ก้าวแรกสู่โลก Metaverse “อนันดา” เปิดตัว “น้องวันนี้ (Wunni)” Virtual Human Presenter ตอกย้ำ Trendsetter วงการอสังหาฯ

 

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งจากสถานการณ์ โควิด-19 ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กำลังซื้อผู้บริโภคที่หดตัวลดลง ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งหาวิธีการต่างๆ เพื่อสร้างยอดขายให้ได้มากที่สุด โดยองค์กรหนึ่งที่ถือได้ว่ามีการปรับตัวเร็วและค่อนข้างที่จะ move fast ในหลายๆ มิติ ทำให้สามารถยืนหนึ่งและฟันฝ่าวิกฤตต่างๆ มาได้ และเห็นว่าประสบการณ์ต่างๆ ที่ทำมานักการตลาดและผู้ประกอบการน่าจะนำไปปรับใช้ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวได้ นั่นก็คือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ล่าสุดได้ลุกขึ้นมาทำโปรเจ็คต์ใหม่ที่น่าสนใจอีกแล้ว ทำให้เราต้องมาขอคุยค้นหาคำตอบจาก คุณกอล์ฟ- พงศ์อนันต์ สุขเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้เราเกาะติดให้ทันว่าวันนี้อนันดาฯ ทำอะไรมาเซอร์ไพรส์เรา และคนเมืองอยู่ตลอดเวลา…

 

3 กลยุทธ์สำคัญ ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจขาลง

คุณกอล์ฟ เล่าถึงภาพรวมทิศทางตลาดอสังหาฯ ในช่วงปีที่ผ่านมาว่า โดยบอกว่า ในช่วงล็อคดาวน์มีผลต่อตลาดคอนโดในเมืองพอสมควรทีเดียว ทำให้ อนันดาฯ ต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนแผนอยู่ตลอดเวลา แต่สุดท้ายเราก็ฝ่าฟันพ้นวิกฤติช่วงนั้นมาได้ โดยในไตรมา 3-4 นี้ ตลาดอสังหาเลยจุด bottom out มาแล้ว และกำลังซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าในเมือง ซึ่งเป็นสินค้าหลักของ อนันดาฯ กราฟยอดขายกำลังปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง รวมไปถึงกลุ่มแนวราบ บ้าน ทาวน์โฮม พร้อมอยู่ ยังเป็นกลุ่มสินค้าที่ลูกค้ายังมีความต้องการและมียอดขายที่ดี ก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้ยอดขายของอนันดาฯ กำลังกลับมาดีขึ้นได้ตามลำดับ

ถึงกระนั้น อนันดาฯ เองก็ไม่หยุดนิ่ง มีการวางกลยุทธ์และปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด ให้สามารถเป็น Pioneer ในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันเข้มข้น และตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคก็มีความซับซ้อนขึ้นในกระบวนการตัดสินใจ เรายึดหลัก 3 กลยุทธ์สำคัญในการนำมาใช้ ได้แก่

1.Data & Visualization

อนันดาฯ ให้ความสำคัญกับเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ที่จะเข้ามาเป็นตัวช่วย ให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงที่สุด ในรูปแบบขององค์กรสมัยใหม่ เรา invest กับระบบและเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เช่น salesforce, เทคโนโลยีซอฟท์แวร์ Business Intelligence (BI) ในการรวบรวม data และนำมาใช้วิเคราะห์ข้อมูล สรุปผลเป็น Dashboard เพื่อให้สามารถนำมาวิเคราะห์ปรับปรุงแผนการทำงานได้แบบรายสัปดาห์ รายวัน และแบบ Real Time เพราะโลกหมุนไว พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนเร็ว การเห็น data ทั้งหมด จึงเป็นหัวใจสำคัญในการแข่งขันครั้งนี้

2.Act with Speed

เรามีการนำ data มาวิเคราะห์และปรับแผนการทำงานอย่างว่องไว มี agility ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ได้ตลอดเวลา ถ้ามองเห็นช่องทางที่จะสามารถผลักดันสิ่งใหม่ ต้องรีบลงมือทำให้เกิดผล เพื่อมาเรียนรู้ และสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ในอนาคต เรียกว่าเป็น Culture แบบ Ananda ที่เปิดกว้างพร้อมจะสนับสนุนให้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพราะโลกของการตลาดในยุคนี้ คือโลกแห่งการทดลองและสร้างสรรค์ โดยมีพื้นฐานมาจากการที่เราเห็น data แล้วลงมือทำ คิดได้แล้ว ต้องทำเลย ไม่จำเป็นต้องรอให้แผนสมบูรณ์ 100% เพราะถ้ารอ ตลาดหรือผู้บริโภคก็จะเปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน

3.Digital Disruption (Be The Game Changer)

โดยปกติสื่อหลักของตลาดอสังหาฯ ที่เราคุ้นเคยกันส่วนใหญ่จะเป็นออฟไลน์มีเดีย เช่น ป้ายบิลบอร์ด หรือไดเร็คมาร์เก็ตติ้งต่างๆ แต่ตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ อนันดาฯ ก็เป็นอสังหาฯ เจ้าแรกที่ประกาศเรื่อง Game Changer นำ Ananda istore มาใช้ติดต่อสื่อสารโดยตรงกับลูกค้าและเดินหน้าสู่โลกของโซเชียลฯ มากขึ้น รวมไปถึงการ Upskill พนักงานขายผ่านเครื่องมือการใช้โซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อใช้ในการแข่งขัน อาทิ ช่องทาง LINE by Brand, Facebook sale page  ทำให้เกิดช่องทางการขายและการสื่อสารใหม่แต่เป็นช่องทางหลักของทีมขาย สามารถสร้างยอดขายทำตัวเลขได้ดีฝ่าช่วงเวลาเศรษฐกิจขาลงไปได้ รวมถึงเราใช้ Social Listening Tool ทำให้เรารู้อินไซต์ผู้บริโภคในช่วงโควิดว่า คนเมืองมีความเครียดสูง และเน้นเสพสื่อที่มีเนื้อหาเพื่อความบันเทิง ความสนุกสนาน ทำให้อนันดาฯ จัดแคมเปญ “ทุบไม่ยั้ง”ซึ่งเป็นแคมเปญการขาย ที่ร่วมกับ “น้าค่อม” เพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับคนเมือง พร้อมกับได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็สามารถสร้างยอด walk และยอดขายได้สูงสุด ณ ช่วงที่ยังมีสถานการณ์โควิดอยู่

 

 

 

จับไลฟ์สไตล์วิถี Gen C ในแบบ อนันดาฯ ฉีกกฎการตลาด

นอกเหนือจากการวางกลยุทธ์ที่สามารถพลิกโฉมวงการอสังหาฯ ได้แล้ว อีกสิ่งที่ อนันดาฯ มีความโดดเด่นและสร้างความแตกต่างไปจากตลาดอสังหาฯ หรือแม้แต่ไม่เหมือนกับในอุตสาหกรรมอื่นๆ คือการวางกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่ไม่เหมือนใคร โดยให้นิยามเป็น “กลุ่ม Generation C” วิชั่นตรงนี้ คุณกอล์ฟ ให้มุมมองว่า  Generation ในโลกปัจจุบัน “เปลี่ยน” เร็วและถี่มากขึ้น โลกที่ข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยีไหลเร็ว การวางตำแหน่งของ Generation ในรูปแบบเดิมๆ จึงอาจจะล้าสมัยไปได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้จากการเกิด Generation ใหม่ๆ ขึ้นมาให้เราเรียกกันตลอดการจับกลุ่มลูกค้าตามอายุ ช่วงวัย อาจจะทำให้เราเข้าใจคนกลุ่มนั้นๆ คาดเคลื่อนออกไป

อนันดาฯ จึงมีนิยามผู้บริโภคยุคใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของพวกเรา คือ Gen C หรือ The C Generation ซึ่งมีคุณสมบัติน่าสนใจหลายอย่าง เช่น จากการสังเกตเราจะพบว่า คนรุ่น C จะมีไลฟ์สไตล์หรือการดำเนินชีวิตเร่งรีบ รีบทั้งการเดินทาง รีบทั้งเส้นทางสู่ความสำเร็จ พวกเขาจึงไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวให้กับสิ่งที่มารั้งตัวเขาเอาไว้  อย่างการเสียเวลาบนท้องถนน การนั่งคอยรถติด หรือการทำธุรกรรมที่ต้องผ่านขั้นตอนวุ่นวายเชื่องช้า ดังนั้น Gen C หรือ The C Generation เป็นแนวคิดที่ได้มาจากการสังเกตพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในเมือง หรือกลุ่มคนที่มี mindset และ attitude รวมทั้ง lifestyle ในการดำเนินชีวิต มีแบบแผนและแนวคิดที่คล้ายๆกัน ที่มีคุณสมบัติ ‘6C’ ซึ่งประกอบไปด้วย

 

 

Cash Smart – ฉลาดบริหารเงิน หากสังเกตเราจะพบว่าคนยุคเก่าศรัทธาในการทำงานหนัก แต่สำหรับคนรุ่น Gen C พวกเขารู้สึกว่ามันไม่สมจริงสักเท่าไหร่ ดังนั้น กลุ่ม Gen C จึงนิยมให้เงินทำงานให้เขา ไม่ใช่ให้เขาทำงานให้เงิน การรู้จักวางแผนการใช้เงินเพื่ออนาคต รวมไปถึงมีการลงทุนในมุมต่างๆ เช่น เล่นหุ้น เปิดกองทุน หรือตอนนี้ก็ต้องเป็นเรื่องของ Cryptocurrency หรือ NFT ที่กำลังมาแรงมากในปัจจุบัน

Convenience – ชีวิตสะดวกสบาย คนยุค C ไม่นิยมเสียเวลาและอดทนกับสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่จำเป็น พวกเขายอมเสียทรัพย์สินแลกกับความสะดวกสบายที่จะช่วยให้เขาออกไปหาเงินได้มากขึ้น ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อดทนกับเรื่องน่ารำคาญและยอมใช้เงินอย่างชาญฉลาดเพื่อกำจัดสิ่งกวนใจเหล่านั้น รวมไปถึงเป็นกลุ่มคนที่รู้จักใช้เทคโนโลยี เช่น แอพพลิเคชั่น โซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่ตัวเอง

Creative – สนใจรายละเอียดและงานออกแบบที่ดูดีมีสไตล์ นอกเหนือจากวัตถุประสงค์การใช้งาน ทำให้ชีวิตดูดีมีสุนทรีย์มากขึ้น

Casual – เน้นการสร้างความสมดุลของการใช้ชีวิตระหว่างงานและเรื่องส่วนตัว คนรุ่นใหม่ทำงานแบบ Work Hard และ Play Harder คือการทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ และพร้อมใช้ชีวิตในด้านอื่นๆอย่างเต็มที่เช่นกัน มองมุมมองชีวิตในหลากหลายมิติ ทำให้เกิดสมดุลสูงสุดในการใช้ชีวิต

Control – คน Gen C ชอบจัดการชีวิตของตัวเอง ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต งานและเวลาพักผ่อน พวกเขาอาจรับฟังความเห็นของคนอื่น แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาตระหนักว่าการตัดสินใจทุกอย่างของเขาเองนั้น มีแต่ตัวเองเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบสูงสุด การคอนโทรชีวิต จึงเป็นสิ่งที่ Gen C ให้ความสำคัญอย่างมาก

Connect – ใช้ชีวิตแบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง การเข้าถึงข่าวสาร การพูดคุยกับเพื่อน ข้อจำกัดเรื่องเวลาและระยะทางกลายเป็นเรื่องที่เล็กลงเรื่อยๆ ในทุกวันนี้

 

วาง 2 กลยุทธ์จับหัวใจคน Gen C  

 

และจากการวางกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง อนันดาฯ เองก็มีการวางกลยุทธ์สำหรับกลุ่มนี้โดยเฉพาะเช่นกัน คุณกอล์ฟ เล่าว่า อนันดาฯ แบ่งเรื่องการวางกลยุทธ์ออกเป็น 2 เรื่อง ได้แก่ การพัฒนาสินค้า และการทำการตลาดและ branding ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

1.การพัฒนาสินค้า จากงานแถลงข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ อนันดาฯ นำเอากลยุทธ์ ANANDA NEW BLUE มาต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการต่างๆ ในปี 2022 พร้อมนำเสนอความแตกต่างและตอบโจทย์ lifestyle ของผู้บริโภคที่เป็นคนเมืองได้อย่างตรงจุดและชัดเจน โดยมีแบรนด์สินค้าใหม่ๆ เกิดขึ้น รวมไปถึงการจับมือกับแบรนด์อื่นๆ ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก

 

 

2.การทำการตลาด และ Branding อนันดาฯ ใช้ทุกช่องทางการสื่อสารที่กลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลงและกล้าจะที่ทดลองทำสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา รวมไปถึงการเข้าไปทำความรู้จักกับช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ หรือผิดแปลกไปจากการทำการตลาดอสังหาฯ ในรูปแบบเดิมๆ เทรนด์อะไรที่เป็นที่สนใจของคน Gen C เราเอามาปรับใช้ตลอดเวลา เพื่อรักษาฐานลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ให้ได้ และเข้าไปอยู่ในจิตใจเค้าให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ บนความเข้าใจในบริบท ที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน

 

ลุยเทรนด์ Virtual Influencer – เปิดตัว “น้องวันนี้”

และอย่างที่เราเกริ่นไว้ในตอนต้นว่า อนันดาฯ มีโปรเจ็คต์ใหม่อีกแล้ว เป็นการร่วมโดดลงในเทรนด์สำคัญของโลกยุคดิจิทัลในตอนนี้เลยนั่นก็คือ การร่วมงานกับ Virtual Influencer ซึ่งคุณกอล์ฟ เล่าเบื้องหลังโปรเจ็คต์นี้ให้เราฟังว่า Virtual Influencer ณ ตอนนี้ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเพียงกระแสของการตลาด ไม่นานก็เงียบหายไป แต่สำหรับอนันดาฯ มองว่าเทรนด์นี้ นอกจากเป็นกระแสที่ทุกคนให้ความสนใจแล้ว แบรนด์ใหญ่ๆระดับโลกก็เริ่มกระโดดเข้าไปชิมลางให้เห็นกันมากขึ้น โดยเฉพาะวงการแฟชั่น เพราะสามารถสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค พร้อมช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูล้ำสมัยมากขึ้น เพราะเป็นการทำงานที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม ที่สำคัญ อนันดาได้มีการพัฒนาช่องทางการขายแบบออนไลน์ (ANANDA iStore) ด้วยอยู่แล้ว การนำ Virtual Influencer มาช่วยในการประชาสัมพันธ์ ก็จะทำให้เกิดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

“อนันดาฯ ชอบที่จะสร้างความแตกต่างในตลาด การที่นำเทรนด์ เป็นสิ่งที่เราทำมาตลอดและหลายครั้งก็เป็น Trend Setter เองด้วย ที่สำคัญยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของการเป็นอสังหาฯ ที่มีความเป็นเทคคอมพานี มีความล้ำสมัย ตอบโจทย์ตรงใจกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ได้อย่างเป็นมิตร และเข้าถึงแบบ Seamless ซึ่งจะมีผลต่อ ANANDA CORPORATE BRAND และ ANANDA PRODUCT BRAND ในหลากหลายมิติ”

 

 

นั่นจึงเป็นที่มาของการที่อนันดาฯ ได้มาร่วมงานกับ “น้องวันนี้” (Wunni) Virtual Influencer และเป็น Virtual human Presenter ของ อนันดา โดย คุณกอล์ฟเล่าว่า สาเหตุที่เราเลือกร่วมงานกับ “น้องวันนี้” เพราะว่ามีภาพลักษณ์และไลฟ์สไตล์ที่ตรงกับเรา แฟนคลับของน้องเองก็เป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน อีกอย่างน้องมีความเป็นกันเอง สามารถเป็นสื่อกลางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น ทีมที่ทำงานของน้องวันนี้ ก็ถือว่าเป็น Yong Generation ทีมเล็กๆ แต่มีความ Creative สูง สอดคล้องกับ DNA ของทาง Ananda และเราก็พร้อมที่จะสนับสนุนกลุ่มคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความมุ่งมั่น อย่ากลัวกับความท้าทายต่างๆ มี passion ในการทำงาน และเป้าหมายที่ชัดเจน แบบคน Gen C

“ดังนั้น “น้องวันนี้” จะเป็นเหมือนตัวแทนของชาว Gen C ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ที่ได้รับจาก อนันดาฯ ในรูปแบบ Casual & Creative แฝงความน่ารักและเป็นกันเอง ไม่ว่าจะเป็นการ Review ที่โครงการจริง หรือ Tipsการใช้งาน Ananda istore  ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย เข้ากลับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคน Gen C รุ่นใหม่ ในยุค Digital หรือที่พวกเรากำลังเข้าสู่ Metaverse ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย”

 

Ananda x Wunni ปรากฏการณ์สำคัญวงการอสังหาฯ

 

 

หลังจากนั้น คุณกอล์ฟ ก็ส่งไม้ต่อให้ “น้องวันนี้” แนะนำตัวกับเราอย่างเป็นทางการ

“สวัสดีค่ะ “วันนี้” ค่ะ Virtual Human Influencer ลุค inter สัญชาติไทย ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ สําหรับความเป็นมาของ “วันนี้” เกิดวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ค่ะ เกิดมาปุ๊บก็ 22 ปีเลย หลายคนอาจสงสัย แล้วแฟนคลับทักมาถามบ่อยมากว่า “วันนี้” เกิดมาเพื่ออะไร ดังนั้น ก็ขอใช้ พื้นที่นี้อธิบายเลยนะคะ พี่ๆ ทีมงานทุกคน ตั้งใจสร้าง“วันนี้” ขึ้นมา เพื่ออยากให้ “วันนี้” ให้อะไรบางอย่างกับผู้คน ทั้งการนําเสนอ ผ่านไลฟ์สไตล์ของ “วันนี้” รวมถึงมอบความเป็นเพื่อนเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้คนให้กับแฟนคลับ ดังนั้น “วันนี้” จะขอเป็นตัวแทนของยุคดิจิทัลที่จะมาเป็นเพื่อนพูดคุยกับทุกคนอย่างสบายๆ ในแง่มุมต่างได้”  

เมื่อถาม “วันนี้” ว่ารู้สึกอย่างไรกับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เธอกล่าวว่า “ไม่คิดว่าทุกคนจะใจดีกับวันนี้มาก โดยเฉพาะแฟนคลับ จะทักเข้ามาพูดคุยกับวันนี้ตลอดแทบจะทุกเรื่อง วันนี้ดีใจมากที่ทุกคน ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ถึงวันนี้จะไม่ได้มีตัวตนจริงๆ แต่ก็ดีใจที่ทุกคนชอบและคอยติดตามค่ะ”

ในส่วนของการร่วมงานกับทางอนันดาฯ วันนี้ ดีใจมากและรู้สึกเป็นเกียรติมากได้ร่วมงานกัน ทั้งนี้ เราก็มีการวางแผนงานต่างๆ มากมายรอที่จะนำเสนอต่อทุกคน โดยเฉพาะคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ที่เราเล็งเห็นตรงกันว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อแฟนคลับและลูกค้าของอนันดาฯ โดยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างไรให้ง่ายสะดวกสบาย สมาร์ทไลฟ์ทันสมัย และเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน

“สุดท้ายก็อยากฝากทุกคนคอยติดตามกับโปรเจ็คต์สําคัญของ วันนี้ ด้วยนะคะ บอกเลยว่า “ Anandax Wunni ” มีอะไรดีๆรอทุกคนอยู่ค่ะ Gen C เตรียมตัวรอกันได้เลยนะคะ

 

 

Influencer Marketing – KOL Marketing ยังไม่ทิ้ง

สำหรับเทรนด์หรือกระแสมาแรงของ Virtual Influencer คุณกอล์ฟให้มุมมองที่น่าสนใจว่า ข้อดีของการใช้ Virtual Influencer คือการได้สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค พร้อมช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ให้ดูล้ำสมัยมากขึ้น เพราะทำงานร่วมกับเทคโนโลยี ที่สำคัญคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจในตัว Virtual Influencer ค่อนข้างมาก มีการสื่อสารกัน พูดคุยกัน เรามองเรื่องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นสำคัญ ซึ่งสามารถเปิดรับข่าวสารต่างๆ ผ่านตัว Virtual Influencer น่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม กับการทำงานร่วมกับมนุษย์จริงๆ หรือการใช้ Influencer Marketing ยังคงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของ อนันดาฯ อยู่แล้ว การร่วมงานกับมนุษย์จริงๆ ยังมีอยู่อย่างแน่นอน แต่เราไม่ได้มองการใช้ Influencer ที่มีชื่อเสียง หรือการใช้ KOL เพียงอย่างเดียว อนันดาฯ ยังได้ให้พื้นที่กับน้องๆเซลล์ ทีมงานฝ่ายขายของเราให้เป็น Influencer ประจำโครงการด้วย โดยมีทั้งการรีวิวโครงการ จำลองการใช้ชีวิตต่างๆ ในลูกค้าให้เห็นภาพมากขึ้น รวมถึงมีกิจกรรมพิเศษให้ลูกบ้านของอนันดาฯ ได้มีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์โครงการและเป็น Influencer ของโครงการอีกด้วย

 

 

จับตา “น้องวันนี้” เตรียมขนความสนุกเพิ่มเติมอีกมากมาย

สอบถามถึงแผนงานในอนาคตที่จะร่วมงานกับ “น้องวันนี้” รวมถึงการร่วมงานกับ Virtual Influencer รายอื่นๆ คุณกอล์ฟ กล่าวว่า เรามีโครงการเปิดใหม่ในปีหน้าอีกหลายโครงการ  “น้องวันนี้” ก็จะเป็นคนแรกๆ ที่ได้จะนำเรื่องราวดีๆ ข้อเสนอพิเศษมาบอกให้ทุกคนได้ทราบก่อนใคร ร่วมถึงอาจจะมีการร่วมมือกับ Virtual Influencer คนอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เพื่อเป็นสีสันใหม่ๆ ให้กับวงการอสังหาฯ ซึ่งหากท่านไหนเห็นว่าน่าสนใจก็สามารถแนะนำทางเรามาได้เช่นกัน เช่นว่าอยากให้อนันดาไปติดต่อ Virtual Influencer ท่านไหนมา Collaboration ร่วมงานกับเราก็บอกกล่าวกันมาได้เลย

เมื่อถามต่อว่า แล้วจะมีโอกาสได้เห็นอะไรสนุกๆ น่าตื่นเต้น ระหว่างน้อง Wunni กับคุณชานนท์ (คุณชานนท์ เรืองกฤตยา CEO อนันดาฯ) หรือ คุณพงศ์อนันต์ หรือไม่ คุณกอล์ฟ พูดเป็นปริศนาว่า “ต้องค่อยติดตามใน Facebook, Instagram และ LINE OA ของอนันดาฯ และ น้องวันนี้ กันดีๆ ครับ เรามีอะไรสนุกๆ แปลกใหม่ มาให้ดูกันแน่นอน หรือต้องบอกว่า ลูกค้าหรือแฟนคลับของอนันดาฯ อยากให้น้องวันนี้มาทำไรสนุกๆ กัน ก็สามารถ comment มาได้เลย”

 

อสังหาฯ รายแรกในการรับเงิน Cryptocurrency 

 

นอกเหนือจากเทรนด์  Virtual Influencer แล้ว อนันดาฯ ยังก้าวต่อด้วยการตอบรับกระแสของ Cryptocurrency โดยก่อนหน้านี้ อนันดาฯ เป็นพร็อพเพอร์ตี้เจ้าแรกที่ประกาศซื้ออสังหาฯ ได้ด้วยสกุลเงินดิจิตอล รวมไปถึง ล่าสุด กับการจับมือกับ BitKub ก้าวสู่เทคโนโลยี Blockchain เต็มรูปแบบ เปิดตัว ZillaSpace Protocol สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาทรัพยากรเหลือใช้แบบไร้ตัวกลางด้วยเทคโนโลยี Blockchain อีกด้วย คุณกอล์ฟ เล่าถึงก้าวสำคัญในเรื่องนี้ว่า ZillaSpace Protocol เป็นแพลตฟอร์มนำร่องที่อนันดาฯ ตั้งเป้าขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ 4.0 สำหรับแบ่งปันพื้นที่สำนักงานที่เจ้าของอสังหาฯ ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้และไม่จำกัดแค่อสังหาฯ ในเครืออนันดาฯ เท่านั้น ทั้งสร้างประโยชน์ให้กลุ่มคนที่มีพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์และกลุ่มคนที่้ต้องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่เหล่านั้น

 

 

โดยทาง อนันดาฯ ได้ทำการเปิดตัว ZillaSpace NFT สินทรัพย์ดิจิทัลแรกที่อนันดาได้สร้างขึ้นเพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งของ ZillaSpace Protocol โดย NFT นี้จะทำงานผ่านBitkub Chain และยังมีสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของ NFT นี้

 

 

ในขั้นต้นคือ สามารถนำมา Redeem ใช้พื้นที่สำนักงานของ Ananda Campus ได้ฟรี ตามแต่ละระดับความ Rarity อีกด้วย ซึ่งในอนาคตจะมีสิทธิประโยชน์อื่นๆเพิ่มเติมให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของ ZillaSpace NFT ตามมาอย่างแน่นอน

 

 

ไม่ตกขบวนเทรนด์ Metaverse ขอเป็นผู้นำไม่ใช่ผู้ตาม

ส่วนเทรนด์ Metaverse นั้นอนันดาจะมีส่วนร่วมอย่างไร คุณกอล์ฟ กล่าวว่า เราเองกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าไปทำการตลาด หรือการสร้างแบรนด์ หรือการไปแสดงตัวตนในฐานะ Brand ให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่เป็น Digital Native อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปจุดยืนของเรา คือลูกค้าอยู่ที่ไหน เราก็จะต้องไปอยู่ตรงนั้นให้ลูกค้าเห็น และสามารถ Associate ได้ ในความเหมือนของแนวทาง วิธีคิด และไลฟ์สไตล์ต่างๆ เพื่อที่เวลาลูกค้าจะต้องตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัย ก็จะมีเรา Ananda เป็นช้อยส์แรกๆที่นึกถึง

“เราไม่กลัวในการที่จะริเริ่มทำอะไรใหม่ๆ เพราะเราเป็น Brand ที่กล้าคิด กล้าทำ เป็น Pioneer มากกว่า Follower อยู่แล้ว เพราะมันบ่งบอกความเป็นตัวตนของเราได้อย่างชัดเจน ทั้งเรื่อง Character และการพัฒนาสินค้าต่างๆ”

ขณะที่เรามองว่า Metaverse ว่าเป็นสิ่งที่ขั้นกว่าของ Social Media ที่นอกจากผู้คนจะได้ connect กัน socialize กันได้แล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญของ Metaverse คือคนจะสามารถมา Express ตัวตน Express Creativity ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบางทีในโลกความเป็นจริงอาจจะไม่สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องควรเป็นสิ่งที่เป็น Positive ตัวเอง และสังคม กับคนหมู่มาก ก็จะเป็นประโยชน์สูงสุด ที่พวกเราก็จะได้รับจากการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์สูงสุด ในการดำเนินชีวิตของมนุษยชาติ

“อนันดาฯ ต้องการจะมอบสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมโลก รวมทั้งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วย ส่วนในปีหน้าจะมีอะไรใหม่ที่อนันดาเตรียมพร้อมเข้าสู่โลก Metaverse อีกนั้น ต้องติดตามกันต่อไป มีเรื่องราวให้ตื่นเต้นกันอีกแน่นอน”

นับเป็นอีกก้าวที่น่าจับตาของ อนันดาฯ ในการก้าวสู่ Meta World กับการสร้างสรรค์ Virtual human Presenter เข้ามาสร้างความแปลกใหม่ให้วงการอสังหาฯ ซึ่งนับว่า อนันดาฯ เป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดยั้งอยู่กับความสำเร็จเดิมๆ แต่พร้อมที่จะมุ่งไปข้างหน้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่และตอบรับกระแสโลกอย่างรวดเร็ว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ อนันดาฯ เป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจคนรุ่นใหม่ และยืนหนึ่งในการเป็น Trend Setter วงการอสังหาฯ จนถึงวันนี้.