หากนับช่วงเวลาก่อนการแพร่ระบาดจะพบว่า โลกเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ ซึ่งส่งผลต่อธุรกิจจำนวนมาก เมื่อการแพร่ระบาดมาถึงจึงกลายเป็นการซ้ำเติมธุรกิจที่ต้องประสบปัญหามาก่อนหน้านี้ หนึ่งในนั้นคือสายการบิน ANA (All Nippon Airways) ของญี่ปุ่นที่ประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง พร้อมสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ แต่เมื่อการแพร่ระบาดเกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อรายได้ โดยในปีงบประมาณ 2563 (เม.ย.-ธ.ค.) พบขาดทุนกว่า 3 แสนล้านเยนหรือราว 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำสถิติขาดทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ANA Holdings Inc. จึงเตรียมวางแผนปลดพนักงานลงประมาณ 20% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจำนวนพนักงานในธุรกิจจะลดลงเหลือ 30,000 คนภายในเดือนมีนาคม 2569 จากเดิมที่เคยมี 38,000 คน ซึ่งเป็นการลดทั้งจากการลดจ้างงานใหม่และการปลดเกษียณอายุ แผนการลดต้นทุนของสายการบินรายใหญ่ของญี่ปุ่นตั้งเป้าสามารถลดต้นทุนได้ถึง 1 แสนล้านเยนในช่วง 5 ปี นอกจากนี้ ANA ยังลดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วยยกเลิกเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศบางเส้นทางและลดฝูงบินลง รวมถึงการปลดระวางเครื่องบินโบอิ้ง B-777 ที่ใช้สำหรับเที่ยวบินระยะไกล
ไม่เพียงเท่านี้ ANA ยังเตรียมปรับแผนการจ้างงานใหม่ประมาณ 3,000 คนทุกปี โดยบริษัทจะปรับลดการจ้างงาน โดยวางแผนลดการจ้างงานประมาณ 700 คน เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนและมีแผนปรับลดการจ้างงานลดเหลือประมาณ 200 คนในปี 2565 เพื่อเข้ามาทดแทนพนักงานที่ต้องออกจากบริษัททุกปีประมาณ 2,000 คน นอกเหนือจากธุรกิจการบินแล้ว ANA ยังดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และไอที คาดว่าปัจจุบันจะมีพนักงานทั้งหมดเหลือประมาณ 46,000 คน
Source: Japan Today