ตอนนี้หลายคนตื่นเต้นกับ “ALL NEW MG 5” รถยนต์รุ่นใหม่ของ MG ที่กำลังจะเข้ามาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เหตุที่ทำให้รถรุ่นนี้ถูกมองเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่น่าจับตามองมากที่สุดในช่วงครึ่งหลังปี 64 คือกระแสการเปิดตัวในประเทศจีนที่ร้อนแรงมาก จนมีความเป็นไปได้สูงว่า ALL NEW MG 5 จะเขย่าตลาดรถกลุ่ม Eco & B-Segment ในประเทศไทยให้คึกคักยิ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด
แม้จะยังต้องลุ้นการประกาศอย่างเป็นทางการจากค่าย MG ว่าจะนำ ALL NEW MG 5 มาทำตลาดช่วงไหนในปีนี้ แต่สิ่งที่แน่นอนคือ การเปิดขายในประเทศไทยนั้นจะต่อยอดปรากฏการณ์ยอดขายโตซึ่ง MG สร้างชื่อได้สำเร็จในตลาดรถหลายประเทศ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่สามารถทำยอดขายงดงามในยุโรป
ความเคลื่อนไหวนี้ยังสะท้อนได้ถึงความดุเดือดในตลาดรถ Thai-built หรือรถที่ใช้ฐานการผลิตในไทย ALL NEW MG5 จะเป็นผู้เล่นในตลาดที่ถูกมองว่าสามารถดับเครื่องชนคู่แข่งแบรนด์บิ๊กทั้ง Toyota, Honda และ Mazda ได้ และเชื่อว่า ALL NEW MG5 จะอัดออปชั่นและตั้งราคาในระดับที่สามารถแข่งขันในกลุ่ม B-Segment ได้แบบสะใจ
ต่อยอดอาณาจักร MG
MG Motor หรือ Morris Garage เพิ่งเป็นข่าวใหญ่ว่าเริ่มแซงหน้าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงรายอื่นมากขึ้นในยุโรป เนื่องจากมีการเปิดตัวกลุ่มรถไฟฟ้าทั่วทั้งภูมิภาค ข้อมูลล่าสุดพบว่า MG Motor ที่ย้ายสัญชาติมาอยู่กับบริษัทจีน อย่าง SAIC นั้นสามารถจำหน่ายรถได้เพิ่มขึ้น 79% เป็นอัตราเติบโตที่แซงหน้า Alfa Romeo ไปเรียบร้อยแม้จะเป็นช่วงโควิด-19
MG ไปได้สวยด้วยการเปิดตัวรถ SUV ไฟฟ้า ขนาดเล็กและอีกหลายรุ่นในราคาคุ้มค่า ปัจจุบัน รถของ MG วางจำหน่ายใน 14 ประเทศทั่วยุโรปทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส สวีเดน และนอร์เวย์ แผนล่าสุดคือการเพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่ายในยุโรปอีก 2 เท่า เป็นมากกว่า 200 รายในปีนี้
ขณะนี้ MG Motor วางตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่นในยุโรป ได้แก่ MG ZS EV และ MG5 EV ที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึงรถไฮบริด MG HS Plug-in hybrid แต่สำหรับเอเชีย รถเครื่องยนต์เบนซินยังเป็นตัวหลักในการเปิดตลาดแมส โดยเฉพาะ ALL NEW MG5 ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศจีนไปอย่างร้อนแรง
ในส่วนของประเทศไทย ปี 2564 เป็นปีที่มีรถยนต์ จ่อเปิดตัวจำนวนไม่น้อย ทั้งในกลุ่ม SUV Segment / xEV / Pick-up แต่ที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ รถยนต์ในกลุ่ม B-Segment ซึ่งเป็นกลุ่มรถยนต์ที่ได้รับนิยมจากลูกค้าคนไทย เข้าถึงได้ง่าย ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน และให้ความคุ้มค่าคุ้มราคา
รถที่ถูกยกให้เป็น Raising star ในกลุ่ม B-Segment ที่กระแสดีของตลาดไทย หนีไม่พ้น ALL NEW MG 5 เพราะได้รับความสนใจ และถูกจับตามองมากที่สุด เห็นได้ชัดจากนับตั้งแต่มีข่าวการเปิดตัวในประเทศจีน สื่อมวลชนในประเทศไทยก็มีการตีข่าวการเปิดตัว พร้อมเผยข้อมูลต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และนับวันรอคอยว่าเมื่อไหร่ จะมาไทย
ดีกว่าในทุกมิติ
ปัจจัยที่ทำให้ ALL NEW MG 5 ได้รับความสนใจเช่นนี้คือจุดเด่นและสเปคของรถ ดีไซน์ภายนอกและภายในนั้นโดดเด่นมากด้วยสไตล์สปอร์ตหรูหรา ขณะเดียวกันก็ปรับคุณสมบัติให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนในทุกมิติ จนมีการตั้งข้อสังเกตว่า ALL NEW MG 5 เป็นรถรถ C-Segment ที่ทุกคนจะหาซื้อได้ในราคา B-Segment ด้วย
คาดกันว่า ALL NEW MG 5 ที่มาจำหน่ายในไทยจะเป็นรุ่น 180DVVT เครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร 120 แรงม้า เกียร์ CVT ซึ่ง MG จะสามารถอัดออปชันได้เต็มที่ บนราคาที่ไม่สูงเกินไปนักเมื่อเทียบกับรุ่นใหญ่ 300TGI” แบบมีพลังเทอร์โบซึ่งวางจำหน่ายในประเทศจีน
ในเชิงเทคนิก ALL NEW MG 5 ถูกแยกเป็น 2 รุ่นตามเครื่องยนต์และเทอร์โบ 300TGI เป็นรุ่นท็อปที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 173 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 275 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ DCT 7 จังหวะ ส่วนรุ่น 180DVVT ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ไม่มีเทอร์โบ กำลังสูงสุด 120 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
ALL NEW MG 5 ที่เปิดตัวในประเทศจีนนั้น มีเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะที่น่าสนใจอย่าง MG PILOT ที่ประกอบด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Automatic Emergency Braking)และระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ SAS (Speed Assistance System)
นอกจากนี้ยังมีกล้องช่วยจอดแบบ 360 องศา เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง PDC (Parking Distance Control) หรือ Parking Sensor ที่ไม่เพียงช่วยกะระยะถอยหลัง แต่ยังช่วยเตือนเวลามีรถมาขวางขณะที่กำลังถอย ทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีช่วยควบคุมการทรงตัว เช่นระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง XDS (Electronic Differential System) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ซึ่งจะทำงานร่วมกับ 8 ระบบย่อย
ทั้งหมดนี้เซียนรถยนต์เชื่อกันว่า ALL NEW MG 5 ประจำปีนี้จะมีราคาอยู่ในช่วง 550,000 – 750,000 บาท หากเป็นความจริง ราคานี้จะเป็นหนามตำใจคู่แข่งอย่าง Toyota, Honda และ Mazda ซึ่งต้องปรับตัวเพื่อแก้เกมกันยกใหญ่แน่นอน
ใครสนใจสเปคของ ALL NEW MG 5 สามารถลงลึกได้ที่เว็บไซต์ของประเทศจีน รวมถึงข้อมูลอื่นในภาษาไทยที่สื่อใหญ่หลายค่ายนำมาเรียกน้ำย่อยแล้วในขณะนี้ ส่วนใครที่อ่านแล้วอยากได้มาครอบครอง อาจต้องจับตามองการประกาศจาก MG อย่างใกล้ชิด ว่าจะนำ ALL NEW MG 5 มาทำตลาดในช่วงไหนของปีนี้กันแน่?