ถ้าพูดถึงการสร้างมาสคอตที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกก็คงหนีไม่พ้น “คุมะมง” หมีสีดำแก้มแดงขวัญใจทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น ด้านประวัติความเป็นมาคงไม่ต้องพูดมากแล้วสำหรับ คุมะมง แต่เอ๋..แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับ “บาร์บีกอน” เจ้ามังกรสีเขียวหน้าร้านบาร์บีคิวพลาซ่าน่ะเหรอ ม่ะ..เดี๋ยวจะเหลาให้ฟัง
แต่ก่อนที่จะไปถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ตรงจุดนั้น อยากจะขออนุญาตกลับไปเล่าถึงตำนานของเจ้ามังกรน้อยสีเขียว “บาร์บีกอน” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์คู่กับร้านบาร์บีคิวพลาซ่า มานานถึง 30 ปีเลยทีเดียว
เรื่องราวการกำเนิดของ “บาร์บีกอน” ตำนานหน้าร้านบาร์บีคิวพลาซ่า
“บาร์บีกอน” เป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับแบรนด์มานานตั้งแต่ในยุคแรกๆ ของบาร์บีคิวพลาซ่า จนหลายๆ คนติดเรียกชื่อ “ร้านบาร์บีกอน” แทนที่จะเรียกชื่อว่าร้านบาร์บีคิวพลาซ่า ที่สำคัญคือ บทบาทของบาร์บีกอ ดูจะมีความหมายสำคัญกับแบรนด์มากขึ้นเรื่อยๆ จากแรกเริ่มที่ใช้บาร์บีกอนเสมือนเป็นแค่เพียงสัญลักษณ์ที่ให้คนจดจำร้านได้ มาสู่การสร้างให้ “บาร์บีกอน” มีชีวิต เพื่อประโยชน์ในการสื่อสารและเชื่อมโยงแบรนด์เข้าถึงลูกค้า ซึ่งบาร์บีคิวพลาซ่า ถือว่าเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำเรื่องการใช้กลยุทธ์ ‘Character Marketing’ สำหรับการสร้างแบรนด์ที่มองเห็นผลได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมทั้งนี้ หากจะพิจารณาถึงวิวัฒนาการและความเป็นมาของบาร์บีกอนแล้ว สามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน
ยุคก่อตั้ง
ย้อนกลับไปในปี 2539 ในสมัยที่ คุณชูพงศ์ ชูพจน์เจริญ ผู้ก่อตั้งบาร์บีคิวพลาซ่า ต้องการที่จะสร้างสัญลักษณ์ประจำร้านบาร์บีคิวพลาซ่า เพื่อให้คนจดจำร้านได้และเป็นจุดสร้างความแตกต่างๆ จากร้านอาหารอื่นในห้างเมื่อตัดสินใจดังนั้น คุณชูพงศ์ ก็มองหาสัญลักษณ์ที่จะนำมาใช้แทนแบรนด์ โดยตัดสินใจเลือก “มังกร” ซึ่งเป็นสัตว์ฮีโร่ในตำนานที่ยิ่งใหญ่ของชาวจีนมาเป็นสัญลักษณ์ และเมื่อคำว่า “มังกร” มารวมกับคำว่า “บาร์บีคิวพลาซ่า” ชื่อร้านแล้ว จึงเรียกชื่อมังกรตัวสีเขียวนี้ว่า “บาร์บีกอน”
สำหรับรูปลักษณ์เดิมของเจ้าบาร์บีกอนในยุคบุกเบิกนั้น ใบหน้าจะคล้ายมังกรโบราณ ปากกว้าง มีฟัน และมีหนวด ถูกนำมาตั้งหน้าร้านเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของร้านบาร์บีคิวพลาซ่า โดยที่ใครๆ ต่างก็เรียกติดปากว่าร้านบาร์บีกอน
ยุครีแบรนด์ดิ้ง
หลังจาก “บาร์บีกอน” ได้ทำหน้าที่ในการเป็นทูตสันถวไมตรีระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคเรื่อยมาจนกระทั่งบาร์บีคิวพลาซ่า ก้าวเข้าสู่ปีที่ 24 หรือในปี พ.ศ. 2554 “บาร์บีคิวพลาซ่า” ได้ตัดสินใจทำการรีแบรนด์ดิ้งใหม่ครั้งใหญ่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากการรีแบรนด์ภายในองค์กรก่อน จากนั้นจึงต่อยอดไปสู่ภายนอกองค์กร ด้วยการปรับลุ๊คใหม่ให้แก่ “บาร์บีกอน” โดยได้ดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่น Masako Okamura (Creative Director) และ Yosuke Kojima (Art Director, Designer)ของเดนท์สุ โตเกียว ที่มีชื่อเสียงเรื่องการออกแบบคาแรคเตอร์มาเป็นผู้ปรับโฉมบาร์บีกอนใหม่ให้ โดยเน้นรูปลักษณ์ที่ดูเป็นมิตรมากขึ้น น่ารัก ไม่ซับซ้อน เข้าถึงได้ง่าย ที่สำคัญคือ มีความทันสมัยและดูเป็นสากลมากขึ้น
แต่เพียงแค่ปรับโฉมใหม่คงไม่พอ ยังรวมไปถึงการสื่อสารกับลูกค้าด้วย แบรนด์ได้สร้างการรับรู้ถึงที่มาที่ไปของการปรับโฉมบาร์บีกอนผ่านการทำแคมเปญสื่อสารทางการตลาด สร้างสตอรี่เรื่องของ “เสี่ยเส็ง” ที่ขโมยบาร์บีกอนไป โดยจัดทำแคมเปญทั้ง on ground on shop และ online จนเกิดเป็นกระแสที่ทุกคนพูดถึง และสร้าง engage กับคนได้อย่างดี พร้อมบาร์บีกอนโฉมใหม่กับ 7 ลักษณะพิเศษ ต่าง ๆ ได้แก่
- เขาเรดาห์ ตรวจหาวัตถุดิบชั้นเลิศ
- ปีกน้อยเหินเวหา บินแวบเดียวก็ถึงแหล่งวัตถุดิบเกรด A+
- หางหรรษา วัดความสุขของเพื่อนๆ ทุกคน
- จมูกหยั่งรู้ แค่ดมก็รู้ ว่าอาหารสุกพร้อมรับประทาน
- ตาทิพย์สแกนอารมณ์ ตรวจจับอารมณ์ของทุกๆ คนในร้าน
- มือบริการขั้นเทพ แค่กระดิกนิ้ว พนักงานก็จะมาบริการอย่างรวดเร็ว
- ลิ้นกูรู ตรวจสอบคุณภาพความอร่อยแบบนักชิม
ยุคปัจจุบัน
บาร์บีคิวพลาซ่า ยังคงให้ความสำคัญกับการใช้กลยุทธ์ คาแรคเตอร์ มาร์เกตติ้ง ในการสร้างแบรนด์และสร้างความผูกพันของ “บาร์บีกอน” กับผู้คนอย่างต่อเนื่อง มีการนำเอาบาร์บีกอนมาใช้ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบต่างๆ เช่น การทำ LINE STICKER รูปบาร์บีกอน พร้อมแจกให้กับลูกค้าฟรีทันทีที่สั่งชุดอาหาร หรือการนำเอาบาร์บีกอนมาผลิตเป็นของสะสมต่างๆ และสร้างเรื่องราวความโดดเด่นของบาร์บีกอนผ่านโปรโมชั่นต่างๆ เช่น “ล่าไข่บาร์บีกอน” ที่ให้ลูกค้าที่สั่งโปรโมชั่นชุดล่าไข่บาร์บีกอน ได้ล่าสมบัติซึ่งเป็นของสะสมจากบาร์บีกอน จนสามารถสร้างกระแสตามล่าของสะสมบาร์บีกอนผ่านโลกโซเชียลได้อย่างประสบความสำเร็จ
ด้านสื่อออนไลน์ ได้สร้างให้บาร์บีกอนมีชีวิตสามารถโต้ตอบกับลูกค้าผ่านเพจ Facebook ของบาร์บีคิวพลาซ่า จนลูกค้าหลายๆ คน ที่สื่อสารผ่านเพจดังกล่าวจะเรียกชื่อ “ก้อน” เสมือนเป็น admin ของเพจเลย
โมดิฟายด์ “ก้อน” บ้านเดียวกับ “คุมะมง”
ล่าสุด ในโอกาสครบรอบ 30 ปี ของบาร์บีคิวพลาซ่า “บาร์บีกอน” ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของบาร์บีคิวพลาซ่าก็ได้ถูกนำมาเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารฉลองครบรอบปีที่ 30 นี้ โดยยึดเอาวันเกิดบาร์บีกอนมาเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารแนวคิดของแบรนด์เรื่อง “การทำวันเกิดนี้ให้ดีที่สุด” ด้วยการมอบของขวัญพิเศษให้บาร์บีกอน ของขวัญดังกล่าวเป็นมาสคอตชุดใหม่ที่ผลิตจาก โรงงานผลิตมาสคอต บริษัท คิกูรูมิ โรงงานผลิตมาสคอตชั้นนำของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ผลิตมาสคอต “คุมะมง” สัญลักษณ์ของจังหวัดคุมาโมะโตะ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้อาจจะเรียกได้ว่า “บาร์บีกอน” เป็นญาติห่างๆ ทางสายการผลิตเดียวกับ “คุมะมง” เพราะผลิตที่โรงงานเดียวกันเลย
เป็นของขวัญสุดพิเศษ ที่บาร์บีคิวพลาซ่าลงทุนควักกระเป๋าจ่ายเงินแพงกว่า 10 เท่า เพื่อผลิตชุดมาสคอตที่สวมใส่ได้สบายขึ้น เคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น เพราะเชื่อว่าชุดมาสคอตที่ดีจะสามารถส่งผลกับการส่งมอบจิตวิญญาณของบาร์บีกอนไปยังผู้สวมใส่ชุดมาสคอตได้ ซึ่งจะทำให้ผู้สวมใส่สามารถถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์และทำหน้าที่เชื่อมต่อถึงผู้คนได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น
8 ความคูลกับชุดมาสคอตใหม่ของบาร์บีกอน
เมื่อชุดมาสคอตบาร์บีกอนใหม่ผลิตที่โรงงานผลิตชื่อดัง ก็จะต้องมีความพิเศษและไม่ธรรมดาแน่นอน แต่ทว่าความพิเศษที่ว่านั่นคืออะไรบ้าง มี
- มองได้ชัดขึ้น มาสคอตบาร์บีกอนตัวเก่ามองเห็นไม่ชัดเจน เพราะต้องมองผ่านช่องจมูก แต่ตัวใหม่จะมองเห็นผ่านดวงตาได้ชัดเจนขึ้น เพราะตำแหน่งดวงตาอยู่ในระดับตาปกติ นอกจากจะทำให้ขยับได้คล่องตัวแล้ว ช่องที่มองผ่านดวงตาก็กว้างขึ้นด้วย
- มีน้ำหนักเบา น้ำหนักมาสคอตบาร์บีกอนตัวใหม่ มีน้ำหนักทั้งตัวรวมอยู่ที่ 6 กิโลกรัม ซึ่งเบาขึ้นกว่าเท่าตัว เนื่องจากวัสดุที่เลือกใช้มีน้ำหนักเบา ในขณะที่มาสคอตตัวเก่า มีน้ำหนักแค่เฉพาะส่วนหัวอยู่ที่ 6 กิโลกรัม และส่วนตัวอยู่ที่ 6 กิโลกรัม รวมแล้ว 12 กิโลกรัม
- ให้สัมผัสที่ปลอดภัย ส่วนหัวของมาสคอตบาร์บีกอนตัวเก่าผลิตจากไฟเบอร์ ทำให้เวลาเดินชนหรือมีคนเข้ามากอดจะรู้สึกเจ็บ แต่ส่วนหัวของบาร์บีกอนตัวใหม่ผลิตจากโฟม นอกจากน้ำหนักจะเบาแล้ว เวลาโผกอดใครก็ปลอดภัย
- เพิ่มช่องการมองด้านล่าง โดยส่วนหัวของมาสคอตบาร์บีกอนตัวใหม่มีช่องไว้สำหรับมองส่องใต้คาง ทำให้สามารถมองเห็นด้านล่างได้ เลี่ยงการชนสิ่งต่างๆ รอบตัว
- ระบายความร้อน มาสคอตบาร์บีกอนตัวใหม่มีพัดลมระบายความร้อนบริเวณส่วนหัว เพื่อให้ผู้สวมใส่มาสคอตรู้สึกโล่งสบาย
- ให้สัมผัสที่นุ่ม วิธีการจัดวางขนเฟอร์ของมาสคอตบาร์บีกอนตัวใหม่ ใช้วิธีการเรียงขนโดยศึกษาจากขนแมว ทำให้ขนนุ่น เรียบ มีความสวยงาม จับนุ่มมือ
- ไม่อึดอัด ชุดบาร์บีกอนใหม่ ออกแบบผ้าให้บางลง พร้อมถุง cold pack ที่บรรจุอยู่ด้านในชุด ช่วยลดอุณหภูมิภายในชุด ผู้สวมใส่ก็จะสามารถใส่ชุดได้อย่างสบายมากขึ้น
- แพทเทิร์นใหม่ มาสคอตบาร์บีกอนตัวเก่า ถ้าผู้สวมใส่มีส่วนสูงไม่พอดีกับชุด ขาจะลอย หรือ แขนจะโผล่ แต่มาสคอตตัวใหม่มีการทำ pattern ใหม่ เพื่อปิดบังคนใส่ด้านในได้
ความสำคัญของ Character Marketing
ในอนาคต บาร์บีคิวพลาซ่า จะมีการวางข้อกำหนด ข้อห้าม และข้อควรทำของบาร์บีกอน และผู้ที่ใส่มาสคอตบาร์บีกอน ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็จะต้องสามารถแสดงบทบาทของบาร์บีกอนได้อย่างชัดเจนตรงกัน เพราะจนถึงวันนี้ บาร์บีกอนสำหรับแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อการสร้างแบรนด์หรือเชื่อมโยงแบรนด์เข้าหาลูกค้าเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่สำคัญในการเป็นตัวแทนของบาร์บีคิวพลาซ่า ในการชวนคนมาสร้างสรรค์เรื่องราวดีๆ ให้แก่ตนเองและสังคม เพื่อให้แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าได้มุ่งไปสู่เป้าหมายของการเป็นแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนและเป็นแบรนด์ที่คนรักมากที่สุดนั่นเอง
นางสาวบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวว่า เราเลือกที่จะผลิตมาสคอตบาร์บีกอนที่โรงงานผลิตมาสคอตคิกูรูมิ ด้วยเหตุผลสำคัญที่ไม่ใช่แค่เพียงการปรับปรุงสภาพภายนอกของมาสคอตบาร์บีกอนเท่านั้น แต่เราคำนึงถึงปัจจัยสำคัญนั่นก็คือ เพื่อให้ผู้สวมใส่มาสคอตได้สามารถทำหน้าที่ตัวแทนของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ ผ่านชุดมาสคอตที่สวมใส่สบายขึ้น เคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ซึ่งแม้แต่รายละเอียดเล็กๆ เช่นนี้ เราก็ใส่ใจ เพราะเชื่อว่าจะสามารถส่งผลกับการส่งมอบจิตวิญญาณของบาร์บีกอนไปยังผู้สวมใส่ชุดมาสคอตได้ นอกจากนี้ ผู้ที่สัมผัสกับมาสคอตต้องรู้สึกได้ถึงความมีชีวิตชีวา ความน่ารักของบาร์บีกอน เพื่อให้บาร์บีกอนสามารถเป็นเพื่อนกับทุกๆ คน ได้มากที่สุด ดังนั้น จึงได้คัดเลือกวัสดุเสื้อผ้าและขนของตัวมาสคอสตที่นุ่มสบาย น่าจับ ทำให้รู้สึกเหมือนมีชีวิตจริงๆ
“แนวคิดสำคัญของเราก็คือ เราต้องการเป็นแบรนด์ที่จุดประกายให้คนคิดถึงช่วงวันเกิดของทุกคนว่า การที่เรามีอายุมาครบรอบอีก 1 ปี นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี และครบรอบปีนี้เราควรจะทำอะไรดีๆ เพื่อผู้อื่นด้วย ที่ผ่านมาเราเคยทำให้คนคิดถึงบาร์บีคิวพลาซ่ากับเรื่องราวดีๆ ของคลิปในช่วงวันแม่ ตอนนี้เราอยากจะให้คนคิดถึงบาร์บีคิวพลาซ่าในช่วงวันเกิดว่า เราจะทำอะไรดีๆ เพื่อผู้อื่นกันบ้าง สมกับการตั้งเป้าหมายว่าจะเป็น Brand Inspiration ให้แก่ผู้คน” คุณบุณย์ญานุช กล่าวย้ำถึงความตั้งใจสำคัญในโปรเจ็คนี้
ภาระกิจ #GONmission
และด้วยแนวคิดดังกล่าวนี้เอง บาร์บีคิวพลาซ่าจึงได้ทำโปรเจ็คต่อเนื่องจากวันเกิดของบาร์บีกอน โดยได้ปล่อยคลิปชื่อ “Gon mission ภารกิจบาร์บีกอน – BAR B Q PLAZA”ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนได้ร่วมกันทำสิ่งดีๆ คิดสิ่งดีๆ ร่วมกัน โดยเนื้อหาของคลิปจะเล่าถึงของขวัญพิเศษที่มอบให้บาร์บีกอนในวันเกิดเพื่อขอบคุณบาร์บีกอนที่อยู่เคียงข้างกับทุกคนมาตลอด ด้วยชุดมาสคอตใหม่ที่ผลิตจากโรงงานผลิต มาสคอตที่มีชื่อเสียงและผลิตมาสคอตด้วยความใส่ใจและจิตวิญญาณเพื่อให้มาสคอตที่ผลิตออกมาเป็นเสมือนสิ่งมีชีวิต เคลื่อนไหวได้อย่างมีอิสระ มีความสนุกสนาน ร่าเริง และที่สำคัญเพื่อให้บาร์บีกอนได้สามารถทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นได้ต่อไป พร้อมกับตำแหน่งใหม่ที่บาร์บีกอนได้รับ ในฐานะของ C.E.O. หรือ Chief Enjoyment Officerซึ่งจะทำหน้าที่สำคัญในการเป็นตัวแทนส่งมอบความสุขให้แก่ผู้คน ผ่านภารกิจแรกในวันเกิดของบาร์บีกอน คือ การชวนทุกๆ คนมาร่วมกันเสนอไอเดียของการทำเรื่องราวดีๆ เพื่อคนอื่น ผ่านช่องทาง www.facebook.com/BarBQPlazathailand พร้อมใส่ #GONmission
จากนั้นก็จะทำการคัดเลือกไอเดียเด็ด จำนวน 3 ไอเดีย มาทำจริง พร้อมมอบรางวัลกินฟรี 1 ปี มูลค่ารวม 24,000 บาท (เดือนละ 2,000 บาท เริ่ม พ.ย. 60 – ต.ค.61) รวม 3 รางวัล ให้แก่ เจ้าของไอเดียทั้ง 3 คน และที่สำคัญคือ เมื่อบาร์บีกอนทำภารกิจดีๆ ครบแล้ว ก็จะตั้งคำถามถามทุกคนว่า วันนี้วันเกิดคุณ คุณทำอะไรให้เพื่อคนอื่นบ้าง เพื่อจุดประกายและเชิญชวนให้เกิดการทำเรื่องดีๆ ต่อไป
และแน่นอน นอกเหนือจากของขวัญวันเกิดของบาร์บีกอนสำหรับลูกค้าบาร์บีกอนยังได้มอบของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ให้กับพนักงานร้านบาร์บีคิวพลาซ่า ในสาขาที่มีความดีเด่นทั้งด้านยอดขายและบริการ ด้วยการเพิ่มชั่วโมงพักให้พนักงานเพิ่มเติมอีก 1 ชั่วโมง รวมเป็น 2.5 ชั่วโมง ในวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่มีลูกค้าหนาแน่น จำนวนเดือนละ 2 ครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคมปีนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้บาร์บีกอนได้เป็นตัวแทนมอบรางวัลให้แก่สาขาดีเด่น ซึ่งถือเป็นการสร้างให้บาร์บีกอนมีความผูกพันกับพนักงานมากขึ้น
บทสรุปการสร้าง Character Marketing
สิ่งที่เห็นได้ชัดในการทำ Character Marketing ของบาร์บีคิวพลาซ่า คงไม่ใช่แค่การสร้างมาสคอตน่ารักๆ อย่างเดียว แต่มันคือการสร้างบุคคลิกที่เข้าถึงได้ ผ่านการสร้างงความผูกพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ทั้ง online และ on-gruond โดยตลอด 30 ปีที่ผ่านมา บาร์บีกอน ได้ทำหน้าที่ในการเป็นตัวแทนแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งทำให้การสื่อสารผ่านแบรนด์สู่ผู้บริโภคเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น และแม้แต่วิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับแบรนด์ ก็ทำให้รู้สึกดูซอฟท์ลงเมื่อการออกมาชี้แจงคือ บาร์บีกอน ไม่ใช่แบรนด์โดยตรงเสียทีเดียว ดังนั้น อาจจะพอบอกได้ว่า “บาร์บีกอน” คือกรณีศึกษาการใช้กลยุทธ์ Character Marketing ที่ประสบความสำเร็จในเมืองไทยซึ่งจากนี้ไปเราคงเห็นบทบาทที่มากขึ้นของ “ก้อน” อย่างแน่นอน ไปพร้อมๆ กับการเติบโตองบาร์บีคิวพลาซ่า ตลอดไป.
Copyright © MarketingOops.com