาปรับใช้กับธุรกิจเช่นกัน อย่างเมื่อปี 2561 ได้ร่วมทุนกับ “ลินฟ้อกซ์” บริษัทโลจิสติกส์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการคลังสินค้าและขนส่งจากประเทศออสเตรเลีย ตั้ง “บริษัท บีอาร์เอฟ โลจิสติคส์ จำกัด” เพื่อให้บริการโลจิสติกส์ ทั้งในเครือบุญรอดฯ และลูกค้าข้างนอกที่เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่ม และผู้ประกอบการสินค้า FMCG ขนาดกลาง-กลางย่อม

ขณะที่เมื่อไม่นานนี้ “บุญรอด ซัพพลายเชน” ประกาศผนึกกำลังกับ “บริษัท พงษ์ระวี จำกัด” โดยใช้จุดแข็งและศักยภาพทางธุรกิจของทั้งฝั่ง “บุญรอด ซัพพลายเชน” มีประสบการณ์ด้านระบบซัพพลายเชน และโลจิสติกส์ครบวงจรมายาวนานกว่า 8 ทศวรรษ ทำให้มีฐานลูกค้าหลากหลายกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) พร้อมทั้งมีเครือข่าย และความสัมพันธ์อันดีกับเชนค้าปลีก-ค้าส่งรายใหญ่ จนถึงร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศไทย ผนึกกำลังกับ “พงษ์ระวี” มีความเชี่ยวชาญด้านขนส่งน้ำมัน เคมีภัณฑ์ และวัตถุที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูง มีฐานลูกค้าทั้งในประเทศ และอาเซียน

 

MarketingOops! มองความร่วมมือครั้งล่าสุดนี้ จะสร้าง Win-Win ให้กับทั้งสองฝ่ายใน 3 มิติหลักคือ

  1. สร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจร ขยายสู่ตลาดอาเซียน

ฐานลูกค้าของ “บุญรอด ซัพพลายเชน” นอกจากบริษัทในเครือบุญรอดฯ ที่ใช้พลัง Synergy ด้านซัพพลายเชนและโลจิสติกส์แล้ว ยังมีลูกค้านอกเครือ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม,​ อาหาร และสินค้าอุปโภคอื่นๆ ที่ต้องการกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางการขายต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะที่ “พงษ์ระวี” มีกลุ่มลูกค้าเป็นบริษัทด้านพลังงานเป็นหลัก

การจับมือระหว่าง บุญรอด ซัพพลายเชน กับ พงษ์ระวี แม้จะเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์คนละกลุ่มอุตสาหกรรม แต่กลับเป็นจิ๊กซอว์เติมเต็มความครบวงจรให้แก่กัน เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจให้กับสององค์กรขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศ และยกระดับการให้บริการธุรกิจการขนส่งสู่ภูมิภาคอาเซียน

 

  1. ทำให้บุญรอด ซัพพลายเชน ขยายโอกาสทางธุรกิจโลจิสติกส์เข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ๆ

ตลอดระยะเวลา 89 ปี “กลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่” เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และธุรกิจอาหารภายใต้ Brand Portfolio ที่หลากหลายมายาวนาน เพราะฉะนั้นโฟกัสหลักของ บุญรอด ซัพพลายเชน จึงอยู่ในกลุ่มธุรกิจเหล่านี้

อย่างไรก็ตามการทำธุรกิจทุกวันนี้ ต้อง Rethink และมุ่งแสวงหาโอกาสใหม่อยู่เสมอ เพราะฉะนั้นการจับมือกับ พงษ์ระวี จะทำให้บุญรอด ซัพพลายเชน ขยายโอกาสธุรกิจโลจิสติกส์เข้าสู่กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ เช่น กลุ่มสินค้าที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูง ซึ่งช่วยสร้างรายได้ใหม่ให้กับบุญรอด ซัพพลายเชน นอกเหนือไปจากฐานลูกค้าหลักอย่างกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

 

  1. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนจากขนาดธุรกิจที่ขยายใหญ่ขึ้น (Leverage Economy of Scale)

การดำเนินธุรกิจซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ส่งมอบบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน รวดเร็ว แม่นยำ ปลอดภัย และจัดส่งสินค้าไปยังช่องทางการขายต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง หรือไปถึงปลายทางเท่านั้น ยังมีเรื่องของ Cost Efficiency เป็นหัวใจสำคัญเช่นกัน

ดังนั้นอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ของความร่วมมือครั้งนี้ ทำให้ขนาดธุรกิจของทั้งสองบริษัทขยายใหญ่ขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ ทั้งสองบริษัทจะมี Economy of Scale มากขึ้น ช่วยลดต้นทุนธุรกิจให้กับทั้งบุญรอด ซัพพลายเชน และพงษ์ระวี ตลอดจนลูกค้าของทั้งสององค์กร

 

 

ปัจจุบันเป็นยุคแห่ง Collaboration ที่องค์กร หรือแบรนด์ต่างๆ ทั้งในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน หรือต่างอุตสาหกรรมนิยมจับมือ ทั้งระยะสั้นที่มีกำหนดระยะเวลาความร่วมมือ ณ ช่วงหนึ่งๆ และในระดับเป็น Strategic Partner ระยะยาวต่อเนื่อง ซึ่ง “บุญรอด ซัพพลายเชน” และ “พงษ์ระวี” ถือเป็นกรณีศึกษาของการเป็น Strategic Partner ที่มีแนวทางสร้างการเติบโตในระยะยาวร่วมกันอย่างชัดเจน เพื่อยกระดับสู่การเป็นผู้ให้บริการธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร ทั้งในไทยและระหว่างประเทศ

 

คุณปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการ บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด

 

ดังที่ คุณปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการ บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด เคยให้สัมภาษณ์เมื่อครั้งประกาศความาร่วมมือกับบริษัท พงษ์ระวี จำกัดไว้ว่า 

ด้วยแนวนโยบายการขยายธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ การมุ่งยกระดับโลจิสติกส์ ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญกับการผนึกกับพันธมิตรธุรกิจอย่าง “พงษ์ระวี” เราเชื่อว่าจะสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจร รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะก่อให้เกิดประโยชน์จากขนาดธุรกิจที่ขยายใหญ่ และยกระดับการให้บริการธุรกิจการขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อการเติบโตในอนาคตร่วมกับลูกค้า ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค”

การประกาศความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นเพียงก้าวแรก น่าจับตามองว่าสเต็ปต่อจากนี้ “บุญรอด ซัพพลายเชน” และ “พงษ์ระวี” จะมี Strategic Move ร่วมกันอย่างไร เพื่อยกระดับสู่การเป็น Major Player ของธุรกิจซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ ครอบคลุมทั้งตลาดในประเทศ และระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน


  • 1.9K
  •  
  •  
  •  
  •