หากพูดถึงโลกของการผลิตคอนเทนต์ HBO ดูท่าจะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของการเป็น Content Creator ที่ประสบความสำเร็จในตอนนี้ จากการผลิตซีรีส์ที่ตีตลาดได้ทั่วโลกอย่าง Game of Thrones ซึ่งทำรายได้อย่างมหาศาลให้บริษัท รายงานล่าสุดจาก The Wall Street Journal เผยว่า Apple.Inc ยอมอัดงบกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเตรียมโดดลงมาเป็นผู้ผลิตคอนเทนท์ด้วยตัวเองในปีหน้า สะท้อนให้เห็นว่า ณ ตอนนี้อุตสาหกรรมการผลิตคอนเทนท์กำลังทวีมูลค่าและเติบโตต่อเนื่อง
เริ่มทันที ต้นปี 2018
ในช่วงต้นปี 2018 จะเริ่มนำร่องก่อนด้วยสองรายการ คือ ‘Carpool Karaoke’ และ ‘Planet of the App,’ ซึ่งจะเปิดตัวใน Apple Music แพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ของ Apple และจะมีรายการทีวีอื่นๆกว่าอีก 10 รายการที่จะปล่อยตามมาติดๆ แน่นอนว่ามาในรูปแบบ Streaming Video โดยทั้งนี้รายงานของ WSJ ได้เผยถึง นาย Eddy Cue – SVP ของ Apple ซึ่งได้เผยว่ามีการวางเป้าที่จะปล่อยคอนเทนท์พีคๆที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับ Game of Thrones ของ HBO ออกมาฉายทาง Streaming ของ Apple ด้วย
ย้อนไปช่วงมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการประกาศความร่วมมือกันระหว่าง Sony Pictures TV และ Apple.Inc เพื่อลุยสร้างออริจินัลคอนเทนท์ของ Apple โดยดึงตัวอดีตผู้บริหารใหญ่จาก Sony คือ Jamie Erlicht และ Zack Van Amburg มาร่วมบริหารด้วย
Jamie Erlicht และ Zack Van Amburg – อดีตประธานบริหาร Sony Pictures Television
1,000 ล้านเหรียญดูเยอะก็จริง แต่ยังสู้ Netflix และ Amazon ไม่ได้
แม้ Apple.Inc จะทุ่มให้คอนเทนต์ถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ดูเหมือนว่าจะยังเทียบไม่ได้กับ Amazon Prime Video และ Netflix
ช่วงต้นปี 2013 Amazon เริ่มโปรเจค Amazon Prime Video เพื่อสร้างคอนเทนท์ของตัวเอง และมีรายงานว่าแพลนจะทุ่มงบอีกกว่า 4,500 ล้านเหรียญกับโปรเจคนี้ในปี 2017 ส่วน Netflix เองก็ทุ่ม 6,000 ล้านเหรียญกับการผลิตคอนเทนท์ในปีนี้เช่นเดียวกัน ดูเหมือนว่าบริษัทยักษ์ใหม่หลายเจ้ากำลังมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิต Original Content โดยแต่ละเจ้าต่างมีหมัดเด็ดของตัวเอง ย้ำชัดว่าสนามคอนเทนท์ระดับโลกกำลังดุเดือดและทวีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกับศึกการแย่ง eyeballs ของคนดู ประโยชน์ตกมาที่ผู้ชม นอกจากจะเป็นเรื่องของธุรกิจแล้ว ผลที่เกิดขึ้นยังเสมือนเป็นการผนวกคนทั้งโลกใ้ห้ใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วยวัฒนธรรมความบันเทิงแบบเดียวกัน ง่ายๆว่าเพจ Official ของ Games of Thornes ในตอนนี้ และยังมีตัวเลือกความบันเทิงที่หลากหลายขึ้นด้วย จับตาดูกันต่อว่าธุรกิจขาใหม่ของ Apple.Inc จะเป็นอย่างไร จะรุ่งหรือจะแป้กรอชมกันในปีหน้า
แหล่งข้อมูล: WSJ
แหล่งข้อมูล: TechCrunch