BMW หนึ่งในค่ายรถยนต์หรูระดับผู้บริหารแถลงผลประกอบการโชว์ยอดขายในประเทศไทยเติบโตกว่า 43% สูงสุดเมื่อเทียบกับ BMW ทั่วโลกแถมด้วยยอดขายเดือนมกราคม 2561 ที่ผ่านมาเติบโตกว่าปีที่แล้ว 10% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันพร้อมกันนี้ยังเปิดบ้านเยี่ยมชมโรงงานประกอบรถยนต์ BMW ที่กำลังมีแผนในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะแผนการผลิตแบตเตอรี่แรงดันสูงในปี 2562
นายสเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน BMW Group ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จที่ผ่านมา โดยเฉพาะอัตราการเติบโตถึง 43% เมื่อเทียบปีต่อปีและถือว่าสูงที่สุดสำหรับ BMW ทั่วโลก นอกจากนี้ BMW ยังสามารถสร้างยอดขายสูงสุดในเดือนมกราคม 2561 ด้วยจำนวนรถยนต์ทั้งสิ้น 816 คันหรือคิดเป็นอัตราเติบโตถึง 10% ขณะที่รถจักรยานยนต์ BMW Motorrad สามารถส่งมอบรถจักรยานยนต์รวม 150 คันหรือคิดเป็นอัตราเติบโตถึง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
BMW ประเทศไทย ยังได้จัดฉลองครั้งใหญ่กับการประกอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ครบ 100,000 คันที่โรงงานประกอบรถยนต์ในนิคมอมตะ จังหวัดระยอง โดยแบ่งเป็นการประกอบรถจักรยานยนต์ถึง 10,000 คันและการประกอบรถยนต์จำนวน 90,000 คัน พร้อมกันนี้ยังเตรียมขยายไลน์การผลิตรถยนต์เป็น 9 รุ่นและรถจักรยานยนต์อีก 8 รุ่น
นอกจากนี้ในส่วนของ BMW Financial ชี้แจงถึงมูลค่าสินเชื่อในปี 2560 ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าสินเชื่อรวม 4.04 หมื่นล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 22% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.25 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2561 นี้ BMW เตรียมเปิดให้บริการทางการเงินใหม่ๆ แก่ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ BMW เหมือนดังเช่นโปรแกรม BMW Freedom Choice ในปีที่ผ่านมา ที่ช่วยให้ช่วงระยะเวลาเปลี่ยนรถยนต์ (Life Cycle) ขยับเร็วขึ้นจากเดิมที่มีระยะเวลาอยู่ที่ 6 ปีโดยประมาณ
ขณะที่แผนการผลิตในปี 2561 นี้ BMW ได้เตรียมพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรเพื่อการประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง (HVB) โดยพนักงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับการอบรมที่ประเทศ Germany รวมไปถึงความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์และทักษะกระบวนการที่ล้ำหน้า อาทิ หุ่นยนต์, การเชื่อมด้วยเลเซอร์ รวมไปถึงการขึ้นรูปแบบ 3 มิติ เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้ BMW ยังเตรียมผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ อาทิ BMW X2, BMW 530i Touring M Sport, BMW M4 CS และ BMW M5 รวมไปถึงรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่อาทิตย์ชื่น BMW F 800 R, BMW S 1000 R, BMW S 1000 XR, BMW R 1200 GS และ BMW R 1200 GS Adventure
พร้อมกันนี้นายสเตฟานยังได้แนะนำ นายคริสเตียน วิดมานน์ ประธาน BMW Group ประเทศไทยคนใหม่ ที่จะมารับมอบตำแหน่งต่อจากนายสเตฟาน
ทั้งนี้ หากสังเกตให้ดีจะพบว่า แผนการผลิตของ BMW ถูกตระเตรียมไว้เพื่อรองรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หากแต่เมื่อสอบถามทางผู้บริหารแล้วพบว่า BMW มีแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฮบริดเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่กลุ่มรถยนต์ EV ทาง BMW ยังไม่มีแผนในเรื่องนี้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภค หากตลาดเปิดรับ BMW ก็พร้อมที่จะนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาจำหน่ายในช่วงแรก และหากมีความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นก็พร้อมที่จะนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบในประเทศไทยต่อไป