‘Beacon VC’ ลงเงิน 5 ธุรกิจเชิงกลยุทธ์ ขับเคลื่อน ‘ความยั่งยืน’ ระดับภูมิภาค

  • 2.8K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิดเกี่ยวกับความยั่งยืน (Sustainability) ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญที่ธุรกิจทั่วโลกต้องให้ความสนใจ โดยหนึ่งในวิธีการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริง คือการลงทุนในสตาร์ตอัพที่พัฒนาโซลูชันเพื่อความยั่งยืน ให้สามารถนำไปใช้จริงในเชิงปฏิบัติของธุรกิจในวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันกองทุนร่วมลงทุน (Venture Capital) หลายแห่งได้เริ่มลงทุนกับสตาร์ตอัพเหล่านี้ด้วย

สำหรับหนึ่งตัวอย่างที่โดดเด่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ กองทุน Beacon Impact Fund ดำเนินงานโดย Beacon VC บริษัทเงินร่วมทุนในเครือธนาคารกสิกรไทย ที่อยากชวนมาทำความรู้จักกัน

 

กองทุน Beacon Impact Fund คืออะไร?

สำหรับ Beacon Impact Fund คือกองทุนที่จัดตั้งขึ้นในปี 2566 ภายใต้การดำเนินงานของ Beacon VC บริษัทเงินร่วมทุนของธนาคารกสิกรไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพที่พัฒนาโซลูชันเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนในด้าน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

 

 

โดยกองทุนนี้ไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจด้านการเงิน (Fintech) แต่ยังขยายไปสู่กลุ่ม เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Tech) เทคโนโลยีสำหรับธุรกิจ (Enterprise Tech) และเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค (Consumer Tech) เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว สอดคล้องกับ เป้าหมายระยะยาวของธนาคารกสิกรไทย ที่วางแผนสนับสนุนสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Financing and Investment) รวมกว่า 1-2 แสนล้านบาทภายในปี 2573

 

เปิดธุรกิจสตาร์ทอัพที่อยู่ในการสนับสนุนของ กองทุน Beacon Impact Fund

ก่อนหน้านี้ในปี 2566 กองทุน Beacon Impact Fund ได้ลงทุนกับธุรกิจสตาร์ทอัพ และ กองทุน โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจจำนวน 4 ราย ได้แก่ Algbra ธุรกิจสตาร์ทอับด้านการเงิน, Wavemaker Impact ธุรกิจเงินร่วมทุนที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, Quona Opportunity Fund ธุรกิจเงินร่วมลงทุนเพื่อสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงิน และ Siam Capital ที่มุ่งเน้นการเป็นส่วนนึงของการบริโภคอย่างยั่งยืน

 

 

โดยในปี 2567 นี้ Beacon Impact Fund ได้ประกาศลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน 5 ธุรกิจสำคัญที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนความยั่งยืนในภูมิภาค ซึ่งทำให้ปัจจุบันกองทุนมียอดเงินลงทุนรวมแล้วกว่า 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 455 ล้านบาทนับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุน โดยทั้ง 5 ธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่มีการลงทุนในปีนี้ ได้แก่

  1. Neutreeno: สตาร์ทอัพจากอังกฤษที่มุ่งเน้นการนำ AI เข้ามาวิเคราะห์คาร์บอนฟุตพริ้นท์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถหาแนวทางเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)​
  2. PlanetFWD: แพลตฟอร์มที่ช่วยวิเคราะห์ และติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของสินค้าอุปโภคบริโภคตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่ายโดยใช้กระบวนการประเมินวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Assessment) เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงสำหรับการพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม​
  3. Majoo: แพลตฟอร์มการจัดการธุรกิจจากอินโดนีเซียที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (MSMEs) สามารถจัดการด้านการเงิน และความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว​
  4. Avaana Capital: กองทุนร่วมลงทุน (Venture Capital) ที่เน้นเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนในอินเดีย การลงทุนใน Avaana Capital เปิดโอกาสให้ Beacon VC ได้เรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด การเกษตรที่ยั่งยืน และการจัดการทรัพยากรในอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง​
  5. ION Energy: สตาร์ทอัพสัญชาติไทย ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงพลังงานสะอาดแบบครบวงจรได้ง่ายขึ้น โดยนำเสนอโซลูชั่นโซลาร์เซลล์ ทั้งการลงทุนติดตั้งโซลาร์ฟรีผ่านสัญญาซื้อขายไฟฟ้า การรับเหมาและติดตั้งแผงโซลาร์สำหรับที่อยู่อาศัยและการพาณิชย์ รวมถึงพัฒนา Applicationสำหรับการบริหาร ติดตาม การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และการชำระเงินออนไลน์

การลงทุนในโครงการเหล่านี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของ Beacon Impact Fund ที่ต้องการขยายขอบเขตการลงทุนไปยังตลาดใหม่ๆ และผลักดันโซลูชันเพื่อความยั่งยืนในกลุ่มนวัตกรรมสำคัญ เช่น การลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) เทคโนโลยี Climate Tech  รวมถึงการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของ Beacon VC ในการสร้างความยั่งยืนและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในสตาร์ทอัพ ไม่เพียงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก​​

 

สร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน

Beacon VC ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบนิเวศของธุรกิจที่ยั่งยืน เช่น

  • ความร่วมมือกับ GGGI: ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ Global Green Growth Institute เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี Climate Tech ในประเทศไทย
  • กิจกรรม Climate Tech Connect และ GreenGather: การรวมตัวของผู้มีส่วนร่วมในระบบนิเวศ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างความร่วมมือด้าน ESG
  • ESG Essential Reporting Workshop: การอบรมที่เน้นการจัดทำรายงานด้าน ESG เพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพเข้าใจและนำไปใช้ในการบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

ความร่วมมือเหล่านี้ช่วยสร้างเครือข่ายที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในระดับภูมิภาคและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม กิจกรรมเหล่านี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมาย Beacon VC ที่จะขยายผลกระทบให้ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก​​

 

ก้าวต่อไปของ กองทุน Beacon Impact Fund

ในปีถัดไป Beacon Impact Fund มีแผนมุ่งเน้นการลงทุนใน 3 ด้านหลัก

  1. การลดการปล่อยคาร์บอน: สนับสนุนโซลูชันที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. พลังงานสะอาด: ขยายการลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยให้การใช้พลังงานสะอาดมีความแพร่หลายมากขึ้น
  3. การสนับสนุนธุรกิจ MSMEs: เสริมสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Beacon VC ยังตั้งเป้าที่จะนำองค์ความรู้จากการลงทุนในต่างประเทศกลับมาปรับใช้ในไทย เพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพในประเทศเติบโต และสร้างผลกระทบเชิงบวกในระดับโลก​​ ผ่านความร่วมมือกับธนาคารกับกสิกรไทยในการสนับสนุนธุรกิจให้เติบโตในระยะยาวโดยมีหัวข้อเรื่องความยั่งยืนเป็นตัวผลักดันสำคัญ


  • 2.8K
  •  
  •  
  •  
  •