เป็นข่าวโด่งดังไปทั้งอเมริกา เกี่ยวกับ Blockbuster ร้านเช่าวิดีโอที่ครองอับดับหนึ่งมานานนับ 20 ปี วันนี้..บริษัทกำลังเข้าข่ายล้มละลาย และมีหนี้มากมายจนแทบจะกู้คืนไม่ได้ ในทางกลับกัน การชมภาพยนตร์ผ่านทางออนไลน์กลับกำลังเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นชีวิตประจำวัน
Blockbuster มีสาขาในอเมริกาประมาณ 3,000 สาขาเปิดให้บริการมานาน เรียกว่าอยู่คู่กับคนอเมริกันเลยก็ว่าได้ เนื่องจากทุกเพศทุกวัย ทั้งคนอเมริกันและคนต่างชาติที่ไปทำงานหรือเรียนที่อเมริกานั้นต่างเห็น Blockbuster เป็นที่พึ่งกับทุกภาพยนตร์ที่ต้องการชมในบ้าน ปัจจุบัน Blockbuster กำลังประสบกับปัญหาหนี้สินที่มีให้กับค่ายหนัง ทำให้ Blockbuster จำเป็นต้องลดจำนวนสาขาลงจาก 3,000 ให้เหลือเพียง 1,000 สาขาและยังคาดหวังที่จะนำธุรกิจกลับมาได้ดังเดิม
หนี้สินของ Blockbuster ส่วนมาจะเป็นค่าลิขสิทธิ์ภาพยนตร์จากค่ายหนังที่มีจำนวนมหาศาล เช่นตอนนี้ Blockbuster มีหนี้อยู่กับ Fox ถึง $21.6 ล้านเหรียญสหรัฐ กับ Warner Brothers ที่ $20 ล้านเหรียญ Sony Pictures ที่ $13.3 ล้านเหรียญ เป็นต้น
ถึงข่าวนี้จะโด่งดัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนประหลาดใจมากนัก เนื่องจาก Blockbuster มีข่าวที่น่าเป็นห่วงมาสักพักใหญ่แล้ว ในขณะที่ข่าวการเติบโตของ YouTube, Netflix, Hulu และ Redbox กลับดูมีสีสรรมากขึ้น เนื่องจากบริการจากเว็บไซต์หล่าวนี้สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันมาดูภาพยนตร์ผ่านทางออนไลน์แทน และด้วยเทคโนโลโยของอุปกรณ์ในการชมภาพยนตร์เองก็สนับสนุนการชมภาพยนตร์ผ่านทางเว็บไซต์และต่อเข้ากับทีวีที่บ้านได้เช่นกัน หรือไม่ก็เป็นเครื่องอ่านไฟล์ภาพยนตร์ที่เราดาวโหลดหรือเปิดชมผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ผ่านหน้าจอทีวีที่บ้านได้เช่นกัน
หลายคนกล่าวไว้ว่า Blockbuster กำลังจะกลายเป็นอดีต ส่วนเว็บไซต์อย่าง YouTube, Netflix, Redbox และ Hulu นั้นกลับกลายเป็นอนาคตของคนทุกคน
เห็นแบบนี้ก็อดเศร้าใจแทนไม่ได้เหมือนกัน เพราะจำได้ว่าเวลาที่ไปเช่าวิดีโอที่ Blockbuster จะมีภาพยนตร์ให้เลือกมากมาย และยังจำได้ว่าได้รู้จักกับ Pop Corn (แบบถุงที่นำมาอบผ่านตู้ไมโครเวฟเองที่บ้าน) จากร้าน Blockbuster นี่แหละ
[via Mashable]
