[ข่าวประชาสัมพันธ์]
เอ่ยถึงทองคำก็ต้องนึกถึง ออโรร่า ห้างเพชรทองที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 50 ปี เป็นแบรนด์ที่สร้างความน่าสนใจให้กับตลาดร้านทองคำให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง ชนิดที่ทุกแบรนด์ต้องหันกลับมามอง
ใกล้ถึงเทศกาลแห่งความสุข ของขวัญที่มีคุณค่าที่จะส่งมอบและยังทรงคุณค่าตลอดกาล คือ ทองคำ ห้างเพชรทองออโรร่า จึงได้เปิดตัวแคมเปญ “จับได้เท่าไร ก็เต้นเท่านั้น” คราวนี้จัดใหญ่จัดเต็มกว่าทุกครั้ง ที่ผ่านมาที่ถือว่าแปลกและแตกต่างแล้ว ครั้งนี้จัดใหญ่ยิ่งกว่า เพื่อฉลองความสำเร็จยอดขาย 10 ล้านชิ้น ด้วยการแจกของขวัญเป็นส่วนลดมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท ตอบแทนลูกค้าให้จับคูปองฟรี! ลุ้นส่วนลดค่ากำเหน็จกว่า 40-90% ที่ห้างเพชรทองออโรร่าทุกสาขาทั่วประเทศ ลูกค้าทุกท่านสามารถรับส่วนลดเพิ่มเติมได้อีก โดยเต้นให้สนุกไปตามจังหวะเพลงที่หน้าสาขา ถือเป็นการนำ Music Marketing มาประยุกต์ใช้ทางอ้อมเพื่อสร้าง engagement ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมี Dance Mob ไปตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อส่งมอบความสุขผ่านสิทธิพิเศษมากมายให้ลูกค้าทุกคน เจอ Dance Mob ที่ไหน ลูกค้าทุกท่านก็สามารถร่วมสนุกผ่านการเต้นเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ เพื่อเป็นของขวัญในการเฉลิมฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ยาวไปถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565 ด้วยงบการตลาดรวมกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการทุ่มบุกตลาดในครั้งนี้แบบเต็มรูปแบบผ่านกิจกรรมการตลาดทั้ง Above the line และ Below the line ครอบคลุมทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ผ่าน KOL ชื่อดังใน Tiktok ที่จะมาช่วยสร้างสีสันทำให้แคมเปญน่าสนใจและติดตลาดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ที่เป็นช่วงที่ใครหลายคนมองหาของขวัญเพื่อส่งต่อความสุขให้แก่ผู้อื่น ออโรร่าจึงเสนอทองคำให้เป็นทางเลือกแรกที่ไม่เสื่อมค่าตามกาลเวลา ผ่านทองคำแท่ง ทองรูปพรรณและทองดีไซน์ ที่นำทองไปขึ้นรูปเป็นสร้อยข้อมือ พวงกุณแจ กรอบรูป พู่ห้อย ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป
ถอดแนวคิดรูปแบบการทำตลาดของออโรร่าแล้ว คือการคิดที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างเป็นระบบ ด้วยการดีไซน์ให้แตกต่างในทุกกระบวนการผลิตส่งผ่านไปถึงสินค้าไปสู่มือลูกค้าทุกคน ทองคำและเครื่องประดับจากออโรร่าทุกชิ้นจึงคือความคิดที่ตั้งใจทำให้แตกต่าง ทำให้สวมใส่สบาย ดีไซน์ไม่ซ้ำใคร มากกว่านั้นคือการคิดทำตลาดในเชิง Consumer Product ต่างจากร้านทองรุ่นคุณตาคุณยายทุกแบรนด์ในตลาด ออโรร่าทำตลาดผ่านแนวคิด Retail Marketing ที่หยิบเอารูปแบบทำตลาดค้าปลีกมาใส่แนวคิดนี้ลงไป ทำให้แบรนด์ออโรร่าดูโดดเด่นในตลาดทองคำและเครื่องประดับเป็นอย่างมาก เริ่มจากชื่อแบรนด์ที่กล้าฉีกทุกกฎ ทุก mindset ของลูกค้าที่เมื่อต้องการซื้อทอง มักนึกถึงแบรนด์ที่มีภาษาจีน ต้องไปซื้อที่เยาวราช ต้องเป็นร้านสีแดง ต้องต่อราคา ได้เปรียบบ้างเสียเปรียบบ้าง ออโรร่ากล้าหยิบเอา Pain points เหล่านี้ที่ทุกร้านทองใช้ทำตลาดมายาวนาน มาเขียนการตลาดร้านทองบทใหม่ เริ่มตั้งแต่ใช้ชื่อแบรนด์เป็นภาษาอังกฤษ ในชื่อ ออโรร่า ตกแต่งและทำรูปแบบร้านให้ทันสมัย เน้นสีส้ม สินค้าทุกชิ้นมีป้ายราคาบอกชัดเจน รวมทั้งฉีกกฎทำตลาดด้วยรูปแบบการทำตลาดผ่านเทศกาลและทุกโอกาสสำคัญ (Seasonal Marketing) ด้วยการวางคอนเซปท์ให้แบรนด์ออโรร่า เป็นของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า สามารถเลือกซื้อได้ในทุกโอกาสและเทศกาล
ออโรร่า เริ่มบุกเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรดเป็นรายแรก จนทำให้วันนี้มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 230 สาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำรองรับลูกค้าสมาชิกกว่า 1 ล้านราย และครองความเป็นเจ้าตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่องด้วยรางวัลการันตีจาก Market Place ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, JD เหล่านี้ล้วนคือเครื่องหมายแห่งความสำเร็จที่วันนี้ การทำตลาดทองคำ ใช่ว่าต้องทำตลาดเหมือนอย่างเดิมๆ ที่ผ่านมาด้วยคุณภาพมาตรฐานทองคำระดับโลกที่การันตีให้ผู้ซื้อทุกคนมั่นใจด้วยใบรับประกันถึง 3 ใบ จึงเชื่อได้ว่าออโรร่าถือเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์เดียวที่กล้ารบกับทุกแบรนด์ระดับโลกด้วยรางวัลที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น World Branding Award จากสหราชอาณาจักรที่เพิ่งได้รับรางวัลถึง 5 ปีซ้อน และรางวัลระดับประเทศมากมาย ทั้ง Top Company Award, Thailand Zocial Award, Product Of The Year, Product Innovation เป็นต้น มากกว่าความมั่นใจคือการก้าวที่กล้าทำให้ทองคำไม่ใช่เพียงทองคำอีกต่อไป
จากแนวคิดที่กล้าต่างในการทำตลาดคือความสำเร็จของผู้บริหารโดยเฉพาะหัวเรือใหญ่อย่าง นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม CMO New Gen ที่หาตัวจับได้ยาก ที่ใส่ไอเดีย กล้าฉีกทุกกฎ มองตลาดอย่างแตกต่างอย่างมีชั้นเชิง ลบภาพเดิมๆ ของร้านทองรุ่นอากงอาม่าไปแบบไม่เหลือซาก ที่สำคัญคือความตั้งใจและใส่ใจในทุกรายละเอียดของการทำตลาดอย่างแท้จริงผ่านการจัดเก็บฐานข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ ใช้ Big Data มาประยุกต์เพื่อเข้าใจในความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ความสำเร็จในวันนี้ของออโรร่าจึงคือความสำเร็จที่ไม่ได้มาแบบฟลุคๆ หรือแค่อยู่ในตลาดมานาน แต่คือความสำเร็จที่เขียนขึ้นมาด้วยมือของผู้บริหารรุ่นใหม่ของออโรร่าเองทั้งสิ้น ไม่มีความบังเอิญในทุกก้าวที่ทำตลาดของออโรร่า และคงไม่มีแบรนด์ไหนจะมาเทียบชั้นเชิงนี้ได้
ออโรร่ากล้าคิดให้ต่าง จึงก้าวล้ำนำทุกแบรนด์ในตลาดตั้งแต่เริ่มคิด จึงไม่น่าแปลกใจ ที่วันนี้ออโรร่าจะเป็นแบรนด์ร้านทองแบรนด์เดียวในใจในใจของลูกค้าทุกคน ที่แม้แต่ทุกร้านทองต้องคอยจ้องเลียนแบบในทุกก้าว
..เมื่อคิดจะซื้อของขวัญสักชิ้น ทองคำก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยคุณค่าและราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไป
[ข่าวประชาสัมพันธ์]