เพื่อเป็นการร่วมฉลองเดือนแห่งการครบรอบ 10 ปี ของแอปสโตร์ เอเจนซี่แถวหน้าเรื่องการการพัฒนาแอปพลิเคชัน ในประเทศไทย ได้สรุปแนวโน้มตลาดโมบายล์แอปพลิเคชัน ในธุรกิจประเภทต่างๆ จาก 20 อันดับแอปพลิเคชันยอดนิยมในรอบ 10 ปีของแอปสโตร์
การจัดอันดับครั้งนี้เป็นการจัดอันดับจากยอดดาวน์โหลดแอปของธุรกิจในประเทศไทยเท่านั้น ไม่รวมแอปพลิเคชันประเภทเกม และข้อมูลทั้งหมดของการจัดอันดับครั้งนี้ ถูกรวบรวมโดย App Annie บริษัทด้านวิเคราะห์การใช้งานแอปพลิเคชัน (app analytics) รวมทั้งเก็บข้อมูลทางการตลาดของแอปพลิเคชันทั่วโลก
ซึ่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แอปสโตร์ สามารถทำยอดดาวน์โหลด จากผู้ใช้ทั่วโลกไปแล้วกว่า 170 พันล้านครั้ง หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 130 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ บริษัทแอปเปิลเปิดตัวแอปสโตร์ (App Store) สำหรับดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่านสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรกเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมปี 2008 ซึ่งในเวลานั้น น้อยคนที่จะรู้ว่าในอนาคตสิ่งนี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก
ซึ่งถ้าย้อนกลับไปในยุคบุกเบิกของแอปพลิเคชัน สมาร์ทโฟน ถือเป็นสินค้าราคาแพงสำหรับลูกค้ากลุ่มบน แต่ปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าถึงสมาร์ทโฟนได้ จากการแข่งขันของแบรนด์ผู้ผลิต ที่เน้นขยายตลาดด้วยการผลิตสมาร์ทโฟนในราคาจับต้องได้ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่มทั่วโลก
ขณะเดียวกันไทยก็อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศที่มีการใช้โทรศัพท์มือถือมากที่สุดในโลก และยังเคยอยู่ในอันดับ 1 ของการทำตลาดผ่านมือถือเป็นช่องทางหลัก (mobile-first market) เมื่อปี 2558 จากผลสำรวจของ Google’s 2015 Consumer Barometer ด้วย
จึงไม่น่าแปลกใจว่า สมาร์ทโฟนจะมีขายกันแพร่หลาย กระทั่งในร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น-อีเลฟเว่น
ผลของการจัดอันดับ สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของแอปพลิเคชัน ในแต่ละธุรกิจตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
ทั้งธุรกิจรายการโทรทัศน์ ธุรกิจกลุ่มธนาคาร ที่มีแนวโน้มชัดเจนเพื่อเดินหน้าไปสู่การใช้จ่ายแบบไร้เงินสด รวมทั้งกลุ่มธุรกิจร้านค้า และ ร้านอาหาร ที่เน้นการแชร์ประสบการณ์การใช้บริการ ระบบสะสมแต้ม (loyalty program)
เรียกได้ว่าโมบายล์แอปพลิเคชัน มีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทยเป็นอย่างมากตลอดระยะเวลา10 ปีที่ผ่านมา แถมยังมีแนวโน้มมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง
มิสเตอร์โรเบิร์ต แกลลาเกอร์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการบริษัทแอ๊พซินท์ ให้ความเห็นว่า กว่า 71% ของคนไทยในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชันเข้ามามีบทบาทอย่างมาก ในการเปลี่ยนรูปแบบการซื้อสินค้าและบริการ
รวมทั้งการติดต่อสื่อสารกับแบรนด์ไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค
“ด้วยเหตุนี้ธุรกิจชั้นนำด้านต่างๆ จึงหันมาใช้โมบายล์ เป็นช่องทางหลัก ในการส่งเสริมธุรกิจบนโลกดิจิทัล” เขากล่าว
กลุ่มแบงก์หาที่ยืน จากการรุกของฟินเทค-สตาร์ทอัพ
จากแนวโน้มตลาดโลกปัจจุบัน ธุรกิจกลุ่มธนาคาร ต่างต้องเผชิญหน้ากับการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาด ให้กับคู่แข่งที่ทุ่มการ ลงทุนบน ดิจิทัลแพลตฟอร์ม เป็นหลัก รวมทั้งกลุ่ม ฟินเทค สตาร์ทอัพ หรือกลุ่มผู้พัฒนา โซลูชั่นทางการเงิน ขนาดเล็ก ที่พยายามเข้ามามีบทบาท ยึดพื้นที่ให้บริการด้านการเงิน แทนกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินในรูปแบบเดิม
เช่น เสนอทางเลือกของ mobile payment หรือการใช้จ่ายเงินผ่านมือถือ ผู้บริโภคสามารถเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) ใช้ซื้อสินค้าและบริการโดยไม่ต้องใช้เงินสด
เทคโนโลยีดังกล่าว ถือเป็นการตัดระบบการให้บริการของธนาคารแบบเดิมๆ ออกจากวงจรการใช้งานของผู้บริโภค แต่ละธนาคารก็สามารถรับมือสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
เช่น เร่งลงทุน-พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มของตนเอง ในช่องทางต่างๆ ทำการร่วมมือกับกลุ่ม ฟินเทค สตาร์ทอัพ ในการคิดค้นสินค้า หรือบริการรูปแบบใหม่ๆ ตอบรับการใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภคในอนาคต ทำให้ทั้ง ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ครองตำแหน่ง 2 ในอันดับแอปพลิเคชันยอดนิยมจากทั้ง 20 อันดับ
คุณพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า จุดแข็งที่ทำให้ K PLUS แตกต่างจากแอปของธนาคารอื่นคือ การให้ความสำคัญในการใช้งานแบบโมบายล์เฟิร์ส เน้นสร้างประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ ผ่าน Personalization ฟีเจอร์ ที่ถูกออกแบบเพื่อมาตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคที่หลากหลาย
“โดยธนาคารกสิกรไทย มุ่งมั่นที่จะพัฒนาแอปพลิเคชัน ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นกว่าเดิมในปีต่อๆไป เพื่อให้ K PLUS คงความเป็นแอปที่ตอบสนองดิจิตอลไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในทุกๆ วัน”
ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ก็เห็นว่ากลยุทธ์การตลาดแบบ Personalization (การปรับแต่งคุณสมบัติในแอปให้ตรงตามความชอบของแต่ละบุคคล) นั้น เป็นส่วนสำคัญของการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภค โดยการใช้โมบายล์เป็นช่องทางหลักในการให้บริการ
คุณธนา โพธิกำจร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสาย Digital Banking กล่าวว่า SCB EASY ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ เชื่อมโยงทางการเงินทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความสำเร็จของ SCB EASY คือ บทพิสูจน์ของความทุ่มเท ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ที่สามารถรองรับพฤติกรรมการใช้งาน และความต้องการของผู้บริโภคอย่างรอบด้าน
“เราเล็งเห็นว่า ผู้บริโภคไม่ได้เจาะจงการใช้งานเพียงช่องใดช่องหนึ่ง แต่จะเลือกใช้งานบนช่องทางที่สะดวกที่สุดในขณะนั้น เราจึงต้องสร้างทางเลือก ของการใช้บริการที่หลากหลาย รองรับการใช้งานของผู้บริโภคทุกที่ทุกเวลา”
แพลตฟอร์มโดนใจคนไทย
ส่วน Alternative banking หรือกลุ่มทางเลือกใหม่ ของผู้ให้บริการด้านการเงิน ที่เริ่มมีบทบาทสำคัญ แทนที่ธุรกิจการเงินแบบเดิมๆ อาทิ
TrueMoney Wallet ผู้ครองอันดับ 5 ของชาร์ต ถือเป็นผู้นำของการให้บริการ ใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลในประเทศ เช่น การใช้จ่ายในร้านค้า การจ่ายบิลด้วยการแสกน แม้แต่การเติมเงินโทรศัพท์มือถือ ก็สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันเดียวกันนี้ได้
นอกจากการเติมเงินเข้า TrueMoney Wallet ด้วยเงินสด ผู้มีบัญชีธนาคาร ก็สามารถผูกบัญชีกระเป๋าเงินดิจิทัลกับบัญชีธนาคาร เพื่อใช้การเติมเงินแบบอัตโนมัติได้อีกด้วย ถือเป็นทางเลือกใหม่ของการใช้บริการด้านการเงิน ที่สะดวกสบายกว่าการใช้บริการกับธนาคารแบบเดิมๆ
อันดับ 4 ของชาร์ต ถือเป็นอีกหนึ่งอันดับที่น่าสนใจ เพราะเป็นเพียงแอปพลิเคชันเดียว ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักพัฒนาอิสระ และกลายเป็นแอปยอดนิยมของคนไทยทั่วประเทศในที่สุด นั่นก็คือ TV Thailand
TV Thailand คือแอปให้บริการรับชมละครฮิต การ์ตูน หรือมิวสิกวิดีโอ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ผลสำรวจระบุว่ากว่า 51% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนของไทย ดูวิดีโอผ่านโทรศัพท์มือถือทุกวัน
81% ดูอย่างน้อยหนึ่งครั้ง/สัปดาห์
จึงไม่น่าแปลกใจ ที่แอปผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่ง จะติด 20 อันดับยอดนิยม ถึง 4 แอปด้วยกัน
หนึ่งในนั้นคือ Thai TV3 app ซึ่งตอนนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Mello ซึ่งเป็นเพียงแอปเดียวที่ ถ่ายทอดคอนเทนต์โดยตรงจากผู้ผลิตรายการทีวีชั้นนำของประเทศ
นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า การที่จะผลิตแอปพลิเคชัน ให้ประสบผลสำเร็จได้ในตลาดนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการลงทุนที่มหาศาล หรือความยิ่งใหญ่ของธุรกิจ แต่จะขึ้นอยู่กับการให้บริการกับผู้บริโภคอย่างตรงจุด
ส่วน Wongnai 1 ใน 2 สตาร์ทอัพที่ทำตลาดผ่านมือถือเป็นช่องทางแรก (mobile-first startups) ที่ติดอันดับ 20 แอปยอดนิยม ซึ่ง Wongnai เกิดในปี 2553 จากอินดี้แอปรวบรวมข้อมูลร้านอาหารในประเทศไทย วันนี้ก็ประสบความสำเร็จเป็นกูรูร้านอาหารอันดับ 1 ในไทย มียอดดาวน์โหลดสูงอันดับ 9 ใน 10 ปีที่ผ่านมา
คุณยอด ชินสุภัคกุล ซีอีโอ วงใน กล่าวว่า สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดของแอพ วงใน คือ ช่วยให้ผู้ใช้งาน ค้นหาร้านอาหารชื่อดังในละแวกใกล้เคียงได้อย่างทันที เป็นฟีเจอร์ที่ทุกคนชื่นชอบ เพราะตอบโจทย์ความต้องการได้จริงๆ
อีกหนึ่ง mobile-first startup ในชาร์ตก็คือ Kaidee ที่เป็น แอปตลาดมือสอง บนดิจิทัลแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งกว่า 50% ของผู้เข้าชมแพลตฟอร์มต่อเดือน คือผู้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน มากถึง 30 ล้านครั้ง
นี่คือเหตุผล ที่ทำให้แอปนี้ติดอันดับ 8 ใน 20 อันดับต้น โดยมียอดดาวน์โหลดทั้งหมดกว่า 12 ล้านครั้ง แอป Kaidee ถือเป็นหัวใจ หลักในการเติบโตที่รวดเร็วของบริษัท
คุณทิวา ยอร์ค Head Coach/CEO ได้ให้ความเห็นกับทาง Appsynth ว่า ตั้งแต่ปี 2556 Kaidee วางแผนพัฒนาการตลาดแบบ app-first เน้นโมบายล์เป็นแพลตฟอร์มหลักการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ Kaidee ได้ทำความรู้จัก และเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงกลุ่มผู้บริโภค ที่เพิ่งเริ่มใช้งานอินเทอร์เน็ตครั้งแรกผ่านสมาร์ทโฟน
“ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้ Kaidee มีผู้ใช้งานผ่านโมบายล์แอปมากที่สุด เมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ ความสำเร็จครั้งนี้ มาจากความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์การซื้อ-ขาย ที่ง่ายและเร็วที่สุดสำหรับคนไทยเป็นหลัก” คุณทิวา กล่าว
จากแพลตฟอร์มการซื้อ-ขายออนไลน์ มาถึงธุรกิจสายการบินกันบ้าง
นกแอร์1 ในสายการบินโลว์คอสของไทย เป็นแอปที่ติด 20 อันดับแรก ด้วยการให้บริการเส้นทางการบินที่ครอบคลุม รวมทั้งแผนการตลาดเจาะจงไปยังผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม ทำให้นกแอร์เป็นทางเลือกต้นๆ
นอกจากนั้น นกแอร์ยังให้ความสำคัญ กับการให้บริการผ่านโมบายล์ ที่สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ทำให้เป็นโมบายล์แอป ได้รับความนิยมมากที่สุด ในบรรดาสายการบินภายในประเทศอื่นๆ
สุดท้าย แอป 1 เดียวใน 20 ชาร์ตแรก ของธุรกิจร้านค้าปลีก นั่นคือ เซเว่น–อีเลฟเว่น ผู้นำตลาดกลุ่มร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย
เซเว่น-อีเลฟเว่น ก้าวเข้ามาบนโมบายล์แพลตฟอร์มเพียงไม่นาน แต่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก แอป 7-Eleven TH เป็นแอปช่วยให้การใช้จ่ายในร้าน สะดวกมากขึ้น ไม่ว่าเป็นฟีเจอร์สะสมแสตมป์ดิจิทัลผ่านแอป ซึ่งง่ายกว่าการสะสมแสตมป์กระดาษแบบเดิมๆ รวมถึงการเข้าถึงโปรโมชั่น กิจกรรม และส่วนลดพิเศษอื่นๆ อีกมากมายผ่าน 7Rewards ซึ่งเป็น loyalty campaign หลักภายในแอป
ส่วนประกอบดังกล่าว ทำให้จำนวนผู้ใช้งานแอปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันแอป 7-Eleven TH ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และกลายเป็น 1 ใน 5 อันดับต้นของแอปพลิเคชันยอดนิยมในปี 2561 อีกด้วย