#บางกอกคณิกา ทำอะไร? ทำไมคนไทยจึงนับวันรอชม?

 

Talk of the town ทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์จริง ๆ สำหรับซีรีส์ฮอตในตระกูล oneD ORIGINAL อย่าง #บางกอกคณิกา ล่าสุด ซีรีส์ดาวรุ่งเรื่องนี้สามารถเคลมตำแหน่งแชมป์ X Trend อันดับ 1 ของโลกตั้งแต่ออกอากาศตอนแรกได้สำเร็จ เป็นความสำเร็จที่พิสูจน์ว่าเส้นทางการทำให้ซีรีส์ บางกอกคณิกา เป็นที่พูดถึงกันทั้งเมืองนั้นมาจากมูฟเมนต์การตลาดขั้นสุดที่หลากหลาย และทุกส่วนต้องเสริมกันลงตัวจนทำให้คนไทยนับวันรอชมซีรีส์คุณภาพเรื่องนี้กันถ้วนหน้า

ในส่วนโลกออนไลน์ ซีรีส์ บางกอกคณิกา จุดกระแสให้คอละครหลายคนตั้งตารอชมซีรีส์เรื่องนี้ด้วยการเป็นไวรัลแรงบนโซเชียลได้สำเร็จหลายครั้ง ตั้งแต่วลีเด็ดจากทีเซอร์เปิดตัวซีรีส์ที่กลายเป็นประโยคติดหูอย่าง “ฉันชอบจริง ๆ กะหรี่ที่มีความฝัน” ไปจนถึงคำพูดในบทของแม่ราตรีที่เป็นมีมดังในโซเซียลเพราะผู้คนนำเอาไปโคฟเวอร์ว่า “สายตาทุกคู่จงมองมา นี่คือดอกไม้งามที่ราคาแพงที่สุดของหอบุปผชาติ” ยังมีประโยคเด็ดจากสาวอิงฟ้า “กูบอกให้มึงกราบไง” ซึ่งหลายคนเอาไปเล่นต่ออย่างสนุกสนานจนมีการแชร์ต่อวงกว้าง ขณะเดียวกันก็มีการนำเอาแผ่นเสียงไปเล่นกันใน TikTok และการแต่งตัวตามตัวละครในเรื่อง กล่าวได้ว่าความฮอตของซีรีส์ได้กระจายไปยังทั่วทุกพื้นที่จริง ๆ รวมถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่นำมาเชื่อมโยงกับซีรีส์โดยตรง นั่นคือย่านสำเพ็งที่มีการขึ้น “ม่านแดง” ใจกลางย่านการค้าที่คนไทยรู้จักดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมูฟเมนต์สำคัญที่ช่วยเพิ่มดีกรีให้ oneD ORIGINAL มีโอกาสสร้างอิมแพค สู่การเปิดศักราชใหม่ของคอนเทนต์สัญชาติไทยในมุมที่คนไทยไม่เคยเห็นมาก่อน

 

 

ตรงนี้ต้องยกความดีให้ก้าวใหญ่ของ บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ที่ปีนี้ที่ได้แจ้งเกิด oneD ORIGINAL บนหลักการว่าจะแพร่ภาพซีรีส์ใหม่ 5 เรื่องในแอป oneD พร้อมกับการออกอากาศทางช่องวัน ถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ ที่ตามปกติแล้ว แอป oneD มักใช้เป็นช่องทางการรีรันละคร แต่ยังวางแผนใช้ความได้เปรียบของการเป็นแอปที่ไม่มีข้อจำกัดเหมือนทีวี ทำให้ซีรีส์ในแอป oneD จะเป็นฉบับ Uncut เรียกว่าฉากไหนที่ฉายในทีวีไม่ได้ ก็จะมาอยู่ในแอปนี้ ซึ่งความที่ บางกอกคณิกา เป็น 1 ใน 5 ซีรีส์ที่จะถูกฉายทั้งแบบเวอร์ชัน UNCUT และเวอร์ชัน TV ผู้ชมจึงรู้สึกว่าซีรีส์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องที่ยังไม่มีใครเคยเล่า โดยเฉพาะแง่มุมคมคายและรุนแรงที่ทีเซอร์ได้เผยให้เห็น ซึ่ง oneD ORIGINAL จะเป็นผู้กล้าที่จะฉีกกฎและเผยให้ทุกคนได้สัมผัส บนโปรดักชั่นยิ่งใหญ่ระดับหนังภาพยนตร์ 

 

แรง กล้า เยี่ยม ทำถึง ทำเกิน

หากถามว่าอะไรคือส่วนแรกที่เหมือนเป็นการลั่นกลองเรียกคนมามุง และสามารถดึงดูดสายตาในช่วงแรกที่โปรเจ็กต์บางกอกคณิกาถูกเปิดตัว คำตอบอาจต้องยกให้ไอเดียครีเอทีฟที่นำไปสู่การเล่นคำจาก “ช่องวัน” เป็น “ซ่องวัน” เพื่อโปรโมทซีรีส์บางกอกคณิกาอย่างเป็นทางการด้วยแฮชแท็ก #ซ่องone ที่บางคนนึกว่าทีมงานเผลอพิมพ์ผิด

ประเด็นนี้น่าสนใจ เพราะการลงทุนเปลี่ยนช่องวันให้เป็น “ซ่องวัน” นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คนภายนอกองค์กรสามารถสัมผัสได้ว่านอกจากทุ่มเงินซื้อสื่อเพื่อโปรโมท แต่ช่องวันยังให้ความสำคัญกับไอเดียครีเอทีฟทางการตลาดในมุมนี้ด้วย เป็นก้าวที่สื่อถึงการทุ่มสุดตัวอย่างแท้จริงเพื่อแจ้งเกิดซีรีส์ oneD ORIGINAL แสดงให้เห็นความใจเด็ดและใจถึง จนต้องยอมใจคน Approve ไอเดีย

 

 

ส่วนต่อมาหนีไม่พ้นตัวทีเซอร์ทรงพลัง ซึ่งส่งให้บางกอกคณิกามีภาพเป็นซีรีส์ที่มีบทแรงเนื้อหาเข้มข้นสะท้อนสังคม กลิ่นอายความ “ทําถึง” ที่ออกมาจากทีเซอร์ ทำให้ผู้ชมหลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากติดตามและชวนกันรอลุ้นว่าในขณะที่ช่องวันเล่นใหญ่ขนาดนี้ในทีเซอร์ แล้ว “ซีรีส์จริง” จะขนาดไหน ในอีกด้าน พลังการโพสต์ของเหล่าดารานักแสดง / อินฟลูเอนเซอร์ และรวมถึงผู้อยู่ในวงการ อย่างป๊าเต็ด ก็ยิ่งเพิ่มกระแสความอยากดูซีรีส์ บางกอกคณิกา และมีการโยงปรากฎการณ์การ “เปิดซ่อง” เข้ากับเรื่องราวที่มาของบางกอกคณิกา ในมุมที่เกี่ยวกับชีวิตกลุ่มโสเภณีในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีเหตุต้องทำให้ลุกขึ้นสู้ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีความเป็นคน

พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์ หนึ่งในผู้สร้างสรรค์บทซีรีส์ บางกอกคณิกา เล่าว่าที่มาของซีรีส์แซ่บเรื่องนี้คือความตั้งใจสะท้อนเรื่องราวของผู้หญิงในมุมที่เป็นสากล ในขณะที่สามารถสร้างการรับรู้ได้ว่าเป็นคอนเทนต์ไทย คำตอบของโจทย์นี้จึงมาออกที่การสร้างละครพีเรียด ซึ่งเมื่อลงมือค้นหาข้อมูล จึงได้พบเนื้อหากฏหมายตราสามดวง ที่ระบุว่าห้ามบุคคล 33 จำพวกขึ้นเป็นพยานในศาล โดยหนึ่งในจำพวกนั้นคือโสเภณี ข้อมูลนี้ทำให้ “สันต์ ศรีแก้วหล่อ” ผู้กำกับภาพยนตร์รู้สึกอินเต็มที่ และตั้งใจทุ่มศักยภาพเพื่อพาผู้ชมไปเข้าใจหัวอกของโสเภณี ผู้เป็นคนชั้นล่างที่สังคมยุคนั้นไม่ยอมรับ ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตเทียบเท่ากับคนในสังคมแม้โสเภณีจะเสียภาษีถูกต้อง โดยโสเภณีไม่เพียงมีความรักไม่ได้ แต่ยังเรียนหนังสือไม่ได้ ไม่ได้รับความยุติธรรม และมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ เชื่อว่าผู้ชมจะพร้อมเอาใจช่วยโสเภณีที่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยด้อยค่า และพยายามหาวิธีที่ทำให้ตัวเองได้ขึ้นไปอยู่เทียบเท่ากับคนอื่น แบบไม่ต้องเหนือกว่าใคร แต่ขอแค่ใช้ชีวิตและมีความฝันได้เหมือนคนธรรมดาก็พอ

 

 

Trailer การันตี Production Value

Production Value เป็นส่วนสำคัญที่ดึงดูดให้คนไทยรอชมซีรีส์ บางกอกคณิกา โดยเฉพาะส่วนของนักแสดงที่หลายคนบอกเลยว่าอยากตั้งตาดูบทบาทการแสดงใหม่ของ อิงฟ้า วราหะ, ก้อย อรัชพร, ชาร์เลท วาศิตา รวมถึงนักแสดงฝีมือเทพอย่าง อ้อม พิยดา และนก ฉัตรชัย ขณะเดียวกัน เทรเลอร์ของซีรีส์ บางกอกคณิกา ที่ถูกปล่อยออกมาถัดจากทีเซอร์ ยังสะท้อนโปรดักชันสุดยิ่งใหญ่ ทั้งความพิเศษของการสร้างสรรค์ในส่วนบท / การเล่าเรื่องที่แปลกใหม่, Conceptual Design, การเนรมิตฉากสุดยิ่งใหญ่ รวมถึงส่วนการถ่ายทํา (Cinematography) และการออกแบบเครื่องแต่งกาย ที่ใช้ทุนสร้างมากกว่าที่เคยทํามา

 

 

เหตุผลที่ทำให้ Production Value ของซีรีส์ บางกอกคณิกา น่าจับตาเป็นพิเศษคือการเป็น oneD ORIGINAL ที่ช่องวันการันตีว่าทุกคนจะได้รับชมภาพที่ออกแบบมาอย่างตั้งใจ ซึ่งเป็นการออกแบบที่เสริมให้ซีรีส์แต่ละเรื่องเต็มไปด้วยอรรถรสจนไม่อาจละสายตาไปได้

พวัสส์ สวัสดิชัยเมธ Conceptual Designer ผู้สร้างสรรค์งานภาพให้ซีรีส์ บางกอกคณิกา บอกว่าตัวเองมีหน้าที่ทำให้ภาพสามารถเล่าเรื่องได้แม้ผู้ชมจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ซึ่งสำหรับซีรีส์ บางกอกคณิกา สิ่งที่มีอิทธิพลกับภาพมากที่สุดคืออุณหภูมิสีของแสง ทั้งหมดนี้พวัสส์ได้รีเสิร์ชมาอย่างเข้มข้น และตั้งใจทำซีรีส์ไทยให้ออกมามีมาตรฐานเทียบเท่ากับซีรีส์ของต่างประเทศ

ซีรีส์ บางกอกคณิกา ยังขนมาทุกตัวปังของวงการเพื่อเพิ่มคุณภาพงาน ทั้งงานกำกับภาพในซีรีส์ บางกอกคณิกา ที่ได้ เปีย – ธีระวัฒน์ รุจินธรรม ซึ่งเป็นมือโปรระดับประเทศที่การันตีคุณภาพการจัดแสงอย่างทุ่มเท ขณะเดียวกัน แฟนคลับบางคนของศิลปินสาวดาวรุ่งอย่าง “มิลลิ” ยังแอบได้ยินเสียงเอกลักษณ์ใน Trailer ซีรีส์นี้ด้วย ซึ่งทุกคนจะได้เห็นแนวเพลงแปลกใหม่และไม่เคยฟังจากมิลลิมาก่อน

 

“ม่าน แดง” โผล่กลางสําเพ็ง

 

ถัดจากการปล่อยเทรลเลอร์ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทีมโปรโมทซีรีส์ บางกอกคณิกา คือการทำการตลาดด้วยม่านสีแดง โดยเนรมิต “ม่าน แดง” ขึ้นบิลบอร์ดกลางสําเพ็ง ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นย่านโลกีย์ในตํานาน และมีการรูดม่านเปิดผ้าในวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งบนม่านมีข้อความว่า “ณ ที่แห่งนี้ เคยมีเรื่องโลกีย์ซ่อนอยู่” ทำให้ใครผ่านไปมาล้วนอยากรู้ว่าม่านแดงและข้อความนี้มีความหมายอย่างไร บิลบอร์ด OOH นี้จึงสามารถจุดประกายให้เกิดการเล่าขานถึงย่านธุรกิจสีเทาใน กทม. ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ที่ไทยเริ่มทำการค้ากับชาวจีน ทำให้คนรุ่นใหม่รู้ว่าสำเพ็งไม่เพียงเป็นตลาดขายส่งสินค้าหลายอย่าง แต่ยังขึ้นชื่อในเรื่องโสเภณี เป็นที่มาของคำว่าอีสำเพ็ง ที่เป็นคำด่าหญิงโสเภณีในสมัยนั้นด้วย

 

 

การใช้พื้นที่สำเพ็งเป็นจุดทำ OOH นั้นมีอิมแพคสูงมาก จากทีเซอร์ที่ฉายว่าบางกอกคณิกาเป็นเรื่องราวที่อิงถึงประวัติศาสตร์ย่านสําเพ็ง เกร็ดน่ารู้เรื่องอาชีพโสเภณีในพื้นที่ใจกลางเมืองจึงถูกหยิบขึ้นมาเล่าเพื่อเสริมกับประเด็นความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม และการต่อสู้ เพื่อปลดแอกในโลกปัจจุบันได้อย่างน่าสนใจ  ตรงนี้จึงเป็นเคสกรณีศึกษาได้ชัดว่า การวางโฆษณา OOH ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับซีรีส์ จะช่วยสร้างความรู้สึกมีส่วนร่วมและเชื่อมโยงสำหรับผู้ชมที่คุ้นเคยกับพื้นที่เหล่านั้น นำไปสู่การเพิ่มอิมแพคทางการตลาด และต่อยอดการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

สรุปแล้ว ม่านแดงที่สำเพ็งกลายเป็นเครื่องมือการตลาดทรงพลังที่ช่วยให้ผู้ชมเห็นภาพและเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมของซีรีส์ได้ดีขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันก็ยังเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ oneD ORIGINAL กลายเป็นแรงกระเพื่อมที่ไม่รู้จบถึงช่วงที่ซีรีส์ออนแอร์ได้ ซึ่งนอกจากม่านแดงที่สำเพ็ง ซีรีส์นี้ยังมีการทำ Banner ไอเดียสุดซี้ดทางเว็บไซต์ชื่อดังที่กระตุ้นให้เกิดปรากฏการณ์รอชมและเข้าชมจริง ส่งให้ ซีรีส์ บางกอกคณิกา สามารถเคลมตำแหน่งแชมป์ X Trend อันดับ 1 ของโลก ตั้งแต่ออกอากาศตอนแรกครั้งหลังจากที่เคยทำได้ในงาน Meet&ซี้ด รวมแล้ว #บางกอกคณิกาMeetandซี้ด และ #บางกอกคณิกาep1 ต่างได้ขึ้นเทรนด์ worldwide อันดับ 1 ทั้งคู่ด้วยจำนวนโพสต์เกิน 1 ล้านครั้ง ทุบสถิติติดเทรนด์อย่างต่อเนื่อง จากพลังของแฟนซีรีส์

 

 

ใครอยากร่วมเอาใจช่วย 3 คณิกาใน #บางกอกคณิกา สามารถรอชมเลยแบบไม่เสียเวลาเพราะ Limited Series 8 ตอนเท่านั้น ออกอากาศทุกวันพุธ – พฤหัสบดีเวลา 20:30 น. ติดตามชมทางช่องวัน 31 เวอร์ชัน TV หรือทางแอป oneD เวอร์ชัน UNCUT ดูพร้อมกันกับ #oneDoriginal ได้เลย.