[บทความนี้เป็น Advertorial]
แม้เทรนด์สุขภาพจะกลายเป็นหนึ่ง Mega Trend ทั่วโลก เพราะผู้คนหันมาใส่ใจตนเองมากขึ้น กลุ่ม Silver Age มองหาวิธีดูแลตนเอง หรือสถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้สุขภาพกลายเป็นประเด็นสำคัญ ทั้งหมดนี้ล้วนขับเคลื่อนให้ ตลาดอาหารเสริม เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเติบโตหลัก ๆ มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์คอลลาเจน จึงทำให้เราได้เห็นการแจ้งเกิดทั้งแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่มากมาย
อะไรคือเสน่ห์ของผลิตภัณฑ์คอลลาเจน ?
ความท้าทายในธุรกิจผลิตภัณฑ์คอลลาเจนที่พบได้ คือ มีแบรนด์ใหญ่เป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว ดังนั้น การสร้างชื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์น้องใหม่จึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังถือเป็นตลาดที่มีโอกาสรออยู่อีกมาก เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันต้องการตัวเลือกหลากหลายในการตัดสินใจซื้อ และยังพร้อมเปิดใจ ทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ แบรนด์ใหม่ ๆ ไม่ได้ยึดติดแค่แบรนด์เดิมที่คุ้นเคย
เมื่อตลาดยังเต็มไปด้วยโอกาสและเปิดกว้างสำหรับแบรนด์ใหม่ ‘Allness’ (ออลเนส) จึงเข้าสู่ตลาดคอลลาเจนในประเทศไทย โดยเปิดตัวพร้อมกับสโลแกน Allness รวมสิ่งดีดีไว้ในหนึ่งเดียว เพื่อสร้างการรับรู้และตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์โดยสื่อถึงผลิตภัณฑ์ว่าเป็นผู้นำตัวจริงด้านคอลลาเจน โดยเป้าหมายระยะแรกของ Allness คือ การแนะนำแบรนด์กับผู้บริโภคเป้าหมายอย่างกลุ่มผู้รักสวยรักงาม ให้ความสำคัญกับผิวพรรณและสุขภาพ ได้รู้จักกับ Allness ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสริมโดยเฉพาะคอลลาเจน ส่วนเป้าหมายระยะยาว คือ การเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคจดจำได้และเป็น Top of mind ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนในใจของผู้คน ก่อนจะต่อยอดสู่เป้าหมายสูงสุดในการเป็นแบรนด์ชั้นนำด้านการดูแลสุขภาพและผิวพรรณ
เปิดตัว Allness กับโจทย์แรก คอลลาเจน เพื่อคนทุกกลุ่ม
ถึงจะทำให้ผู้คนได้รู้จักในฐานะแบรนด์น้องใหม่ในสมรภูมิคอลลาเจน แต่ประสบการณ์ในตลาดนี้ของ Allness กลับอยู่ในบทบาทผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากมีประสบการณ์ในการผลิตคอลลาเจนให้กับแบรนด์ต่าง ๆ มาก่อน ดังนั้น จึงกลายเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบทางธุรกิจ เพราะแบรนด์ได้มีโอกาสเรียนรู้และศึกษาตลาดมาเป็นเวลานานก่อนจะผันตัวมาลงสนามเป็นหนึ่งในผู้เล่น ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์เลือกเปิดตัวเพื่อชิมลางตลาดจึงมีทั้งที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ รวมถึงผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและผิวพรรณ
โดย Allness เลือกเปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใน 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ Allness Collagen Delphinol Peach Flavour (ออลเนส คอลลาเจน เดลฟีนอล กลิ่นพีช) กับ Allness Collagen Fruit Punch Flavour (ออลเนส คอลลาเจน กลิ่นฟรุ๊ตพั้นซ์) เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลตนเอง และ Allness Pearl Collagen Plus (ออลเนส เพิร์ล คอลลาเจน พลัส) เพื่อเจาะกลุ่มผู้รักสุขภาพและต้องการดูแลผิวพรรณ
Allness Collagen Delphinol Peach Flavour : ด้วย Delphinol ซึ่งมีสารสกัดจากมากิเบอร์รี่ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุดในธรรมชาติ ช่วยชะลอวัยในระดับเซลล์ จึงสามารถลดการอักเสบและรอยแดง ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น และมี Astrareal สารต้านอนุมูลอิสระและอุดมด้วยวิตามินแร่ธาตุ
Allness Collagen Fruit Punch Flavour : มี Dermaval สารอาหารที่รวบรวมคุณประโยชน์ของซูเปอร์ฟู้ดถึง 9 ชนิด ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง กระชับ และขาวกระจ่างใส ปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด
Allness Pearl Collagen Plus : มีสารสกัดจากกระดูกอ่อนสันจมูกปลาแซลมอน โปรตีนที่มีความบริสุทธิ์สูงซึ่งมีจำนวนเพียงเล็กน้อยในปลาแต่ละตัว โดยสามารถช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อได้เป็นอย่างดี รวมกับ มะเขือเทศสีขาว ส่วนผสมระดับแรร์ไอเทมเพื่อช่วยให้ผิวดูดีชุ่มชื่น ขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
ทำตลาดในวันที่ต้องแข่งดุ! Allness ได้ประโยชน์ หรือเสียเปรียบ ?
อย่างที่รู้กันดีว่าตลาดคอลลาเจนในประเทศไทย ตอนนี้มีหลากหลายแบรนด์ที่ทำตลาดและแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่การเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในตลาด ต้องบอกว่า Allness เข้ามาในจังหวะที่ไม่เสียเปรียบใคร! เพราะผู้บริโภคคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์มาระยะหนึ่งแล้ว ลูกค้าบางกลุ่มอาจมีโอกาสได้ทดลอง เรียนรู้ผลิตภัณฑ์มาแล้วหลากหลายแบรนด์ ซึ่งแน่นอนว่าการเข้ามาทำตลาดของแบรนด์ใหม่ ๆ อาจดึงดูดความสนใจให้พวกเขาหันมาเปิดใจกับ Allness ได้ไม่มากก็น้อย
เพราะจาก Insight ผู้บริโภคในหลายต่อหลายผลิตภัณฑ์ จะพบว่ายุคนี้ผู้บริโภคให้น้ำหนักไปที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก หากมีแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาทำให้พวกเขาสนใจได้ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลของความพรีเมียม วัตถุดิบที่ให้ประโยชน์ได้ตรงกับความต้องการ หรือแม้แต่การทำตลาดที่โดนใจ ก็ล้วนแต่เป็นเหตุผลสนับสนุนให้ผู้บริโภคยุคดิจิทัลเปิดใจต้อนรับแบรนด์ใหม่ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งโจทย์เหล่านี้ Allness ก็ทำได้ดีทุกด่าน ทั้งแง่ของการนำเสนอคุณภาพ การเลือกวัตถุดิบพรีเมียมมาใช้ จึงช่วยสร้างความแตกต่างให้แบรนด์แข่งขันในตลาดคอลลาเจนของไทยได้อย่างแน่นอน
เมื่อ ‘พรีเซ็นเตอร์’ กลายเป็นกลยุทธ์ไม้เด็ด
ต้องยอมรับว่าการทำตลาดโดยใช้เหล่าคนดังมารับบทพรีเซ็นเตอร์ กำลังกลายเป็นกลยุทธ์ที่แบรนด์ใหญ่เลือกใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่ง Allness ก็สร้างเซอร์ไพร์สด้วยการใช้กลยุทธ์ดังกล่าว โดยเลือกนักแสดงขวัญใจคนรุ่นใหม่อย่าง นาย – ณภัทร เสียงสมบุญ มาเป็นตัวแทนเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่น่าจับตา ไม่ใช่แค่ประเด็นที่ว่าเขากำลังเป็นนักแสดงมากฝีมือที่หลายต่อหลายคนชื่นชอบ แต่นี่คือครั้งแรกของการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์คอลลาเจนของเขา จึงสะท้อนความพิเศษและพรีเมียมของแบรนด์ Allness ได้ในระดับหนึ่ง
แน่นอนว่าในส่วนของภาพลักษณ์นั้น นาย สอบผ่านและเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้อย่างมาก จากบุคลิกที่ดูดี สุขภาพดูแข็งแรง และยังมีผิวพรรณขาวกระจ่างใส เมื่อรวมเข้ากับสโลแกนในการโฆษณาและทำตลาดที่ว่า “ถ้าน้อยกว่านี้ก็ไม่ใช่นาย” ด้วยแล้ว ยิ่งช่วยสร้างภาพลักษณ์และสร้างการรับรู้ที่ดีแก่ Allness ได้อย่างลงตัวทุกมิติ
เป้าหมายไม่ได้อยู่แค่ไทย แต่มองไกลขยายตลาดสู่อาเซียน
หลังจากเปิดตัวเล่นใหญ่เช่นนี้ แน่นอนว่า Allness ไม่ได้วางเป้าหมายแค่การทำตลาดในประเทศไทย แต่ยังมีเป้าหมายระยะยาวในการขยายตลาดสู่อาเซียนอีกด้วย ซึ่งคาดการณ์ได้ว่าหลังจากแบรนด์วางรากฐานและทำตลาดในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่งแล้ว ก็จะต่อยอดสู่ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนต่อไป โดยในส่วนของผลิตภัณฑ์เองก็มีความพรีเมียมและเน้นตอบโจทย์การเป็นอาหารเสริมกลุ่มคอลลาเจน สำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องผิวพรรณและสุขภาพ ทั้งยังทำให้เหมาะแก่การชงดื่มได้ทุกวันด้วยการเลือกเปิดตัวรสชาติที่คนไทยชื่นชอบอย่างกลิ่นพีช และกลิ่นฟรุ๊ตพั้นซ์ เพื่อมอบความสดชื่น ชวนดื่ม ควบคู่ประโยชน์จากคอลลาเจนที่ผู้บริโภคจะได้รับ หรือแม้แต่ความกังวลด้านกลิ่นหรือรสชาติ Allness ก็ยังคิดเผื่อไว้แล้วด้วยการเปิดตัวสูตร Pearl ออกมาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับอาหารเสริมคอลลาเจนอยู่แล้ว
ทั้งหมดนี้ไม่ได้สะท้อนแค่ความเป็นมืออาชีพที่คิดมาแล้วของ Allness แต่ยังบอกได้ว่า แบรนด์ได้ศึกษาและคิดเผื่อผู้บริโภคมาแล้วในระดับหนึ่ง จากการคัดเลือกวัตถุดิบระดับพรีเมียมมาบรรจุในกระป๋อง เพื่อเสริ์ฟเป็นคอลลาเจนคุณภาพตอบโจทย์คนไทยที่ใส่ใจผิวพรรณและสุขภาพ
สั่งก่อนสวยก่อนได้ที่
INBOX : https://m.me/111047574609798
IG : https://www.instagram.com/allnesscollagen
LINE@ (สั่งสินค้า) : https://lin.ee/NAwmntS
Web : www.allness.co.th
[บทความนี้เป็น Advertorial]
